บอกลา...ขนใต้วงแขน ให้เรียบเนียนน่าสัมผัส

28 Mar 2014
“ขนรักแร้” อีกสิ่งที่สาวเราไม่ปลื้มนัก โดยเฉพาะในยุคที่แฟชั่นโชว์ไหล่ โชว์ต้นแขน ยังอยู่ในกระแสแบบนี้ แน่นอนว่าสาวๆทุกคนย่อมอยากมีใต้วงแขนที่ขาวใส เรียบเนียน เพื่อโชว์วงแขนได้อย่างมั่นใจ สาวๆหลายคนเลือกการกำจัดขนด้วยการโกน เป็นอันดับต้นๆ แต่แน่นอนว่า ปัญหาที่ตามมาก็คือ เส้นขนที่แข็งและผิวไม่เรียบเนียน หรือบางคนอาจยอมเจ็บ โดยใช้วิธีแว๊กซ์ หรือถอนออก ซึ่งอาจทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นไม่เรียบเนียน เป็นหนังไก่ได้ การกำจัดขนถาวรจึงเป็นหัวข้อความสนใจของสาวๆหลายคน
บอกลา...ขนใต้วงแขน ให้เรียบเนียนน่าสัมผัส

โดยทางแพทย์หญิงดารินทร์ ม่วงไทย ผู้บริหาร The Sib Clinic เผยว่า เรื่องของการกำจัดขนใต้วงแขน เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สร้างความรำคาญใจให้สาวๆ อยู่ไม่น้อย เพราะสาวๆ หลายคนมีวิธีการกำจัดขนรักแร้ที่ไม่ถูกวิธี ทำให้บางครั้งผิวดังบริเวณดังกล่าวซึ่งมีความบอบบางเกิดการอักเสบขึ้นมาได้ การกำจัดขนเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับหลายๆ คน แต่วิธีกำจัดแบบเก่าๆ เช่น การโกน การถอน หรือการ Wax ขนนั้น มักทำให้เกิดปัญหาขนคุด หรือปัญหาผิวหนังหลังการถอนไม่เรียบเนียน เกิดเป็นตุ่มๆ คล้ายหนังไก่ตามมา ผิวเราก็ยิ่งดูไม่สวยไม่เรียบเนียนแถมยังต้องกำจัดกันบ่อยๆ ไม่สะดวกเอาซะเลย แต่ในปัจจุบันวิธีกำจัดขนที่กำลังมาแรง เพราะทำได้ทุกตำแหน่งหรือทุกบริเวณที่อยากกำจัด แถมยังรวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก กำจัดได้เกือบถาวร ก็คือ การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ ซึ่งสามารถกำจัดขนไปพร้อมๆ กับปรับสภาพผิวให้เนียนผ่อง สวยใสได้พร้อมๆ กัน

เลเซอร์ที่ใช้กำจัดมีหลายชนิด แต่หลักการในการทำงานก็จะเหมือนกันคือ ใช้พลังงานแสงเลเซอร์ไปทำลายรากขนและเส้นขน โดยในเส้นขนมีเมลานินหรือเม็ดสี ซึ่งเป็นตัวดูดซับพลังงานแสงเลเซอร์เอาไว้ พลังงานแสงจะเปลี่ยนเป็นความร้อน และความร้อนนี้จะทำให้รากขนเสียหายหรือตายไป เส้นขนที่ยึดอยู่กับรากขนก็จะค่อยๆ ร่วงหลุดไปหลังจากทำเลเซอร์ได้ 1-2 สัปดาห์ จากนั้นราว 1-3 เดือน ขนก็จะขึ้นมาใหม่ แต่น้อยและบางกว่าเก่า ซึ่งคนไข้ก็ต้องกลับมาทำซ้ำ เหตุผลก็เพราะว่า ขนของคนเรามีจำนวนมากและอยู่ในช่วงการเจริญเติบโตที่แตกต่างกัน แบ่งออกเป็นหลายระยะ คือ เริ่มตั้งแต่แรกเป็นระยะเจริญเติบโต จนมาเป็นระยะพักหรือหยุดการเจริญเติบโต และเข้าสูระยะที่รอวันหลุดร่วงไป เมื่อวงจรของดำเนินมาถึงระยะสุดท้ายคือร่วงหลุดไปแล้ว หลังจากนั้นก็จะมีขนวงจรใหม่เกิดขึ้นมา เป็นอย่างนี้เรื่อยไป เมื่อเรากำจัดขนด้วยเลเซอร์ ขนที่ถูกกำจัดได้ดีจะเป็นขนที่อยู่ในระยะกำลังเจริญเติบโต เพราะขนาดของเส้นขนมีขนาดใหญ่และมีเม็ดสีจำนวนมาก ดังนั้นคนไข้จึงต้องกลับมาทำซ้ำอีกครั้ง เพื่อไล่กำจัดขนที่ขึ้นมาใหม่และอยู่ในช่วงเจริญเติบโตและต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำลายวงจรการเกิดของขนให้ได้อย่างถาวร ซึ่งโดยทั่วไปคนไข้จะต้องมายิงเลเซอร์ 4-8 ครั้งเป็นอย่างน้อย ขนจึงจะถูกกำจัดให้หมดเกลี้ยงไปได้ แต่ถ้าคุณเปรียบเทียบกับการกำจัดขนแบบชั่วคราวด้วยวิธีการโกนหรือถอน ซึ่งคุณต้องทำบ่อย แทบจะทุก 2-3 วัน หรือทุกอาทิตย์ วิธีกำจัดขนด้วยเลเซอร์ก็สะดวกสบายและประหยัดเวลากว่ากันเยอะเลย

