สมจิตร ลิขิตสถาพร นายกสมาคมแฟรนไชส์ไทย กล่าวว่า ธุรกิจแฟรนไชส์มีบทบาทในประเทศไทยมานานกว่า 20 ปีแล้ว ในการสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ที่ดำเนินกิจการแฟรนไชส์ หรือที่เรียกว่า แฟรนไชส์ซี่ ปัจจุบันมีมากกว่า 90,000 รายแล้ว และมีอัตราการเติบโตสูงมากเฉลี่ย 20-25% ของทุกๆ ปี ดังนั้น สมาคมแฟรนไชส์ไทย,ซีพี ออลล์ และ สสว. จึงเห็นความสำคัญร่วมมือกันจัดสัมมนา Franchise Guide 2014 ขึ้น เพื่อแนะแนวแก่ผู้ที่สนใจเข้าสู่การเป็นเจ้าของกิจการในระบบแฟรนไชส์ ได้รู้วิธีการเลือกลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์และเข้าใจแนวทางในการบริหารจัดการร้าน เพื่อสร้างความมั่นคงในอาชีพ มีรายได้ที่ต่อเนื่อง และสามารถดำเนินกิจการได้ยาวนาน สืบทอดไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน
“มีคนจำนวนมากสนใจต้องการลงทุนซื้อธุรกิจแฟรนไชส์ แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะเลือกอย่างไรดี จะมีวิธีการอย่างไร จึงจะไม่ทำให้ผิดหวังในการลงทุน ซึ่งการจัดสัมมนาแฟรนไชส์ไกด์นี้ นับว่าเป็นครั้งแรกที่เป็นการจัดงานขึ้น มุ่งสร้างประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเถ้าแก่ในระบบแฟรนไชส์โดยตรง” สมจิตร กล่าว
จากการสำรวจผู้ประกอบการแฟรนไชส์หรือแฟรนไชส์ซี่ที่สมาคมทำการสำรวจในครั้งที่ 3 ที่ผ่านมา พบว่าผู้ประกอบการกว่า 80% มีความพึงพอใจในการทำธุรกิจแฟรนไชส์ และถ้าให้มีการเริ่มต้นใหม่ ผู้ประกอบส่วนใหญ่กว่า 90% ก็ยังคงต้องการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์อีก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแฟรนไชส์เป็นทางเลือกที่ดีในการลงทุนทำธุรกิจ
ด้านอนิษฐา ธนมิตต์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย กล่าวถึงการให้การสนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ว่า ซีพี ออลล์มีนโยบายในการส่งเสริมด้านการศึกษาและการส่งเสริมธุรกิจ SMEs หรือการสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่มาอย่างต่อเนื่อง จึงได้ร่วมกับสมาคมแฟรนไชส์ไทย และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จัดโครงการ “Franchise Guide 2014 : แนะทางรวยด้วยแฟรนไชส์” เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านธุรกิจแฟรนไชส์และมุ่งสร้างผู้ประกอบการขนาดย่อมเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์หรือเป็นแฟรนไชส์ซี่
โดยปัจจุบันมีผู้ให้ความสนใจในการทำธุรกิจแฟรนไชส์เป็นจำนวนมาก ซึ่งเซเว่น อีเลฟเว่นก็เป็นธุรกิจแฟรนไชส์รายหนึ่งที่มีระบบมาตรฐานสากลและมีผู้สนใจจะเข้าร่วมเป็นแฟรนไชส์มากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ สำหรับการจัดสัมมนาครั้งนี้ บริษัทฯ ได้ให้การสนับสนุน อาทิ สถานที่อบรมโดยจัดขึ้นที่อาคารซีพี ทาวเวอร์ สีลม แฟรนไชส์ซี่ที่มีประสบการณ์มาร่วมแบ่งปันความรู้ในการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ รวมไปถึงการบริหารจัดการสินค้าและบริการ การบริหารบุคคล การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับธุรกิจแฟรนไชส์ เพื่อแนะแนวแก่ผู้ที่สนใจเข้าสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ” อนิษฐา กล่าว
ส่วน ชาวันย์ สวัสดิ์-ชูโต รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กล่าวว่า สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่หลักในการสนับสนุนและส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งได้ดำเนินกิจกรรมในการส่งเสริมและช่วยเหลือ SMEs มาโดยตลอด โดยในเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจ แฟรนไชส์นั้น สสว.ได้มีการศึกษาเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน และจากฐานข้อมูล SMEs ประเทศไทยในปี 2555 พบว่า กลุ่มธุรกิจหลักที่ได้ดำเนินการในรูปแบบแฟรนไชส์ ประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจอาหาร เครื่องดื่มและไอศครีม การศึกษา โอกาสทางธุรกิจ บริการ ความงาม เบเกอรี่ งานพิมพ์ ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ และหนังสือ วิดีโอ โดยมีจำนวนธุรกิจแฟรนไชส์ในปี 2556 รวมทั้งสิ้น 410 ธุรกิจ รวมสาขาธุรกิจแฟรนไชส์ไทย 83,133 สาขา มีมูลค่าการลงทุนกว่า 287 ล้านบาท”
“และจากฐานข้อมูล SMEs ประเทศไทยในปี 2555 พบว่า กลุ่มธุรกิจดังกล่าว กระจายตัวอยู่ในหลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งพบว่า กลุ่มธุรกิจส่วนใหญ่ กระจายอยู่ในรูปแบบของการขายปลีกอาหารและเครื่องดื่ม ถึงร้อยละ 43.38 รองลงมาอยู่ในกลุ่มการขายปลีกอื่นๆ ร้อยละ 28.62 โดยมูลค่า GDP SMEs ประจำปี 2556 ในกลุ่มธุรกิจการค้าและการซ่อมบำรุง รวมทั้งการบริการภาคเอกชน มีมูลค่ากว่า 4.5 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 40.9 ของ GDP SMEs และจากฐานข้อมูล SMEs ที่อยู่ในรูปแบบนิติบุคคลในกลุ่มภาคการค้าและภาคบริการในปี 2555 มีรายได้เฉลี่ยกว่า 1,934 ล้านบาท โดยในอีก 3 ปีข้างหน้า มีการคาดการณ์ว่า จะมีจำนวนผู้ประกอบการแฟรนไชส์เพิ่มขึ้นเป็น 850 บริษัท และตลาดแฟรนไชส์ จะมีมูลค่าประมาณ 2 แสนล้านบาท ดังนั้น จึงถือได้ว่า ธุรกิจแฟรนไชส์ก็เป็นตัวขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศอีกฟันเฟืองหนึ่ง” ชาวันย์ กล่าวทิ้งท้าย
การจัดงาน Franchise Guide นั้น แบ่งกิจกรรมของงาน เป็น 3 รูปแบบคือ
1.การจัดสัมมนา Franchise Guide (ระหว่างเวลา 13.00-18.00 น) ให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป แบบเปิดให้เข้าฟังฟรี จำนวน 400 ที่นั่ง โดยให้ความรู้แนะแนวการเลือกซื้อแฟรนไชส์ใม่ให้ผิดหวัง และแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ต่างๆ ที่เข้าร่วมงาน ร่วมทั้งให้ความรู้จากผู้ประกอบการแฟรนไชส์ซี่มาเล่าประสบการณ์ในการสร้างความสำเร็จในการทำธุรกิจแฟรนไชส์มายาวนานกว่า 10 ปี หรือ ลงทุนทำธุรกิจแฟรนไชส์ หลายสาขา
2.โชว์เคส Franchise Show Cases (ระหว่างเวลา 9.00-18.00 น) หรือการจัดแสดงธุรกิจแฟรนไชส์มาแนะนำให้ผู้เข้าร่วมงานได้รู้จัก โดยมีธุรกิจแฟรนไชส์ต่างๆ ร่วมแนะนำกิจการ กว่า 30 กิจการ อาทิ โรงเรียนพัฒนาทักษะสมองของเด็ก เบรนฟิตเนส,คอนวีเนียนสโตร์ เซเว่น อีเลฟเว่น,ร้านอาหารและสเต็กส์ โมบายสเต็กส์,กิจการรับทำกุญแจ คีย์เวิลด์,ธุรกิจรักษาความปลอดภัย PCI, แฟรนไชส์แซนด์วิชซัพเวย์,กาแฟคอฟฟี่เลิฟ,ร้านอาหารโชคดีติ่มซำ,ร้านบะหมี่ฮ่องกง เอ็กเพรส เป็นต้น
3.การจับคู่ธุรกิจ Franchise Business Matching (ระหว่างเวลา 9.00-18.00 น.) คือการนัดเจรจาระหว่างผู้สนใจซื้อธุรกิจ แฟรนไชส์กับบริษัทผู้ขายแฟรนไชส์ต่างๆ กว่า 20-50 ราย ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลธุรกิจที่เข้าร่วมงานได้ที่ www.franchisefocus.co.th และลงทะเบียนนัดหมายได้ที่เว็บไซต์นี้ หรือสอบถามที่ 02-321-7701-4 หรือ ผ่านทาง email : [email protected]
การเข้างานเปิดฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และผู้ที่ลงทะเบียนเข้าฟังสัมมนาหรือร่วมเจรจาธุรกิจมาล่วงหน้า จะได้รับไดเร็กทอรี่โอกาสธุรกิจ ซึ่งเป็นหนังสือที่รวบรวมรายชื่อธุรกิจแฟรนไชส์และโอกาสธุรกิจอื่นๆ ฉบับล่าสุด มูลค่า 350 บาท ฟรี (จำกัดจำนวน 400 ท่านแรกเท่านั้น)