นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมฯ ได้เตรียมงานล่วงหน้ากว่าหนึ่งปี ร่วมกับสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย และองค์กรผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อจัดงาน “แสดงสินค้ายานยนต์ ชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่ง หรือ Thailand Auto Parts & Accessories 2014 (TAPA 2014) ภายใต้แนวคิด “ASEAN Auto Parts Sourcing Hub, the Ultimate in Green Technology”โดยมุ่งหวังให้งานนี้เป็นสุดยอดงานแสดงสินค้ายานยนต์ระดับภูมิภาคอาเซียน พร้อมประกาศศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นผู้นำและเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ในอาเซียนเป็นเวทีเจรจาการค้าและเปิดตัวสินค้า เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ ของอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่ง รวมทั้งเพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพทางการแข่งขันของภาคธุรกิจเพื่อสอดรับกับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ที่จะมาถึงในปี 2558 ตลอดจนส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ปลอดภัยและรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งตอบโจทย์อุตสาหกรรมยานยนต์โลกในปัจจุบัน
“ในการจัดงาน TAPA 2014 ครั้งนี้ ได้รวบรวมผู้ผลิตชั้นนำกว่า 400 บริษัท จากประเทศไทยและกลุ่มประเทศเป้าหมายร่วมงาน ได้แก่ จีน ใต้หวัน มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง อินเดีย สิงคโปร์ เป็นต้น เนื่องจากปีนี้มีผู้เข้าร่วมงานจากต่างประเทศมากกว่าครั้งที่ผ่านมาทางคณะผู้จัดงานจึงได้ขยายพื้นที่ให้มากยิ่งขึ้นโดยภายในงานจะประกอบด้วยการจัดนิทรรศการ ProductShowcase และ รถบัสรถบรรทุก (Bus&Truck) ที่แสดงถึงศักยภาพของผู้ผลิตสินค้ายานยนต์ ชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่งของไทยที่ได้มาตรฐานระดับสากลกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งในปีนี้เราต้องการจัดอย่างยิ่งใหญ่เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี พร้อมผลักดันในการใช้ประโยชน์จากการเปิดตลาดทั้งด้านการค้าและการลงทุน อันจะส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสขยายการค้าระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกได้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากตลาดภูมิภาคอาเซียนเป็นตลาดขนาดใหญ่ และที่มีความสำคัญมากขึ้นในโลกการค้าขณะนี้ โดยคาดว่าตลอดการจัดงานทั้ง 4 วัน จะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 16,000 ราย และมีเงินสะพัดประมาณ 800 ล้านบาท”
นางนันทวัลย์ กล่าวว่า ในปี 2556 ที่ผ่านมา ประเทศไทยสามารถผลิตรถยนต์เป็นอันดับที่ 9 ของโลกผลิตได้ 2.457 ล้านคัน โดยตั้งเป้าในปี 2557 ประมาณ 2.5 ล้านคัน และจะผลิตให้ได้ 3 ล้านคันในปี 2559 มีเป้าหมายจะขึ้นเป็นอันดับ 5 ของโลก นอกจากนี้ ในส่วนของการส่งออกสินค้าส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ ในช่วงเดือนแรกของปี 2557 (ม.ค.) มีมูลค่า 971.95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 3.05 จากช่วงเดียวกันของปี 2556 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5.40 ของมูลค่าการส่งออกรวมทั้งประเทศ และคาดว่าการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ในปี 2557 จะมีอัตราการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10 โดยชิ้นส่วนของรถยนต์จะเริ่มกระเตื้องขึ้นเนื่องค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงประมาณการว่าจะมีการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ร้อยละ 40 และผลิตเพื่อใช้ในประเทศร้อยละ 60
ด้าน นางอัชณา ลิมป์ไพฑูรย์ นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย (TAPMA) หนึ่งในองค์กรผู้ร่วมจัดงาน TAPA 2014 กล่าวว่า การจัดงาน TAPA ทุกครั้งที่ผ่านมาได้รับการยอมรับขึ้นเรื่อยๆ จากนักธุรกิจในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนเป็นอย่างดี รวมทั้งมีบริษัทรถยนต์และชิ้นส่วนมาร่วมกันแสดงนิทรรศการ และ product showcase ในส่วนที่เป็นประโยชน์ต่อการแสดงถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยของทั้งรถยนต์และชิ้นส่วน นอกจากนี้ยังมีการสัมมนาในเรื่องที่เกี่ยวกับยานยนต์ในอนาคตและการพัฒนาชิ้นส่วนยานยนต์ไทย โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ASEAN Auto Parts Sourcing Hub, the Ultimate in Green Technology เป็นแนวคิดที่ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2010 เพราะเราได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของประเทศไทย ซึ่งมีขีดความสามารถเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนในภูมิภาคอาเซียน
“งาน TAPA 2014 เราได้จัดแสดงขึ้นให้เห็นถึงการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วน ให้สอดคล้องกับความพยายามของสังคมโลกที่จะลดภาวะโลกร้อน ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์รุ่นใหม่ที่มีการผลิตจะเน้นรถไฟฟ้า รถ Hybrid ตลอดจนมาตรฐาน Euro 4 และ Euro 5 รวมถึงการใช้พลังงานทดแทน เป็นต้น มีการแสดงนิทรรศการของรถยนต์ที่ส่งเสริมการลดโลกร้อนจากหลายค่ายรถยนต์ รวมทั้งการจัดแสดงนิทรรศการของรถจักรยานยนต์ รถบรรทุกและรถบัสโดยสาร ที่มีมาตรฐานสูงสอดคล้องกับมาตรฐานสากลไทย ฯลฯ ด้วยความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กับสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยTAPMAสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (ThaiSubcon)สมาคมวรจักรและสมาคมผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์ และอะไหล่ทดแทนไทย(TAPAA) รวมทั้งexhibitor ผู้เข้าร่วมงานปีนี้ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ จะทำให้งานครั้งนี้สำเร็จและการค้าขายชิ้นส่วนรถยนต์ไม่น้อยกว่างานTAPA2012 อย่างแน่นอน”
ปัจจุบันประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนที่สำคัญ คือ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ซึ่งในปี 2556 ที่ผ่านมา ทั้ง 5 ประเทศสามารถผลิตรถยนต์รวมกันได้ 4.4 ล้านคัน และไทยประเทศเดียวสามารถผลิตได้ถึง 2.47 ล้านคัน แสดงให้เห็นว่าไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญมาก เพราะได้รับการถ่ายทอดความรู้และผ่านการพัฒนาในอุตสาหกรรมยานยนต์มาเป็นเวลากว่า 50 ปี ซึ่งถือเป็นจุดแข็งและข้อได้เปรียบในการผลิตและส่งออกของไทย และทำให้บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่หลายค่ายหันมาลงทุน และใช้ไทยเป็นฐานการผลิต นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีการผลิตรถปิกอัพ และรถอีโคคาร์เป็น product champion โดยส่งออกไปประเทศออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง และเอเซีย ปีละกว่า 1 ล้านคัน มีมูลค่า 600,000-700,000 ล้านบาท ในขณะที่ชิ้นส่วนรถยนต์จะส่งไปประเทศหลักๆ คือ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย อเมริกา และบราซิล เป็นต้น มูลค่ากว่า 300,000 ล้านบาท และการผลิตชิ้นส่วนที่ส่งออกจะเป็น OEM (Original Equipment Manufacturer) เพื่อใช้ในการผลิตรถยนต์กว่า 80% และเป็นชิ้นส่วนทดแทนอีกร่วม 20%
ผู้สนใจสามารถเข้าชมงาน “แสดงสินค้ายานยนต์ ชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่ง หรือ Thailand Auto Parts & Accessories 2014 หรือ TAPA 2014”ในระหว่างวันที่ 28 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2557 เวลา 10.00 – 18.00 น. ฮอลล์101-104 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ทั้งนี้ ในวันที่ 28-30 เมษายน 2557 เป็นวันเจรจาธุรกิจ ให้นักธุรกิจจากนานาประเทศได้พบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ผลิตที่นำสินค้าและนวัตกรรมมาจัดแสดงภายในงาน พร้อมด้วยการจัดสัมมนาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ถือว่าเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการไทยในการแสดงศักยภาพความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนอะไหล่ และอุปกรณ์ตกแต่งโดยเฉพาะต่อผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ผู้ค้าปลีก รวมถึงนักธุรกิจไทยและทั่วโลก มีโอกาสสร้างเครือข่ายพันธมิตรเพื่อต่อยอดธุรกิจในระดับสากล
และวันสุดท้าย 1 พ.ค.57 เป็นวันค้าปลีก เปิดสำหรับประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมงานและเลือกซื้อสินค้า หรือสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ Error! Hyperlink reference not valid.สอบถามได้ที่ สายด่วนผู้ส่งออก 1169
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit