กลุ่มบริษัทแพรนด้าไม่ประสบความสำเร็จในการทำยอดขายเท่าที่ควรในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปัญหาเดียวกันกับที่กลุ่มอุตสาหกรรมการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยประสบอยู่ จนทำให้ภาพรวมการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ของไทยหดตัวลงถึง 23 % เหล่านี้นับเป็นภาวะที่ไม่ปกติ และเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในระยะสั้น ซึ่งทางบริษัทฯ คาดหมายว่าสถานการณ์จะคืนสู่ภาวะปกติในปี 2557 นี้
ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้เดินหน้าที่จะเพิ่มความแข็งแกร่ง และขีดความสามารถในระยะยาวของกิจการ โดยช่วงครึ่งปีหลังของ 2556 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างธุรกิจ โดย 1) เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท Pranda & Kroll GmbH & Co. KG จาก 51% เป็น 75% ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารงาน และขยายตลาดแบรนด์
สินค้า 2 ) การปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท Pranda SCL Indonesia ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องประดับ จากการถือครอง 50 % เหลือ 19 % ทั้งนี้เพื่อทางกลุ่มบริษัทแพรนด้าจะมุ่งเน้นธุรกิจการค้าปลีกในอินโดนีเซีย ที่สอดรับกับแผนการขยายธุรกิจใน AEC ของบริษัท และ 3 ) การหยุดกิจการของบริษัท Pranda Guangzhou Co., Ltd ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องประดับในประเทศจีน เนื่องจากสถานการณ์แข่งขันที่รุนแรง และประสบปัญหาขาดทุน
สำหรับปี 2556 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทแพรนด้ามีโครงสร้างรายได้ ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจการผลิต : ซึ่งมีสัดส่วน 45% ของรายได้จากการขาย ลดลง 24 % จากปีที่ผ่านมา เนื่องจากยอดขายในประเทศและต่างประเทศลดลงจากกำลังซื้อที่หดตัวลงจากสภาพเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งราคาทองคำ ราคาเนื้อเงินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
กลุ่มธุรกิจการจัดจำหน่าย : มีสัดส่วน 33 % ของรายได้จากการขาย ได้ปรับลดลง 4 % จากปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เกิดจากยอดขายในยุโรปจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงตกต่ำต่อเนื่อง
และ กลุ่มธุรกิจการค้าปลีก : มีสัดส่วน 22 % ของรายได้จากการขายโดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 5 % จากปีที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นจากยอดขายในประเทศอินโดนีเชีย และในประเทศเวียดนาม ตามนโยบายการขยายตลาดแบรนด์ของตนเองในกลุ่ม AEC
โดยเป้าหมายในปี 2557 นี้กลุ่มบริษัทแพรนด้าได้เตรียมความพร้อมทางธุรกิจที่จะรองรับการขยายตลาดสหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศยุโรปที่คาดว่าเศรษฐกิจจะกลับสู่ภาวะปกติ รวมไปถึงการขยายตลาดค้าปลีกสินค้าแบรนด์ในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ที่มีโอกาส ทั้งในอินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย จากปัจจัยเหล่านี้ ทางกลุ่มบริษัทแพรนด้าจึงคาดว่าจะสามารถทำยอดขายในปี 2557 กลับมาเติบโตปกติโดยประมาณ 10 % หรือเป็นจำนวน 4,000 ล้านบาท ในระยะยาวแล้ว บริษัทฯ ยังคงเชื่อมั่นในขีดความสามารถของการแข่งขันระดับประเทศ การพัฒนาฝีมือด้านการผลิต ตลอดจนปัจจัยสนับสนุนด้านต่างๆ และด้วยการมีฐานการผลิต (Production Operation) ที่หลากหลายของ
บริษัทฯ ในการผลิตสินค้าเครื่องประดับทองและเงิน และมีความยืดหยุ่นที่จะรองรับการคำสั่งซื้อที่หลากหลายของลูกค้าได้ อีกทั้งยังมีศูนย์ออกแบบและพัฒนาสินค้าของตนเอง (Design & Product Development Center) เพื่อลดระยะเวลาในการผลิตสินค้าและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งบริษัทฯยังมีฐานการจัดจำหน่าย (Distribution Operation) ของตนเองที่ต่างประเทศ ทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย ซึ่งสามารถเปิดตลาดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีฐานการค้าปลีก (Retail Operation) โดยใช้แบรนด์ของตนเองเพื่อกระจายความเสี่ยงทางด้านตลาดและมองหาตลาดที่ศักยภาพในการเติบโตในอนาคต
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit