ปล่อยแล้ว ! ตัวอย่างทางการ (Official Teaser) หนังไทย "พี่ชาย My Bromance" โดย ณิชภูมิ ชัยอนันต์

13 Sep 2013

กรุงเทพฯ--13 ก.ย.--วายุฟิล์ม โปรดักชั่น

หลังจากบวงสรวงเปิดกล้องภาพยนตร์ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมาค่ายภาพยนตร์น้องใหม่ “วายุฟิล์ม โปรดักชั่น”ได้ปล่อยทีเซอร์อย่างเป็นทางการ (Official Teaser) ของภาพยนตร์เรื่องพี่ชาย My Bromance” มาให้ดูกันแล้วพร้อมเปิดตัวสองพระเอกนักแสดงใหม่แกะกล่อง “ฟลุ๊ค” พงศธร ศรีปินตาและ “ฟลุค” ธีรภัทร โลหนันทน์ เป็นตัวแทนในการถ่ายทอดความรักอันยิ่งใหญ่ของสองพี่น้องที่ไร้กำแพงทางเพศมาขวางกั้น โดยถ่ายทำที่จังหวัดเชียงใหม่ทั้งหมดด้วยฝีมือการกำกับของ “ณิชชี่” ณิชภูมิ ชัยอนันต์ ผู้กำกับหน้าใหม่ชาวเชียงใหม่ วัย 28 ปี ที่เคยมีผลงานสร้างชื่อกับภาพยนตร์สารคดีเรื่อง “I am the Director”(ฝันฉันคือผู้กำกับ) ในปี 2553และ “รงค์ วงษ์สวรรค์” ในปี 2555 จากการเข้าฉายแบบจำกัดโรงภาพยนตร์ “พี่ชาย My Bromance” ใช้เวลาคัดเลือกนักแสดง เขียนบทเตรียมงานนาน 1 ปี และใช้เวลาถ่ายทำตัดต่อร่วม 6 เดือน เพื่อถ่ายทอดความละมุนละเมียดของบรรยากาศในแต่ละฉาก การแสดงที่ดีเยี่ยมของนักแสดง และเรื่องราวสุขเศร้า ประทับใจที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์อย่างบรรจงที่สุด อีกทั้งยังได้ฝีมือทางการแสดงที่น่าทึ่งจาก “ฟลุ๊ค” พงศธร ศรีปินตา นักแสดงหน้าใหม่แต่ไม่ธรรมดาที่เคยฝากผลงานไว้ในภาพยนตร์เรื่อง “เกรียนฟิคชั่น” จากค่ายสหมงคลฟิล์ม และล่าสุดกับภาพยนตร์เรื่อง “ตี 3 คืน 3” จากค่ายไฟว์สตาร์โปรดักชั่น ประกบด้วย“ฟลุค” ธีรภัทร โลหนันทน์ พระเอกเอ็มวีเพลง “ดีดี” ของ “คัทโตะ-ลิปตา”ซึ่งทั้ง “ฟลุ๊ค” พงศธร และ “ฟลุค” ธีรภัทร ได้รับการปรับเปลี่ยนบุคลิกใหม่ทั้งหมดโดยผู้กำกับ “ณิชชี่” เพื่อให้มีคาแรกเตอร์ตรงตามบทภาพยนตร์ เป็นเวลานานแรมปีก่อนทำการเปิดกล้องแล้วทั้งสองก็แสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างสมบทบาทที่สุด

“เราถ่ายหนังเรื่องนี้กันเร็วมาก ทุกอย่างในกองถ่ายเป็นความลับหมด เราไม่ให้ใครเห็นการถ่ายทำเลย สถานที่ถ่ายทำหลักคือที่โรงเรียนวชิรวิทย์ แต่ก็เป็นตอนปิดเทอม ไม่มีนักเรียนอยู่ที่โรงเรียนสักคน พอจะถ่ายที่สาธารณะเราก็ยกกองไปถ่ายดึกมาก คนก็หลับกันหมดแล้ว นักแสดงทั้งหมดเข้าพักที่โรงแรมฮอลิเดย์อินน์เชียงใหม่ตลอดการถ่ายทำ ก็ไม่มีใครรู้เลยว่าเราพักกันที่นั่น เป็นการถ่ายทำที่ลึกลับ ถือว่าแปลกดีสำหรับการถ่ายทำแบบนี้ที่เชียงใหม่ เราได้เรียนรู้ว่าการถ่ายหนังแบบเงียบๆ ที่เชียงใหม่มันก็ทำได้เหมือนกัน ที่นี่เป็นบ้านของเรา จึงค่อนข้างคุมทุกอย่างได้เต็มที่ เราเตรียมงานกันนาน และถ่ายทำกันหนักมาก ทุกคนมีเวลานอนไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องตื่นมาทำงานกันต่อ เจอหน้ากันเกือบจะ 24 ชั่วโมง การถ่ายหนังเรื่องนี้จึงกลายเป็นวิถีชีวิตประจำวันของทุกคนไปแล้ว มารู้ตัวอีกทีก็คือเมื่อหนังปิดกล้องไปแล้ว ต้องแยกจากกันแล้ว ทุกคนผูกพันกันมาก ทีมงานและนักแสดง 80% เป็นคนเชียงใหม่หมดเราจึงใช้วิธีการทำงานแบบคนเชียงใหม่ที่ทุกอย่างมีข้อจำกัดหมด แต่เราก็ต้องทำหนังให้เสร็จและให้มันออกมาดีที่สุด เราเป็นค่ายเล็กๆ กองถ่ายเราก็เป็นกองเล็กๆ งบสร้างหนังเรื่องนี้หลักล้านกว่าๆ อาจดูน้อยสำหรับค่ายอื่น แต่สำหรับเราถือว่าเป็นงบที่สูงเราจึงใช้เงินอย่างคุ้มค่ามาก ๆ เพื่อให้งานออกมามีคุณภาพ ประมาณว่างบมีล้านเดียวแต่อยากได้งานคุณภาพเหมือนงบสิบล้าน เราก็ต้องทำให้งานออกมาดีแบบงบสิบล้านให้ได้ในงบที่มีแค่ล้านเดียวนี่แหละ ซึ่งในที่สุดเราก็ทำได้ และงานออกมาดี เป็นวิธีทำงานแบบเชียงใหม่ที่ผมชอบ เป็นการช่วยนายทุนประหยัดงบด้วยครับ”

นอกจากเด็กปั้นของค่ายวายุฟิล์มโปรดักชั่นอย่าง “ฟลุ๊ค” พงศธร ศรีปินตา และ“ฟลุค” ธีรภัทร โลหนันทน์ แล้ว ยังมีทีมนักแสดงหน้าใหม่อย่าง คิม-วรกมล, มาร์ค-วิทวัส ท้าวคำลือ, ปรินส์-นราดล,ปรินซ์-วรัชญา, ข้าวฟ่าง-วชิราภรณ์,โจ้-จักริน และบาส-ธนาเวศม์ มาร่วมสร้างสีสันในภาพยนตร์ด้วยซึ่งแต่ละคนผู้กำกับการันตีคุณภาพและความสามารถในเรื่องการถ่ายทอดเรื่องราวความรู้สึกของวัยรุ่น รวมถึงความรักในครอบครัวและเพื่อนฝูงได้เป็นอย่างดีไม่น้อยหน้าสองพระเอก

“จริงๆ แล้วหนังเรื่องนี้เป็นหนังครอบครัวและมิตรภาพระหว่างเพื่อนครับ ผมไม่คิดว่ามันเป็นหนังเกย์เลย มันอยู่ที่มุมมองและทัศนคติของแต่ละคน คือถ้าคุณเป็นเกย์ คุณอาจมองว่านี่เป็นหนังเกย์ก็ได้ เพราะมันมีผู้ชายรักกัน แต่ถ้าคุณไม่ได้เป็นเกย์ คุณอาจมองว่ามันคือหนังรักวัยรุ่นทั่วไปอย่างที่คนส่วนใหญ่ดูๆ กันทุกวันนี้ เพราะมันมีเรื่องราวของครอบครัว ความรักวัยรุ่นชายหญิง มิตรภาพของเพื่อนในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต คุณดูแล้วคุณจะไม่รู้สึกแอนตี้ความเป็นเกย์ในหนังเรื่องนี้แน่ๆ เพราะมันไม่ได้น่ารังเกียจจนเกินรับได้ และมันก็ไม่ได้งดงามจนน่าเพ้อฝัน

มีคนมาถามผมว่าหนังผมเป็นหนังแนวไหน ผมไม่เคยตอบได้เลย ผมเองยังนิยามหนังผมไม่ได้เลยว่าแนวไหน เพราะเวลาทำหนังผมไม่ได้ใช้ทฤษฎีเป็นเรื่องหลัก แต่ผมใช้ความรู้สึก ส่วนความคืบหน้าของภาพยนตร์ ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงตัดต่อ ทำเพลงประกอบภาพยนตร์ และเจรจาหาค่ายผู้จัดจำหน่ายอยู่ครับ

แฟนๆ ที่ติดตามกันมาเป็นปีๆ ขอให้อดใจรอกันอีกสักนิด คุ้มค่าสมการรอคอยแน่นอนครับ”ภาพยนตร์ “พี่ชาย My Bromance” โดย ณิชภูมิ ชัยอนันต์ วางโปรแกรมฉายสิ้นปีนี้ในโรงภาพยนตร์ทั่วไป และมีกำหนดการจัดฉายรอบปฐมทัศน์รอบแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ในเดือนธันวาคม 2556 ติดตามข่าวความคืบหน้า และตัวอย่างภาพยนตร์อย่างเป็นทางการ (Official Trailer) ได้เร็ว ๆ นี้ หรือติดตามได้ทางเพจทางการของภาพยนตร์ https://www.facebook.com/MyBromance

ดู Official Teaser ภาพยนตร์ “พี่ชาย My Bromance” ได้ที่ http://youtu.be/_MHnVSAXXEU

-กผ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net