1. Mobile Commerce การค้าขายบนมือถือมาแล้ว!
การผลักดันให้การซื้อขายออนไลน์หรือที่เรียกว่าอีคอมเมิร์ซนั้น ขยับขึ้นมาบนแพลตฟอร์มโทรศัพท์มือถือ หรือที่เรียกกันว่า Mobile Commerce นั้น มีมานานหลายปี แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องมาจาก ปัญหาพื้นฐานของการซื้อขายออนไลน์ อย่างเช่น การชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ และคุณภาพของระบบการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภค จนไม่นานมานี้ ที่การพัฒนาทางเทคโนโลยี และการแข่งขันทางธุรกิจ ทำให้เกิดผู้ประกอบการออนไลน์หน้าใหม่ๆ (Startup companies) ที่มีความสามารถ เห็นโอกาส และเสนอตัวเข้ามาช่วยแก้ปัญหาพื้นฐานเหล่านั้น ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่นำโทรศัพท์มือถือเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ได้เติบโตมาจนแทบจะถึงขีดสุดแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า นี่เป็นเวลาที่ประจวบเหมาะที่สุด ที่ Mobile Commerce จะได้ฟักตัวในตลาดไทยจริงๆ เสียที
วันนี้ เราได้เห็นการพัฒนาของ แอพพลิเคชั่นมือถือ ที่เข้ามามีบทบาทในเรื่องของการทำธุรกรรมทางการเงิน อย่างลงตัว คือ “ง่าย” “ใช้ได้จริง” และ “ช่วยแก้ปัญหาในสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ” อย่าง “แอพฯ True Money Wallet” ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องเพื่อมุ่งเป็นกระเป๋าเงินและเคาน์เตอร์จ่ายเงินออนไลน์ของคนไทย ที่วันนี้ใช้ง่ายขึ้น มีช่องทางในการเติมเงินเข้ากระเป๋าที่ง่ายและหลากหลายสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค อีกทั้งยังสามารถทำตัวเป็นเคาน์เตอร์เซเว่นที่สามารถจ่ายเงินค่าบริการต่างๆ ได้โดยไม่ต้องออกจากบ้าน อีกตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ “แอพฯ SCB ติ๊ด ติ๊ด” ใหม่ล่าสุด ของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่เปิดโอกาสให้ ลูกค้าธนาคารฯ สามารถเขียนสลิปฝาก-ถอนได้ล่วงหน้า ทำให้ประหยัดเวลาเมื่อไปถึงที่หน้าเคาน์เตอร์ ในขณะที่ยังคงความแม่นยำและยืดหยุ่นในการทำธุรกรรม นับเป็นการค้นพบ Consumer Insights ที่ไม่ซับซ้อน แล้วตอบสนองด้วยเครื่องมือที่เพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้ได้จริง ได้เป็นอย่างดี และยังมีอีกหลายการพัฒนา ที่ไม่ได้กล่าวถึง ซึ่งล้วนช่วยแก้ปัญหาเรื่องการทำธุรกรรมทางการเงิน การชำระเงิน รวมไปถึงการชักจูงให้ผู้บริโภคคุ้นชิน และไม่กลัวการทำธุรกรรมทางการเงินบนมือถือ อีกต่อไป
อีกหนึ่งแอพฯ ยอดฮิต ที่เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยบนมือถือ อย่างเด่นชัดคือ “แอพฯ Line” ที่เข้ามามีบทบาทแทนที่การส่ง SMS และการแชทบนมือถือในปัจจุบัน ใครจะคาดคิดว่า การเปิดตัว “Line Flash Sale” ที่เป็นการขายสินค้าผ่านแอพฯ Line นั้น จะประสบความสำเร็จอย่างสูง ซึ่งเกิดจากความลงตัวของ ฐานผู้ใช้คนไทยที่ใหญ่โตและแข็งแกร่ง กับการเกิดขึ้นของผู้เล่นหน้าใหม่ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างบริษัท aCommerce ที่เข้ามาแก้ปัญหาการจัดส่งสินค้าและการเก็บเงิน ให้กับ Line Flash Sale เราจึงได้เห็น สินค้าที่ประกาศขายนั้น ขายหมดภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ไปจนถึงไม่กี่นาที อันเป็นการท้าทายแนวคิดเดิมๆ ว่าผู้บริโภคคนไทย ยังไม่พร้อมกับการซื้อของออนไลน์ผ่านมือถือ
Key Take Away to Marketers - นักการตลาดควรเปิดใจ เลิกยึดติดทัศนคติเดิมๆ ต่อการซื้อขายบนมือถือ ว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ และควรคำนึงถึงการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นช่องทางการขายสำคัญอีกช่องทางหนึ่ง นอกเหนือไปจากการเป็นช่องทางการสื่อสาร วันนี้ผู้บริโภคพร้อมแล้วที่จะซื้อ แล้วคุณล่ะ พร้อมขายหรือยัง?
2. TV Revolution การปฏิวัติครั้งยิ่งใหญ่ของโทรทัศน์!
โทรทัศน์กำลังก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ความมีอิทธิพลต่อผู้ชม ที่เคยเป็นของช่องโทรทัศน์ (TV Channel) ผู้เป็นเจ้าของเนื้อหา จะย้ายไปยังตัวเครื่องโทรทัศน์ (TV Device) ที่ได้รับการพัฒนาทางเทคโนโลยี ซึ่งจะลดอำนาจของโฆษณาบนสื่อโทรทัศน์เดิม และจะเพิ่มโอกาสทางการแข่งขันและช่องทางการเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น
วันนี้ เนื้อหาที่แสดงบนโทรทัศน์ ไม่ถูกจำกัดอยู่กับ ช่องสัญญาณ ฟรีทีวี เคเบิลทีวี อีกต่อไป เนื่องมาจาก การพัฒนาของ Internet TV จากค่ายผู้ผลิตทีวีใหญ่อย่าง Sony, Samsung และ LG ที่พยายามทำให้อินเทอร์เน็ตเข้าไปสู่ทีวีจนถึงการเกิดขึ้นของ Apple TV (Set top box จากค่าย Apple) และ Google Chromecast (อุปกรณ์ต่อพ่วงจากค่าย Google) ที่สามารถทำให้โทรทัศน์เครื่องเดิมที่มีช่องสัญญาณ HDMI กลายเป็น Internet TV ได้ทันที ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนื้อหาวิดีโอจำนวนหลายล้านเรื่อง บนเครือข่าย Youtube อันเป็นที่นิยมของคนไทย ซึ่งมีทั้งเนื้อหาจากต่างประเทศ และเนื้อหาที่คนไทยเป็นผู้ทำให้มีขึ้น (เช่น ละครทีวีชื่อดัง ต่างๆ) ได้บนโทรทัศน์จอใหญ่ที่คุ้นเคย ปรากฏการณ์นี้ ตอกย้ำการติดตามศึกษาวิจัยของบริษัทวิจัย Nielsen ประเทศสหรัฐอเมริกา ในเรื่อง
“3 Screens” ที่ทำมาอย่างต่อเนื่องหลายปี ว่า ผู้บริโภคจะมีพฤติกรรม ในการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านจอสามจอมากขึ้นเรื่อยๆ อันได้แก่ จอคอมพิวเตอร์ จอโทรศัพท์มือถือ และจอโทรทัศน์ ตามลำดับ ที่วันนี้ เดินทางมาถึงจอที่สามแล้ว
Key Take Away to Marketers - นักการตลาดควรตระหนักว่า อิทธิพลของโฆษณาทีวีบนฟรีทีวีจะลดลง เพราะมีคู่แข่งทั้งจำนวนช่อง และความหลากหลายของเนื้อหาที่มากขึ้น ผู้บริโภคสื่อโทรทัศน์ จะสามารถเข้าถึงเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะวิดีโอ Youtube บนโทรทัศน์ได้มากขึ้นเรื่อยๆ และในอีกด้านหนึ่ง กลุ่มวัยรุ่นที่เดิมดูโทรทัศน์น้อย จะเริ่มกลับมาดูเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ตจากโทรทัศน์จอใหญ่ สื่อวิดีโอบน Youtube จะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้กว้างขึ้น และมีความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น จึงเป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้ในการทำการตลาดออนไลน์
3. Health Conscious คนไทยออนไลน์ใส่ใจสุขภาพ!
เวลาที่ผ่านไป คนไทยที่ออนไลน์ก็มีอายุมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่องของการดูแลสุขภาพ จึงเข้ามาสู่โลกของดิจิตอล อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราได้เห็นการพัฒนาของอุปกรณ์และบริการที่เชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ สำหรับให้ผู้บริโภคยุคใหม่ ได้ใช้ดูแลสุขภาพ เช่น Nike+ FuelBand SE หรือ Fitbit ที่คอยบันทึกปริมาณการออกกำลังกายในรูปแบบใหม่ และเชื่อมเข้ากับสังคมออนไลน์อย่าง Facebook ทำให้ผู้ใช้สามารถแบ่งปันความคืบหน้าของการออกกำลังกายกับเพื่อนในโลกออนไลน์ เป็นการตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปได้เป็นอย่างดี หรือ “แอพฯ Equalculator” ที่ให้ข้อมูลแคลอรี่ในอาหาร สำหรับคนที่กำลังควบคุมอาหารโดยเฉพาะ ซึ่งล้วนเป็นการปรับตัวของแบรนด์ เข้ากับกระแสรักสุขภาพ และการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์ อย่างแนบเนียน และมีประสิทธิภาพKey Take Away to Marketers - เรื่องสุขภาพ วันนี้มาสู่โลกออนไลน์แล้ว และยังมีช่องว่างให้นักการตลาดและแบรนด์ เข้าไปประยุกต์ใช้เพื่อทำการตลาดหรือสื่อสารกับผู้บริโภคได้อีกมาก ที่จะช่วยเรียกความสนใจ จากผู้บริโภคได้ นอกเหนือไปจากการทำโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน วันนี้ผู้บริโภคออนไลน์ รักสุขภาพกันแล้ว แล้วแบรนด์ของคุณล่ะ รักสุขภาพกับเค้าหรือยัง?สรุป
นักการตลาดในปี 2014 ต้องไม่พลาด คำนึงถึงและประยุกต์ใช้ 1) ช่องทางการขายบนโทรศัพท์มือถือ, 2) บทบาทของโทรทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการทำเนื้อหาวิดีโอบน Youtube และ 3) กระแสด้านการดูแลสุขภาพที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์แล้ว เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ของตนเอง ในการเอาชนะใจผู้บริโภคที่แสนซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาอย่างไม่หยุดยั้ง ลงมือทำตั้งแต่วันนี้ก่อนที่คู่แข่งของคุณจะก้าวล้ำนำคุณไปไกล!
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit