กรุงเทพฯ--12 ก.ย.--เซ็นจูรี่ 21
บริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) เติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ ธุรกิจแฟรนไชส์อสังหาฯ เติบโตรุดหน้าอย่างต่อเนื่องเนื่องจากธุรกิจ ซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นธุรกิจที่มีโอกาสอยู่เสมอ พร้อมเปิดสถาบัน TSA เตรียมความพร้อมให้กับกองทัพนายหน้าอสังหาฯ จากเซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) อีกด้วย
บริษัท เซ็นจูรี่ 21 เรียลตี้ แอฟฟิลิเอทส์ (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้พัฒนาส่วนธุรกิจแฟรนไชส์หนึ่งในสายธุรกิจของเซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) เพื่อบริการด้านที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็น ซื้อ ขาย เช่า บ้าน คอนโดมิเนียม หรือที่ดิน ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ที่ต้องการทำธุรกิจเป็นอย่างดี โดยมีผู้ที่สนใจมาเปิดสาขาของ เซ็นจูรี่ 21 ฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง โดยมีการเซ็นสัญญาและจะเปิดสาขาเพิ่มขึ้นอีก ที่จังหวัดสมุย ภูเก็ต และกรุงเทพฯ ปัจจุบัน เซ็นจูรี่ 21 ฯ มีจำนวนสาขาแฟรนไชส์ที่เปิดดำเนินการแล้ว 25 สาขา โดยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพจำนวน 18 สาขา อาทิ ทองหล่อ, สุขุมวิท 16, สุขุมวิท 24, สุขุมวิท 64, สาธร, วงเวียนใหญ่, อโศก, ลาดพร้าว และ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง เป็นต้นส่วนในพื้นที่อื่นๆ คือ จังหวัดเชียงใหม่, ภูเก็ต, สมุย, ขอนแก่น, อุดรธานี, พัทยาและหัวหิน ปัจจุบันมีจังหวัดละ 1 สาขา อย่างไรก็ตามจะมีการเปิดสาขาเพิ่มขึ้นอีกภายในสิ้นปีนี้ โดยเฉพาะที่ ภูเก็ต และ สมุย
นายเดวิด เดนิสสัน ผู้อำนวยการด้านพัฒนาธุรกิจ-แฟรนไชส์ บริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “อย่างที่ทราบกันดีอยู่ในเรื่องของเศรษฐกิจปัจจุบันนั้นไม่ค่อยดีนัก แต่เพราะเหตุใด เรายังสามารถขยายสาขาได้อย่างต่อเนื่อง และมีผู้ที่สนใจเข้าร่วมทำธุรกิจจัดหา ซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะปัจจัยที่ทำให้คนส่วนใหญ่หันมาสนใจในธุรกิจนี้เพิ่มมากขึ้น และเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในเครือข่ายภายใต้แบรนด์ เซ็นจูรี่ 21 ฯ เนื่องจากธุรกิจด้านนี้เป็นโอกาส หากมองในมุมมองของเอเจนท์ ที่ทำหน้าที่บริหารจัดการเรื่องการซื้อขาย บ้าน ที่ดิน คอนโดมิเนียม จะมองว่าธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่มีโอกาสอยู่เสมอ ไม่ว่าจะในสถานการณ์เศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงขาขึ้น หรือขาลง หากเป็นในช่วงขาลง ก็จะมีคนที่ต้องการขายอสังหาริมทรัพย์ออกมาค่อนข้างมาก แต่หากเป็นในช่วงขาขึ้น ก็จะมีหลายๆ คนต้องการซื้อเพื่อลงทุนเก็บไว้นั่นเอง นับว่านี่คือโอกาสในการทำธุรกิจของเอเจนท์”
ทั้งนี้ ในระบบของการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในเครือข่ายแฟรนไชส์อสังหาฯ ของเซ็นจูรี่ 21 ฯ นั้น บริษัทเซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) จำกัด จะมีระบบเทคโนโลยีรองรับในการบริหารจัดการ การทำการตลาดภาพรวมของธุรกิจอสังหาฯ และเครือข่ายทั่วโลกเพื่อรองรับการขับเคลื่อนของธุรกิจ หรือที่เราเรียกกันว่า Networking และที่สำคัญกว่านั้น ธุรกิจการบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจร สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากทีสุุดนั่นคือเรื่องของบุคลากร โดย บริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้จัดตั้งสถาบัน TSA (Thailand Sales Academy) ขึ้น เพื่อให้องค์ความรู้ และการพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ เพื่อเอื้อต่อการทำธุรกิจ กับเอเจนท์ของเราในเครือข่าย และผู้ที่สนใจในธุรกิจนี้อีกด้วย
“ปัจจุบันมีผู้ที่สนใจเข้ามาฝึกอบรมที่สถาบันเป็นจำนวนมาก โดยในหลักสูตรของเราจะเป็นการให้ความรู้เรื่องกฎหมายทั่วไปในการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การวางแผนในการทำธุรกิจ หลักการ และเทคนิคการขายให้ประสบผลสำเร็จ เป็นต้น โดยผู้ที่เข้าอบรมจะต้องสอบผู้ที่ผ่านเกณฑ์จะได้รับใบประกาศนียบัตรในการประกอบอาชีพด้านเอเจนท์อสังหาฯ เป็นเวลา 1 ปี จาก เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) ปัจจุบันมีคนสำเร็จหลักสูตรของเราเป็นจำนวนมาก และมีส่วนหนึ่งได้เข้ามาทำธุรกิจ และอยู่ในเครือข่ายภายใต้แบรนด์ เซ็นจูรี่ 21 อีกด้วย” นายเดวิด กล่าว
ถึงแม้ว่าปัจจุบันสถานการณ์โดยรวมของเศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงชะลอตัว แต่อย่างที่กล่าวในเบื้องต้นว่า ในส่วนของการจัดหา ซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ จะเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างโอกาสได้ในทุกรูปแบบของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่เริ่มมีการเติบโตของ Remaining Unit หรือสินค้าคงเหลือ และบ้านมือสองเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ตลาดของแฟรนไชส์อสังหาฯ เติบโตขึ้นไปตามกัน เพราะมีผู้ที่สนใจซื้ออสังหาฯ เพื่อลงทุน และเพื่ออยู่อาศัยสูงขึ้น ทั้งในตัวเมือง CBD และต่างจังหวัดโดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว และจังหวัดที่กำลังเติบโตสูง อย่าง อุดรธานี ขอนแก่น เป็นต้น นับว่าจะเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งของกองทัพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์จากเซ็นจูรี่ 21 ฯ ที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ
หากผู้ที่สนใจในหลักสูตรของสถาบัน TSA (Thailand Sales Academy) สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-650-5151 หรือลงทะเบียนผ่าน www.facebook.com/ThailandCentury21-กภ-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit