อียูมั่นใจไก่ไทยได้มาตรฐานอาหารปลอดภัย

04 Apr 2014
อียูจับมือกรมปศุสัตว์ไทยและซีพีเอฟ ประกาศความร่วมมือด้านสวัสดิภาพสัตว์ ย้ำไก่ไทยไม่ใช้ฮอร์โมน ตอกย้ำความปลอดภัยทางอาหารสู่ผู้บริโภค

ดร.อันเดรีย กาวิเนลลี่ ผู้อำนวยการฝ่ายสวัสดิภาพสัตว์กระทรวงสาธารณสุขและผู้บริโภคแห่งคณะกรรมธิการยุโรป (SANCO) กล่าวภายหลังกิจกรรมเชิงปฏิบัติการเพื่อให้ความรู้ด้านหลักสวัสดิภาพสัตว์แก่ผู้เชี่ยวชาญจากทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จัดโดยสหภาพยุโรปร่วมกับประเทศไทยว่า สวัสดิภาพสัตว์ที่ดีมีความสำคัญมิใช่ต่อภาคปศุสัตว์เท่านั้น แต่ยังมีผลดีต่อความยั่งยืนของการเกษตรโดยรวมด้วย ซึ่งประเทศไทยได้มีการพัฒนาเรื่องสวัสดิภาพสัตว์มาเป็นลำดับ และปัจจุบัน OIE ได้มีแผนร่วมมือและลงทุนการพัฒนางานวิจัยที่เกี่ยวกับสวัสดิภาพสัตว์ ร่วมกับกรมปศุสัตว์ของไทยอย่างต่อเนื่อง

ส่วน มร.แพทริค ดีบอยเซอร์ อัครราชทูตที่ปรึกษา สหภาพยุโรป ประจำประเทศไทย กล่าวชื่นชมซีพีเอฟว่าเป็นองค์กรไทยแห่งแรกที่ให้ความสำคัญและดำเนินการด้านสวัสดิภาพสัตว์ ก่อนที่สหภาพยุโรปจะมีการประกาศบังคับใช้ ซึ่งถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีมากต่อการพัฒนาด้านสวัสดิภาพสัตว์ของไทย

ด้าน น.สพ. ทฤษดี ชาวสวนเจริญ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวย้ำว่าประเทศไทยให้ความสำคัญและความร่วมมือด้านนโยบายสวัสดิภาพสัตว์ของสหภาพยุโรปมาโดยตลอด และซีพีเอฟซึ่งเป็นภาคเอกชนของไทยก็ได้รับการรับรองมาตรฐานด้านนี้เป็นรายแรกนอกเขตยุโรปด้วย

น.สพ.พยุงศักดิ์ สมยานนทนากุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟเป็นบริษัทแรกนอกเขตประเทศยุโรปที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Animal Welfare จากการให้ความสำคัญต่อหลักการเลี้ยงสัตว์ที่มีมาตรฐานสากลเพื่อให้สามารถผลิตอาหารที่ปลอดภัยสู่ผู้บริโภค โดยบริษัทได้ประยุกต์ใช้หลักสวัสดิภาพสัตว์ขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (World Organisation for Animal Health : OIE) และมาตรฐานหลักปฏิบัติและกฎระเบียบของสหภาพยุโรป (อียู) ตลอดห่วงโซ่การผลิตสัตว์ปีก ตั้งแต่การเพาะเลี้ยง การขนส่ง ตลอดจนการชำแหละและแปรรูป ภายใต้การแนะนำของกรมปศุสัตว์

น.สพ.พยุงศักดิ์ กล่าวอีกว่า บริษัทได้ร่วมมือมหาวิทยาลัยบริสตอล ประเทศสหราชอาณาจักร (UK) จัดฝึกอบรมหลักสูตร Train the Trainer ตั้งแต่ปี 2554 เพื่อพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้านสวัสดิภาพสัตว์ปีกเป็นแห่งแรกของโลก หลักสูตรดังกล่าวทำให้บุคลากรของซีพีเอฟ สามารถตรวจสอบและให้คำแนะนำการปฏิบัติงานด้านความเป็นอยู่ของสัตว์ที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากล ปัจจุบันซีพีเอฟมีผู้เชี่ยวชาญที่ทำหน้าที่ดูแลกระบวนการผลิต และมีการอบรมเจ้าหน้าที่สวัสดิภาพสัตว์ (Poultry Welfare Officer) ประจำทุกหน่วยงาน เพื่อดูแลกระบวนการผลิตให้เป็นไปตามมาตรฐานของกรมปศุสัตว์ และข้อกำหนดของอียู

“การปฏิบัติตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ จะทำให้ไก่มีสุขภาพที่ดี เมื่อมีพื้นฐานสุขภาพที่ดีก็ปราศจากโรคภัย โดยไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ฮอร์โมน หรือยาปฏิชีวนะเร่งการเจริญเติบโตในไก่ จึงเป็นการลดความเสี่ยงจากยาปฏิชีวนะตกค้าง เพราะไก่ที่มีสุขภาพพื้นฐานดีจะสามารถเติบโตตามศักยภาพของพันธุกรรมธรรมชาติ ทำให้ผู้บริโภคได้บริโภคอาหารปลอดภัย (food safety) ซึ่งผู้บริโภคทั่วโลกสามารถมั่นใจได้ในคุณภาพผลิตภัณฑ์ของซีพีเอฟ” นสพ.พยุงศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ซีพีเอฟร่วมมือกับกรมปศุสัตว์ในการนำหลักสวัสดิภาพสัตว์มาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมไก่เนื้อ มากว่า 25 ปี นับตั้งแต่ปี 2532 โดยเป็นผู้นำในการนำเทคโนโลยีโรงเรือนปิดที่ทันสมัยด้วยระบบปิดปรับอากาศด้วยการระเหยของน้ำ หรือ โรงเรือนอีแวป มาใช้เป็นรายแรกของไทย โรงเรือนระบบนี้ สามารถควบคุม ความชื้น อุณหภูมิ การระบายอากาศ ช่วยทำให้ไก่มีความเป็นอยู่ที่สุขสบาย ขณะเดียวกัน ยังได้นำอุปกรณ์ที่ทันสมัยมาใช้ เช่น อุปกรณ์ให้น้ำและอาหารอัตโนมัติ เพื่อให้ไก่เข้าถึงน้ำและอาหารได้ตลอดเวลา ตามหลักการปราศจากความหิวกระหาย และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบัน.