ปกติเวลาที่เราจอดรถตากแดดเอาไว้ในช่วงบ่าย อุณหภูมิในรถอาจพุ่งขึ้นสูงถึง 65-70 องศาเซลเซียส ระบบปรับอากาศภายในรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ขับขี่
ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต ใหม่ ใช้เวลาเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้นในการปรับอุณหภูมิร้อนจัดภายในรถให้ลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส และใช้เวลาเท่าๆ กันในการทำให้อากาศที่พุ่งออกมาจากช่องแอร์มีอุณหภูมิต่ำกว่า 10องศา ขณะที่รถรุ่นอื่นทำได้เพียง 15 องศา ดังนั้น ภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง อุณหภูมิในรถจึงลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 20 องศา ซึ่งเป็นจุดผู้ขับขี่และผู้โดยสารมักจะเริ่มรู้สึกหนาว
ความสามารถในการทำงานของระบบแอร์แบบธรรมดาและแบบอัตโนมัตินั้นอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน แต่สำหรับแอร์แบบอัตโนมัติ ผู้ขับขี่เพียงตั้งระดับความเย็นที่ต้องการเอาไว้แล้วระบบก็จะทำงานทุกอย่างได้เอง ไม่ว่าจะเป็นการปรับพัดลมให้แรงที่สุด ปรับระดับความเย็นสูงสุด และเลือกใช้ระบบอากาศแบบหมุนเวียนภายในรถเท่านั้น โดยระบบจะใช้เซ็นเซอร์ 5 ชุดวัดอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร อุณหภูมิภายนอก อุณหภูมิของอากาศที่เป่าออกมาจากช่องแอร์ ปริมาณแสงอาทิตย์ และทิศทางของแสงอาทิตย์ที่ส่องมายังตัวรถ เพื่อประเมินค่าต่างๆ ก่อนผ่อนลมแอร์และลดระดับความเย็นลงแบบอัตโนมัติ
“เราออกแบบให้ระบบทำความเย็นโดยเร็วที่สุดจากการเลือกใช้พัดลมแรงๆ และเลือกความเร็วลมสูงสุดซึ่งจะทำให้พัดลมสามารถชะลอกำลังและลดความเร็วลมลงได้ในเวลาไม่นาน ผู้ขับขี่จึงได้รับความสะดวกสบายจากอากาศที่เย็นฉ่ำและห้องโดยสารที่เงียบสงบได้อย่างรวดเร็ว” มร. พอล เมอร์โล ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมอุณหภูมิรถยนต์ ฟอร์ด ประจำทวีปอเมริกาใต้ กล่าว
“ระบบควบคุมความเย็นแบบอัตโนมัติในรถฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต สามารถลดระดับความแรงของพัดลมลงได้ภายในเวลาเพียง 5-6 นาที แม้ว่าระบบจะเริ่มทำงานขณะที่ห้องโดยสารมีอุณหภูมิสูงถึง 60-70 องศาเซลเซียสซึ่งแสดงให้เห็นว่าระบบความเย็นของเรามีประสิทธิภาพเพียงใด”
เทคโนโลยีใหม่เพื่อความเย็นสบายของผู้ขับขี่
ระบบความคุมอุณหภูมิของฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต ใหม่ เป็นระบบการทำงานระดับโลกแบบใหม่ที่ฟอร์ดได้นำมาใช้กับรถรุ่นต่างๆ แล้วทั่วโลก โดยวิศวกรของฟอร์ดได้ผสมผสานหลากหลายเทคโนโลยีเข้าด้วยกันเพื่อทำให้ระบบปรับอากาศในรถฟอร์ดมีประสิทธิภาพเหนือชั้น
หนึ่งในเทคโนโลยีประหยัดพลังงานที่วิศวกรของฟอร์ดนำมาใช้ก็คือ การติดตั้งคอมเพรสเซอร์ที่ทำงานด้วยระบบแปรผัน ช่วยลดการใช้พลังงานและการบริโภคน้ำมันเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีที่ใช้อยู่เดิม ซึ่งหมายความว่า ผู้ขับขี่จะได้รับความเย็นสบายโดยไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะต้องจ่ายค่าน้ำมันแพงขึ้นแต่อย่างใด
ทั้งนี้เนื่องจากคอมเพรสเซอร์แบบเดิมจะทำงานแบบเต็มที่ตลอดเวลา ขณะที่คอมเพรสเซอร์แบบแปรผันของฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต ใหม่ จะชลอการทำงานลงเมื่ออุณหภูมิห้องโดยสารลดลงถึงระดับที่กำหนด ดังนั้น ระบบใหม่จึงใช้พลังงานจากเครื่องยนต์น้อยกว่าเดิม กินน้ำมันน้อยลง แต่ยังคงให้ความเย็นแก่ผู้โดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ คอมเพรสเซอร์แบบแปรผันยังใช้เทคโนโลยีการแยกน้ำมันออกจากน้ำยาแอร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย
อีกหนึ่งเทคโนโลยีใหม่ในระบบปรับอากาศของฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต ก็คือเทคโนโลยีการแลกเปลี่ยนความร้อนภายใน (Internal Heat Exchangertechnology)ที่ช่วยทำความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ข้อต่อต่างๆ ภายในระบบท่อแอร์มีความแน่นหนามากขึ้นจึงช่วยลดปัญหาน้ำยาแอร์รั่วไหล และช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ขณะที่คอนเดนเซอร์ (หรือคอมแอร์)ได้รับการออกแบบอย่างแน่นหนาเช่นกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้งด้านการทำความเย็นและลดแรงเสียดทานตามหลักแอโรไดนามิก
การเลือกใช้ท่อและครีบระบายความร้อนที่ทันสมัยที่สุด ช่วยให้วิศวกรของฟอร์ดมั่นใจในความแรงของกระแสลมและการกระจายลมเย็นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้โดยสารได้สัมผัสกับลมเย็นสบายเร็วขึ้น การผนึกประตูรถให้แน่นหนาขึ้นยังช่วยรักษาอากาศเย็นไว้ไม่ให้รั่วไหลออกไปนอกห้องโดยสาร
เอสยูวีระดับโลก พร้อมรับมือทุกสภาพอากาศ
เพื่อความมั่นใจว่าระบบควบคุมอุณหภูมิของฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต ใหม่ จะพร้อมรับมือกับทุกสภาพอากาศ วิศวกรของฟอร์ดจึงได้ทดสอบรถภายใต้อุณหภูมิตั้งแต่ -20 ถึง 50 องศาเซลเซียส ท่ามกลางหิมะไปจนถึงทะเลทราย และภายใต้ปริมาณความชื้นตั้งแต่ 15 ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ เอคโคสปอร์ต ใหม่ ยังผ่านการทดสอบอีกกว่า 1,000 ชั่วโมงในอุโมงค์ลมในเมืองเดียร์บอน รัฐมิชิแกน
จากการทดสอบทั้งในอุโมงค์ลมและการประเมินผลจากการใช้งานบนท้อนถนนจริงๆ ทำให้มั่นใจได้ว่าระบบปรับอากาศที่ติดตั้งอยู่ในฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต ใหม่ จะช่วยทำให้รถเย็นลงได้แม้อากาศภายนอกจะร้อนจัด และยังช่วยทำให้รถอุ่นขึ้นได้เมื่ออากาศหนาวเย็น รวมทั้งยังพร้อมกับมือกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ อย่างเช่นเมื่อขับรถลงจากยอดเขาที่หนาวเย็นมาสู่อากาศที่ร้อนขึ้นบนพื้นราบ เป็นต้น
สำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในเมืองหนาว ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติจะมาพร้อมกับปุ่มไล่ฝ้าแบบเร่งด่วนที่สามารถละลายชั้นน้ำแข็งและช่วยให้ผู้ขับขี่มีทัศนวิสัยที่ดีขึ้นได้ภายในเวลาเพียง 15 นาที วิศวกรของฟอร์ดยังดูแลประสิทธิภาพในการกระจายลมร้อนให้สม่ำเสมอทั้งบริเวณกระจกด้านหน้าและด้านข้าง เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นกระจกมองข้างและสามารถขับออกไปได้โดยใช้เวลาน้อยที่สุด
“ในท้ายที่สุดแล้ว ผู้ขับขี่ทุกคนต่างก็ต้องการห้องโดยสารที่สะดวกสบายโดยใช้เวลาน้อยที่สุด” มร. เมอร์โล กล่าว “ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ ช่วยปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารให้อยู่ในระดับที่ผู้ขับขี่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และที่สำคัญ ยังช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย”
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit