แพทย์หญิงนันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ แพทย์ศัลยศาสตร์ผิวพรรณจากสหรัฐอเมริกา แพทย์ผิวหนัง ผู้ก่อตั้ง APEX Profound Beauty กล่าวว่า ในอดีต วิธีการรักษาที่ง่ายที่สุดก็คือการใช้ผลิตภัณฑ์จำพวกโรลออนระงับกลิ่นกาย ซึ่งมีส่วนผสมของ อะลูมิเนียม คลอโรไฮเดรต แต่การใช้โรลออนมากๆ ก็มีผลข้างเคียงคือ เมื่อใช้ไปเรื่อยๆ จะเกิดเป็นรอยด่างดำที่ใต้วงแขน แต่ถ้าหากมีเหงื่ออกมากๆ ก็จะไม่ได้ผล แถมซ้ำร้ายกลิ่นเหงื่อผสมโรลออนยังทำให้เกิดกลิ่นชวนเวียนหัวมากขึ้นอีก ถัดมาเป็นการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) เข้าที่ใต้ผิวหนังบริเวณรักแร้ ซึ่งจะไปช่วยลดการกระตุ้นของระบบประสาทเฉพาะที่ ช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อ มีผลนาน 6-8 เดือน เป็นวิธีที่ง่าย ปลอดภัย และได้ผลดีมากกว่า 90 % มีผลข้างเคียงน้อยมาก แต่ราคาค่อนข้างสูง
อีกวิธีเป็นวิธีศัลยกรรม โดยใช้การดูดไขมัน เพื่อไปทำลายเซลล์ต่อมเหงื่อ ให้เซลล์ต่อมเหงื่อตายไป และไม่สามารถผลิตเหงื่อออกมาได้อีก แต่มีผลลัพธ์ไม่แน่นอน และยังอาจเกิดแผลเป็นขึ้นได้ มีค่าใช้จ่ายสูง และเป็นวิธีผ่าตัด แม้จะเป็นผ่าตัดเล็กมาก แต่หลายคนก็ไม่ชอบ จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก ต่อมาคือ เทคโนโลยี miraDry ที่ได้ผลดีในการกำจัดเหงื่อแบบถาวร โดยนักวิทยาศาสตร์อเมริกัน โดยใช้หลักการของการส่งพลังงานความร้อนลงไปทำลายต่อมเหงื่อ โดยการใช้พลังงานไมโครเวฟ ส่งพลังงานลงไปที่ต่อมเหงื่อ และทำให้เกิดความร้อน เมื่อได้รับความร้อนมากๆ ต่อมเหงื่อก็จะถูกทำลายไป แต่ก็มีผลข้างเคียงคือเป็นวิธีที่เจ็บมาก นอกจากนั้นค่าใช้จ่ายก็ยังสูงมากอีกด้วย ในเมืองไทยยังไม่มีการใช้เทคโนโลยีนี้
ล่าสุดมีอีกหนึ่งเทคโนโลยีการ คือการส่งความร้อนลงไปทำลายต่อมเหงื่อเช่นกัน แต่วิธี นี้เป็นการใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (RF-Radio Frequency) แบบใหม่ล่าสุด ชื่อว่า SweatX โดยส่งพลังงานคลื่นวิทยุไปจับกับโมเลกุลน้ำในต่อมเหงื่อ และทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนระหว่างโมเลกุลนับล้านๆครั้งต่อวินาทีในการส่งพลังงาน 1 ครั้ง ทำให้เกิดความร้อนและทำลายเซลล์ต่อมเหงื่อ หยุดการผลิตเหงื่ออย่างถาวร ข้อดีของวิธีใหม่นี้คือ ไม่เจ็บ และค่าใช้จ่ายยังไม่แพงอีกด้วย แต่อาจจะต้องใช้จำนวนครั้งที่ทำมากกว่าวิธีแรก คือ ประมาณ 3-4 ครั้ง นับเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนมีปัญหาเหงื่อออกมาก เมื่อเหงื่อลดลง กลิ่นตัวก็จะลดลง ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องกลิ่นตัว และต้องเปลี่ยนเสื้ออยู่บ่อยๆ ทำลายบุคลิกภาพ เพิ่มความมั่นใจมากขึ้น ใครชอบวิธีไหน ก็ลองศึกษาเพิ่มเติมหรือปรึกษาคลินิกผิวหนังที่คุณวางใจหรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่www.apexprofoundbeauty.com
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit