สายการบินไทเกอร์แอร์ของสิงคโปร์ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับแอร์บัส ว่าด้วยเรื่องของการซื้อเครื่องบินรุ่น เอ320นีโอ จำนวนรวมถึง 50 ลำ เพื่อเป็นการฟื้นฟูฝูงบินและรองรับการเติบโตในอนาคต ข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมการสั่งซื้อเครื่องบินจำนวน 37 ลำ อีกทั้งสายการบินมีทางเลือกที่จะเพิ่มการสั่งซื้อเครื่องบินอีก 13 ลำ เครื่องบินรุ่นนี้จะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ของแพรท แอนด์ วิทนีย์ พีดับเบิ้ลยู1100 (Pratt & Whitney PW1100) โดยไทเกอร์แอร์จะใช้เพื่อทำการบินในเส้นทางที่เป็นเครือข่ายของสายการบินทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
“เรารู้สึกยินดีที่ได้ทำการสรุปข้อตกลงนี้ ซึ่งจะเป็นการนำเครื่องบินทางเดินเดี่ยวรุ่นใหม่ล่าสุดเข้ามาร่วมในฝูงบินของเรา” มร.โก๊ะ เป่ง เหยี่ยน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มสายการบินไทเกอร์แอร์ กล่าว “ข้อตกลงดังกล่าวเป็นการเน้นย้ำ พันธสัญญาของไทเกอร์แอร์ที่จะยังคงเดินหน้าในการพัฒนาตำแหน่งความเป็นผู้นำในส่วนการท่องเที่ยวแบบประหยัดอย่างมั่นคง”
“เรามีความยินดีที่สายการบินไทเกอร์แอร์ได้ทำการยืนยันข้อตกลงที่มีกับเครื่องบินในตระกูลเอ320 ด้วยคำสั่งซื้อใหม่ที่สำคัญในครั้งนี้” มร.จอห์น ลีฮีห์ ประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการลูกค้าสัมพันธ์ แอร์บัส กล่าว “คำสั่งซื้อที่มีขึ้นอีกครั้งนี้ เป็นการเน้นย้ำเรื่องการประหยัดต้นทุนในการดำเนินงานที่หาใครเทียบไม่ได้ของเครื่องบินในสายผลิตภัณฑ์ทางเดินเดี่ยวของเรา ซึ่งตอบสนองแก่สายการบินต่างๆ ทั้งในส่วนของสายการบินต้นทุนต่ำและตลาดสายการบินที่ให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ”
สายการบินไทเกอร์แอร์ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2547 ประกอบด้วย 3 สายการบิน คือ สายการบินไทเกอร์แอร์ สิงคโปร์ สายการบินไทเกอร์แอร์ มันดาลา (อินโดนีเซีย) และสายการบินไทเกอร์แอร์ ออสเตรเลีย โดยกลุ่มเครือข่ายของสายการบินที่รวมตัวกันนี้ได้ขยายเส้นทางไปสู่จุดหมายปลายทางกว่า 50 แห่ง ทั่วทั้ง 14 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งในปัจจุบันนี้ฝูงบินของสายการบินกลุ่มนี้ได้ใช้เครื่องบินแอร์บัสในตระกูล เอ320 จำนวนทั้งสิ้น 48 ลำ โดยฝูงบินดังกล่าวมีอายุการใช้งานเฉลี่ยแล้วน้อยกว่า 3 ปี
เครื่องบินตระกูล เอ320 เป็นเครื่องบินรุ่นที่ขายดีที่สุดในโลกในกลุ่มของเครื่องบินทางเดินเดี่ยว ด้วยยอดการสั่งซื้อ ณ ปัจจุบันที่มีจำนวนมากกว่า 10,200 ลำ และกว่า 6,000 ลำที่ได้ทำการส่งมอบไปแล้ว เครื่องบินรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง เอ320นีโอ จะเริ่มให้บริการในปี พ.ศ.2558 และด้วยการผสมผสานเทคโนโลโยเข้าด้วยกันของเครื่องยนต์แบบใหม่กับ “ชาร์คเล็ท” อุปกรณ์ที่ปลายปีก ซึ่งจะส่งผลทำให้ประหยัดน้ำมันได้ถึงร้อยละ 15 ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2557 มีคำสั่งซื้อเครื่องบินรุ่นนีโอจำนวน 2,667 ลำ จากลูกค้า 50 รายทั่วโลก
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit