นายอองรี เดอ คาสต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มแอกซ่า กล่าวว่า ในปี 2014 กลุ่มแอกซ่าได้พิจารณาต่อสัญญาเป็นพาร์ทเนอร์เพิ่มอีก 3 ปี (2557-2559) กับองค์กรแคร์ นานาชาติ ด้วยเงินสนับสนุนกว่า 2.3 ล้านยูโรหรือราว หนึ่งร้อยล้านบาทไทย ซึ่งกลุ่มแอกซ่าได้ให้การสนับสนุนทางการเงินกับ CARE มาแล้ว 3 ปี ตั้งแต่ปี 2554-2556 โดยมีหลายโครงการซึ่งทำร่วมกันในระยะยาว เพื่อช่วยเหลือประชากรที่เปราะบางให้สามารถต่อสู้กับภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ ซึ่งโครงการที่แอกซ่าได้ร่วมทำกับแคร์มีจะเป็นโครงการในระยะยาวทั้งในส่วนของโครงการวิจัยระดับโลกเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป (Climate Change Adaptation ) คือโครงการ Where the Rain Falls หรือฝนตกที่ไหนในอินเดียและประเทศไทย
โดยประเทศไทย คือโครงการสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนที่ประสบปัญหาจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ให้สามารถจัดการน้ำได้ดีขึ้น ซึ่งแอกซ่าร่วมมือกับแคร์ ประเทศไทย (หรือมูลนิธิรักษ์ไทย) สร้างฝายชะลอน้ำเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรภาคเหนือให้สามารถมีน้ำไปใช้ในการเกษตรได้ตลอดทั้งปี ประเทศอินเดียเป็นโครงการปรับเปลี่ยนวิถีเกษตรของประชากรที่เปราะบางให้ต่อสู้กับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปโดยเฉพาะปัญหาเรื่องน้ำ ส่วนประเทศในอเมริกาใต้ ได้แก่ โบลิเวีย เอควาดอร์ เปรู จะเป็นโครงการสนับสนุนนโยบายระดับชาติและภูมิภาค เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับประชากรที่ได้ผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป (เช่น ความแห้งแล้งที่เพิ่มขึ้น รูปแบบการตกของฝนที่เปลี่ยนไป
นอกจากนี้ยังมีโครงการลดความเสี่ยงที่เกิดจากภัยพิบัติธรรมชาติ (Disaster Risk Reduction-DRR) ซึ่งดำเนินในประเทศเบนิน อินโดนีเซียและเวียดนาม และจะขยายไปยังประเทศในแถบอเมริกากลาง ได้แก่ เอล ซัลวาดอร์ กัวเตมาลา ฮอนูรัสและนิคารากัว เป็นโครงการที่ช่วยลดความเสี่ยงภัยจากสภาพภูมิอากาศ โดยฉพาะความแห้งแล้ง พร้อมสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับชุมชน รวมถึงยังมีการร่วมสนับสนุนเงินทุนในโครงการที่มีแผนงานกระตุ้นสร้างการรับรู้ และตระหนักถึงผลกระทบของภัยธรรมชาติต่อประชากรที่เปราะบาง ซึ่งจะนำไปใช้ในเวทีการเจรจาระหว่างประเทศที่จะจัดขึ้นในปี 2558 โดยเฉพาะการประชุมของสหประชาชาติ (UN) ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะจัดขึ้นในกรุงปารีส
“เรามีความยินดีที่จะร่วมมือองค์กรแคร์ นานาชาติ จากนี้ต่อไปอีก 3 ปี โดยการเป็นพาร์ทเนอร์กับองค์กรแคร์ นานาชาติ เพื่อเป็นการสร้างคุณค่าให้แก่สังคม ซึ่งธุรกิจของแอกซ่าคือการให้ความคุ้มครองและช่วยเหลือผู้คนในระยะยาว การลงทุนในการวิจัยความเสี่ยงเพื่อช่วยเหลือประชากรที่เปราะบางให้รับมือกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ได้คือการช่วยเหลือสังคมอย่างแท้จริง นอกจากนี้ แอกซ่ายังสนับสนุนงานวิจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมอีก 20 ล้านยูโรผ่านมูลนิธิวิจัยแอกซ่า” อองรี เดอ คาสต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มแอกซ่ากล่าว
นอกจากนี้กลุ่มแอกซ่ายังให้การสนับสนุนองค์กรแคร์ นานาชาติ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในภาวะฉุกเฉินเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติขนาดใหญ่ โดยระดุมทุนและส่งพนักงานลงพื้นที่ช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติ สำหรับวาตภัยไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา กลุ่มแอกซ่าสามารถระดมเงินบริจาคและส่งมอบผ่านแคร์มากกว่า 500,000 ยูโรหรือราว 22 ล้านบาท โดยเป็นเงินจากพนักงานแอกซ่าทั่วโลก 240,000 ยูโร จากกลุ่มแอกซ่าเอง 250,000 ยูโร และผ่านกิจกรรมโซเชียลมีเดียอีก 20,000 ยูโร
นายอาครี แอลเดอ โรทชายย์ ประธาน แคร์ ฝรั่งเศส และรองประธาน องค์กรแคร์ นานาชาติ กล่าวว่า สำหรับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ได้ส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้านในทั่วทุกมุมโลก ซึ่งนับตั้งปี 2554 กลุ่มแอกซ่าและองค์กรแคร์ นานาชาติ ได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ในการป้องกันความเสี่ยงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ องค์กรแคร์มีความยินดีที่ได้ร่วมต่อสัญญากับแอกซ่าอีก 3 ปี และเหมือนเป็นพันธะสัญญาที่จะมุ่งมั่นช่วยเหลือประชากรร่วมกัน
อย่างไรก็ตามกลุ่มแอกซ่าได้เริ่มให้การสนับสนุนกับองค์กรแคร์ นานาชาติ ตั้งแต่ปี 2554 โดยโครงการที่กลุ่มแอกซ่าทำร่วมกับองค์กรแคร์ นานาชาติ นั้นประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีผู้ได้รับประโยชน์ราว 750,000 คน จากโครงการวิจัยระดับโลกเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป และ 6 โครงการลดความเสี่ยงที่เกิดจากภัยพิบัติธรรมชาติ (DRR) รวมถึงได้เผยแพร่รายงานวิจัยนานาชาติจากโครงการ “Where the Rain Falls” ที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศใน 8 ประเทศครอบคลุม 3 ทวีป มีพนักงานแอกซ่าจิตอาสา 38,000 คนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการระดมเงินบริจาค
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit