รายได้รัฐบาลเดือนสิงหาคม 2556 และในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556

20 Sep 2013

กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556 (ตุลาคม 2555 – สิงหาคม 2556) จัดเก็บได้ 1,964,182 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 52,008 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.7 และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วถึงร้อยละ 9.1 โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญได้แก่ ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สะท้อนถึงกิจกรรมและธุรกรรมทางเศรษฐกิจของภาคเอกชนถึงแม้ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจอยู่บ้างแต่ผลกระทบดังกล่าวยังไม่มีผลในทางลบต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ของ 3 กรมจัดเก็บภาษีสังกัดกระทรวงการคลังสูงกว่าเป้าหมาย 2,280 ล้านบาท ประกอบกับการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่นและการนำส่งรายได้รัฐวิสาหกิจสูงกว่าเป้าหมาย 47,647 และ 9,311 ล้านบาท ตามลำดับ

ทั้งนี้ นายสมชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่าจากผลการจัดเก็บรายได้ในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณที่ยังคงสูงกว่าประมาณการ ทำให้มั่นใจว่าในปีงบประมาณ 2556 (ซึ่งเหลือเพียงเดือนกันยายน) นี้ รัฐบาลจะสามารถจัดเก็บรายได้ตามเป้าหมายได้อย่างแน่นอน ส่งผลให้ฐานะการคลังของประเทศมีความมั่นคง เป็นเสาหลักในการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ

1. ในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556 (ตุลาคม 2555 – สิงหาคม 2556) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1,964,182 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 52,008 ล้านบาทหรือร้อยละ 2.7 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 9.1) โดยการจัดเก็บรายได้ของ 3 กรมจัดเก็บภาษีสังกัดกระทรวงการคลังที่สูงกว่าเป้าหมาย 2,280 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.1 ประกอบกับการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่นและการนำส่งรายได้รัฐวิสาหกิจสูงกว่าเป้าหมาย 47,647 ล้านบาท และ 9,311 ล้านบาท หรือร้อยละ 45.9 และร้อยละ 10.4 ตามลำดับ

ผลการจัดเก็บรายได้ตามหน่วยงานจัดเก็บสรุปได้ ดังนี้

1.1 กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวม 1,565,109 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 19,130 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.2 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.2) สาเหตุสำคัญมาจากภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 71,214 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.0 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 2.0) ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการใช้สิทธิในการยื่นชำระภาษีผ่านทางอินเตอร์เน็ตในเดือนสิงหาคมมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้มีรายได้ส่วนหนึ่งเหลื่อมไปในเดือนกันยายน และการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลในปีนี้ยังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปลายปี 2554 สำหรับภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 6,102 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.9 เนื่องจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการนำเข้าจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายสอดคล้องกับมูลค่านำเข้าที่ชะลอตัวลงส่วนภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการบริโภคในประเทศยังจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย สะท้อนการบริโภคในประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ (1) ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 24,926 ล้านบาท หรือร้อยละ 28.8 สะท้อนผลประกอบการในธุรกิจปิโตรเลียมที่เติบโตดี (2) ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 23,956 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.5 สะท้อนถึงรายได้ภาคครัวเรือน โดยเฉพาะฐานเงินเดือนและฐานเงินฝากที่ขยายตัวได้ดี และ (3) ภาษีธุรกิจเฉพาะจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 7,839 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.3 สาเหตุสำคัญมาจากภาษีที่เก็บจากธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย

1.2 กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 401,096 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 22,689 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.0 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 16.0) สาเหตุสำคัญมาจาก (1) ภาษีสรรพสามิตรถยนต์จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 32,841 ล้านบาท หรือร้อยละ 29.2 (2) ภาษียาสูบจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 5,436 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.9 เนื่องจากการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตยาสูบเมื่อเดือนสิงหาคม 2555 และ (3) ภาษีเบียร์จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 2,957 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.9 จากปริมาณการบริโภคที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดี ภาษีน้ำมันและภาษีสุราจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 15,509 และ 5,553 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.0 และ 10.0 ตามลำดับ

1.3 กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 104,321 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 1,279ล้านบาท หรือร้อยละ 1.2 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.0) โดยอากรขาเข้าจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 1,706 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.6 เป็นผลจากมูลค่านำเข้าที่ชะลอตัวลง แม้มูลค่าการนำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินบาท ในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556 (ตุลาคม 2555 – กรกฎาคม 2556) ขยายตัวร้อยละ 8.3 และร้อยละ 5.1 ตามลำดับ แต่มูลค่าสินค้านำเข้าที่ชำระอากรหดตัวร้อยละ 4.4 สำหรับสินค้าที่จัดเก็บอากรขาเข้าได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบรถยนต์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ เหล็กและเหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์เหล็กและเหล็กกล้า

1.4 รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้ 99,216 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 9,311 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.4 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 1.4) โดยรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้/เงินปันผลสูงกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ บมจ.ทีโอที ธนาคารออมสิน และบมจ.กสท โทรคมนาคม

1.5 หน่วยงานอื่น จัดเก็บรายได้รวม 151,533 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 47,647 ล้านบาท หรือร้อยละ 45.9 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 41.6) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการจัดเก็บรายได้สัมปทานปิโตรเลียมสูงกว่าเป้าหมาย เนื่องจากปริมาณปิโตรเลียมที่ขุดเจาะสูงกว่าที่คาดไว้ ประกอบกับกรมธนารักษ์จัดเก็บรายได้สูงกว่าเป้าหมาย 1,185 ล้านบาท จากการจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนและเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเป็นสำคัญ นอกจากนี้ ยังมีรายได้พิเศษ ได้แก่ รายได้จากการประมูลให้ใช้คลื่นความถี่ 3G ย่าน 2.1 GHz การส่งคืนเงินที่กันไว้เพื่อชดเชยค่าภาษีอากรสำหรับผู้ส่งออกสินค้า และการเหลื่อมนำส่งรายได้จากกำไรสุทธิประจำปี 2553 ของ กสทช. เป็นต้น

1.6 การคืนภาษีของกรมสรรพากร จำนวน 265,242 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 10,581 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.2 ประกอบด้วยการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 213,661 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 9,641 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.7 และการคืนภาษีอื่นๆ (ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคลภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์) 51,581 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 940 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.9

1.7 การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 14,241 ล้านบาทสูงกว่าประมาณการ 245 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.8 และเงินกันชดเชยภาษีสำหรับสินค้าส่งออก จำนวน 14,709 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 37 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.3 1.8 การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ จำนวน 8 งวด เป็นเงิน 62,901 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 3,559 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.4 เป็นผลจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มต่ำกว่าประมาณการและการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสูงกว่าประมาณการ (การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้ อปท. จะจัดสรรจากฐานจัดเก็บสุทธิคือภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บ หักการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม)

2. เดือนสิงหาคม 2556 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 213,318 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 32,740 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.3 โดยในเดือนนี้มีภาษีที่สำคัญ คือ ภาษีเงินได้นิติบุคคลที่มีการยื่นชำระภาษีจากประมาณการกำไรสุทธิครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี (ภ.ง.ด.๕1) และการยื่นชำระภาษีจากกำไรสุทธิรอบปีบัญชี (ภ.ง.ด.50) ของบริษัทญี่ปุ่นซึ่งได้ใช้สิทธิในการยื่นชำระภาษีผ่านทางอินเตอร์เน็ตมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้มีรายได้ส่วนหนึ่งเหลื่อมไปในเดือนกันยายน ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลในเดือนสิงหาคมนี้ต่ำกว่าประมาณการ 45,930 ล้านบาท อย่างไรก็ดี หากนับรวมภาษีในส่วนที่ใช้สิทธิยื่นชำระทางอินเตอร์เน็ตจะส่งผลให้จัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายประมาณเพียง 20,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เนื่องจากการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลในปีนี้ยังคงได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปลายปี 2554 อยู่บ้าง นอกจากนี้ หน่วยงานอื่นจัดเก็บรายได้สูงกว่าประมาณการ 1,520 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการจัดเก็บรายได้สัมปทานปิโตรเลียมจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการจากปริมาณปิโตรเลียมที่ขุดเจาะสูงกว่าที่คาดไว้ สำหรับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มขอกรมสรรพากรต่ำกว่าประมาณการ 3,998 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.6

สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

โทร. 02 273 9020 ต่อ 3543 และ 3569 -นท-