เลเซอร์ที่ใช้กำจัดขนมีหลายตัว เช่น IPL, Gentle Yag ซึ่งทาง The Sib Clinic ใช้เป็นตัว Gentle Yag ซึ่งเทคโนโลยีนี้ให้ผลถาวร นั่นคือ เมื่อทำ Gentle Yag จะเริ่มเห็นผลชัดเจนหลังจาก 6 ครั้ง โดยขนจะลดน้อยลงประมาณ 90% โดยขึ้นอยู่กับสภาพผิวและสภาพเส้นขนของแต่ละบุคคล เส้นขนจะเล็กลง บางลง และลดน้อยลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำเลย ซึ่งโดยทั่วไปในแต่ละราย เราจะทำทุก 4-6 สัปดาห์ติดต่อกัน และถ้าคนไข้ขยันมาตามที่หมอบอก นอกจากขนจะถูกกำจัดให้หมดแล้ว ปัญหาผิวใต้วงแขนของบางคนที่มีสีดำคล้ำ หรือเคยมีตุ่มนูน ขนคุด ที่ทำให้ผิวบริเวณนั้นไม่น่ามอง ก็จะได้รับการปรับสภาพให้ดูดีขึ้น ตุ่มนูนๆ ที่เคยมีอันเนื่องมาจากรูขุมขนอักเสบจากการถอนหรือเสียดบ่อยๆ ด้วยมีดโกน ก็จะค่อยๆ ยุบลง ผิวจึงเรียบเนียนขึ้น ในขณะที่พลังงานเลเซอร์ที่ถูกยิงไปใต้ผิวหนัง จะไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวใต้วงแขนแน่นกระชับและมีสีผิวผ่องใสขึ้นอีกด้วย

สุดท้ายแล้ว การกำจัดขนให้ได้ประสิทธิภาพ นอกจากจะเลือกใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพแล้ว สิ่งสำคัญ คือประสบการณ์ เพราะผู้ที่มีประสบการณ์จะสามารถปรับค่าพลังงาน ให้เข้ากับสีของผิว และชนิดของเส้นขน ดังนั้น การเลือกผู้ให้บริการ ที่มีเครื่องมือหลากหลาย และมีประสบการณ์ที่ยาวนาน มีชื่อเสียง ก็น่าจะดีกว่า เพราะจะสามารถรับมือกับขนในแต่ละแบบแต่ละช่วงอายุได้อยู่หมัดแบบไม่เหลือตอ ก็เล่นมีอาวุธครบมือ ยังไงก็ต้องรับมือดีกว่าอยู่แล้วค่ะ ลองศึกษาหาข้อมูล สอบถามผู้ให้บริการก่อนตัดสินใจ เท่านี้ก็น่าจะวางใจ ได้ชูแขนลั้ลลาให้สบายใจได้แน่นอนค่ะ

ข้อมูลโดย The Sib Beauty Clinic

สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Tel. 086-416-2058 หรือ [email protected]

HTML::image( HTML::image( HTML::image(
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit