โครงการประกวดแผนธุรกิจระดับภูมิภาคเอเชีย“ASIA VENTURE CHALLENGE 2014” ได้รับความสนใจจากนักศึกษา นักธุรกิจและนักลงทุนเป็นจำนวนมาก โดยในปีนี้มีนักศึกษาเข้าแข่งขันทั้งหมด 12ทีมจาก 9ประเทศ ได้แก่ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินเดีย ไทย เกาหลี และ บังคลาเทศ ซึ่งทุกทีมมีการเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ทำให้การแข่งขันในแต่ละรอบเข้มข้นมาก ในรอบสุดท้ายมีทีมที่เข้ารอบ 4 ทีม คือ
1) นักศึกษาทีม WeFoodieของ University of Hong Kong และ Chinese University of Hong Kongจากประเทศฮ่องกง ซึ่งเสนอแผนธุรกิจเกี่ยวกับระบบการสื่อสารออนไลน์ที่เน้นรูปภาพแบบ Foodie สำหรับการค้นหาและแบ่งปันภาพอาหาร และแพลตฟอร์มการทำการตลาดออนไลน์สำหรับร้านอาหาร เพื่อจัดเก็บฐานข้อมูลลูกค้าและทำการโฆษณาร้าน
2) นักศึกษาจากทีม SugarDrop จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เสนอแผนธุรกิจเกี่ยวกับSugarDrop คือเจ้าของกรรมสิทธิ์นวัตกรรมระบบ homofermentativeที่สามารถลดน้ำตาลในน้ำผลไม้ 100% โดยไม่ทำลายรสชาติ ระบบดังกล่าวสามารถแก้ปัญหาใหญ่ของอุตสาหกรรมมูลค่า $1.49 แสนล้าน
3)นิสิตจากทีมRediGenของสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเสนอแผนธุรกิจการก่อตั้งผู้ประกอบการ 5 คน และนักวิจัย 1 คน โดยนำเสนอนวัตกรรมของวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กับหลากหลายอุตสาหกรรม
4) นักศึกษาทีม Offstockของ Nanyang Technological University จากประเทศสิงคโปร์ นำเสนอแผนธุรกิจฐานระบบอีคอมเมิร์ชสำหรับช่วยโรงงานผลิต และผู้แทนจำหน่าย ในการทำการตลาดและการค้าของวัตถุดิบเคมีที่เหลือใช้จากกระบวนการผลิตและอื่นๆ
ผลการตัดสินปรากฏว่านิสิตทีม RediGenจากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คว้ารางวัลชนะเลิศจาก ASIA VENTURE CHALLENGE 2014(AVC) ได้รับเงินรางวัลจำนวน 10,000 เหรียญสหรัฐ และทีม SugarDropจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และWeFoodieของ University of Hong Kong และ Chinese University of Hong Kong จากประเทศฮ่องกงได้รางวัลรองชนะเลิศ เป็นเงินรางวัล 2,500 เหรียญสหรัฐซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีทีมนักศึกษาได้รับรางวัลรองชนะเลิศ จำนวน 2 ทีม
ทั้งนี้ นักศึกษาจากทีม RediGenของสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดเผยถึงเหตุผลที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในครั้งนี้ว่า แผนธุรกิจที่นำเสนอนี้คือการรวมตัวระหว่างวิทยาศาสตร์และธุรกิจได้อย่างลงตัว ทำให้ไม่มีผลกระทบต่อการปรับตัวของตลาด อีกทั้งยังสามารถช่วยลดต้นทุนได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการได้แนะนำกลุ่มลูกค้าและกลุ่มผู้แทนจำหน่าย รวมถึงเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้ในตลาดต่างประเทศ เพื่อนำไปปรับปรุงแผนธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น และเตรียมตัวเป็นผู้แทนของนักศึกษาในภูมิภาคเอเชียเข้าไปแข่งขันประกวดแผนธุรกิจในเวทีการแข่งขันระดับโลกที่โด่งดังอย่าง Venture Labs Investment Competition (VLIC) ในเดือนพฤษภาคมนี้ ณ มลรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งผู้ชนะระดับโลกจะเงินรางวัล 100,000เหรียญสหรัฐ และมีโอกาสลั่นระฆังเปิดตลาดหุ้น NASDAQ ที่นิวยอร์ก อีกด้วย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit