นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ปี 2556 เป็นอีกหนึ่งปีที่กลุ่มไทคอนมีผลการดำเนินงานโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง สามารถทำกำไรให้กับบริษัท ผู้ถือหุ้น และนักลงทุนได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยผลการดำเนินงานในปี 2556 กลุ่มไทคอน มีกำไรสุทธิจำนวน 1,414 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 118 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 9 จากปี 2555 โดยมีรายได้หลักมาจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน อินดัสเทรียล โกรท (TGROWTH) จำนวน 5,515 ล้านบาท สำหรับรายได้จากค่าเช่าและค่าบริการ มีจำนวน 1,110 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากโรงงานสำเร็จรูปให้เช่า ซึ่งดำเนินการโดย ไทคอน จำนวน 622 ล้านบาท และรายได้จากคลังสินค้าให้เช่า ซึ่งดำเนินการโดย ทีพาร์ค หรือ บริษัท ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค จำกัด จำนวน 488 ล้านบาท”
ในปี 2556 ธุรกิจโรงงานให้เช่า และคลังสินค้าให้เช่า ของกลุ่มไทคอน ยังคงมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีอุปสรรคจากปัญหาการเมืองในช่วงปลายปี แต่ความต้องการเช่าโรงงาน และคลังสินค้ายังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค และผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ โดยกลุ่มไทคอน มีพื้นที่โรงงาน และคลังสินค้าให้เช่าเพิ่มขึ้นจำนวน 352,268 ตารางเมตร แบ่งเป็น พื้นที่ให้เช่าโรงงานของไทคอน จำนวน 125,350 ตารางเมตร และเป็นพื้นที่ให้เช่าคลังสินค้าของทีพาร์ค จำนวน 226,918 ตารางเมตร โดยความต้องการเช่าโรงงานส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นจากกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งขยายตัวตามผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ย้ายฐานการผลิตเข้ามาในประเทศไทย ในขณะที่ความต้องการเช่าคลังสินค้าส่วนใหญ่มาจากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ผู้ให้บริการ โลจิสติกส์ รวมทั้ง ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค และโมเดิร์นเทรด ซึ่งยังมีการขยายตัวตามการผลิต และการใช้จ่ายของภาคประชาชนที่เพิ่มขึ้น โดยมีลูกค้าในกลุ่มไทคอนรวมทั้งสิ้น 412 ราย ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าญี่ปุ่นกว่าร้อยละ 53 ยุโรป ร้อยละ 20 และอื่นๆ ร้อยละ 27สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของกลุ่มไทคอน ในปี 2557 นั้น นายวีรพันธ์ กล่าวว่า “กลุ่มไทคอน ตั้งงบลงทุนกว่า 8,000 ล้านบาท สำหรับใช้ในการซื้อที่ดินในทำเลยุทธศาสตร์เพิ่มขึ้น และการก่อสร้างโครงการของกลุ่ม โดยแบ่งเป็นงบลงทุนของไทคอน 2,000 ล้านบาท และงบลงทุนของทีพาร์ค 6,000 ล้านบาท เนื่องจากการดำเนินงานในปีนี้กลุ่มไทคอนจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาและขยายพื้นที่คลังสินค้า ซึ่งดำเนินงานโดย ทีพาร์ค เป็นหลัก ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าเติบโตของกลุ่มไทคอน ในปี 2557 ด้วยพื้นที่เช่า 350,000 ตารางเมตร”
ในปี 2557 ไทคอน ตั้งเป้ายอดพื้นที่เช่าใหม่ของโรงงานสำเร็จรูปทั้งสิ้น 100,000 ตารางเมตร พร้อมเปิดตัวทำเลใหม่ เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าด้วยโรงงานสำเร็จรูปพร้อมใช้ ในนิคมอุตสาหกรรมเอเซีย (สุวรรณภูมิ) ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่ใกล้กับกรุงเทพฯมากที่สุด และจะเดินหน้าพัฒนาโรงงานเพิ่มในทำเลที่บริษัทได้จัดเตรียมในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ไทคอนกำลังพิจารณาซื้อที่ดินเพิ่มในหลายทำเลอีกหลายร้อยไร่
ด้าน นายปธาน สมบูรณสิน กรรมการผู้จัดการ ทีพาร์ค หรือ บริษัท ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค จำกัด กล่าวว่า “ในส่วนการดำเนินงานของทีพาร์คในปี 2557 นี้ ยังคงมีการขยายตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาที่ได้มีการลงทุนซื้อที่ดินในทำเลยุทธศาสตร์กว่า 1,000 ไร่ สำหรับปีนี้ บริษัทฯ มีแผนซื้อที่ดินเพิ่มในทำเลย่านบางนา และบางพลี รวมถึงจะซื้อพื้นที่เพิ่มในภาคเหนือ หลังจากที่ได้มีการขยายไปทางภาคอีสาน และภาคใต้แล้ว รวมทั้งสิ้น 253 ไร่ นอกเหนือจากการซื้อพื้นที่แล้ว ทีพาร์คยังมุ่งเน้นไปที่การก่อสร้างคลังสินค้าเพิ่มเติมในที่ดินที่ได้จัดเตรียมไว้แล้วรวมทั้งสิ้นกว่า 380,000 ตารางเมตร ซึ่งจะทยอยแล้วเสร็จในปี 2557 โดยพัฒนาการก่อสร้างให้มีคุณภาพเหมาะสมกับการใช้งานเพื่อให้ลูกค้าได้ใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ และตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายของลูกค้า ทั้งในรูปแบบคลังสินค้าคุณภาพสูงพร้อมใช้ (Ready- Built Warehouses) และคลังสินค้าแบบสร้างตามความต้องการ (Built-to-Suit Warehouses) ทั้งนี้ ทีพาร์คตั้งเป้าขยายพื้นที่เช่าให้ได้ 250,000 ตารางเมตร ภายในสิ้นปี 2557 นอกจากนี้ ไทคอน และทีพาร์ค จะยังคงแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ ทั้งในประเทศ และขยายสู่ภูมิภาคเอเชีย โดยล่าสุดบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจาโครงการคลังสินค้าที่เวียดนาม นอกจากนี้ ยังศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ อาทิ อินโดนีเซีย และ พม่า เป็นต้น”
“กลุ่มไทคอน มั่นใจว่า กลยุทธ์หลักที่เน้นความพร้อมใช้ (Availabilities) ด้วยการเพิ่มที่ดินในทำเลยุทธศาสตร์ การขยายพื้นที่อาคารโรงงานและคลังสินค้าทั้งในโครงการเดิมและโครงการใหม่ให้มีความพร้อมใช้ การพัฒนาวิธีการก่อสร้างเพื่อให้โรงงานและคลังสินค้ามีคุณภาพเหมาะสมกับการใช้งานของลูกค้า และการแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ ทั้งในประเทศ และขยายสู่ภูมิภาคเอเชียจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจโรงงาน และคลังสินค้าให้เช่าอย่างต่อเนื่อง และรองรับการเปิดตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 โดยกลุ่มไทคอนมีเป้าหมายที่จะครองแชมป์การเป็นผู้นำอันดับหนึ่ง ในธุรกิจให้เช่าโรงงานและคลังสินค้าคุณภาพสูงของประเทศไทยให้ยาวนานต่อเนื่องต่อไป” นายวีรพันธ์ กล่าวสรุป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit