กรุงเทพฯ--25 ก.ย.--คอมมูนิเคชั่น แอนด์ มอร์
“โลหิต” เป็นสิ่งที่มีความสำคัญและจำเป็นมากในการช่วยรักษาชีวิตผู้ป่วยทั่วประเทศให้รอดจากความตาย ซึ่งในปัจจุบันโลหิตที่ได้รับการบริจาคยังไม่เพียงพอกับความต้องการในการช่วยชีวิตผู้ป่วยในแต่ละปี ดังนั้นการรณรงค์ขอรับบริจาคโลหิตจึงเป็นสิ่งเร่งด่วนที่มีความจำเป็นมาก เพราะชีวิตของผู้ป่วยที่ต้องการเลือดเพื่อรักษาชีวิตแขวนอยู่บนความเป็นความตายนาทีต่อนาที
ด้วยสาเหตุดังกล่าวข้างต้น บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตแบรนด์ซุปไก่สกัด ร่วมกับ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จัดโครงการ “แบรนด์...พลังเลือดใหม่ 2556” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา เชิญชวนนิสิต และนักศึกษาคนรุ่นใหม่จากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ร่วมบริจาคโลหิต สร้างจิตสำนึกในการเป็น “ผู้ให้” ตั้งเป้าโลหิตที่ได้รับบริจาคจำนวน 86,000 ยูนิต หรือไม่ต่ำกว่า 34,400,000 ซี.ซี พร้อมประกาศผลผู้ชนะกิจกรรมการประกวดวีดีโอคลิป และโปสเตอร์รณรงค์การบริจาคโลหิต รับโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และทุนการศึกษา
“ทีมหัวโต โปรดักชั่น” นักศึกษาคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยศิลปากร คว้ารางวัลชนะเลิศประเภทวีดีโอคลิป เล่าว่า ไอเดียในการสร้างผลงานวีดีโอคลิปเรื่องนี้ เริ่มต้นมาจากสนใจในงานที่สะท้อนอารมณ์ที่สื่อถึงความรู้สึกก่อน ก็คิดหาวิธีที่จะสื่อถึงเรื่องราวให้ออกมาเลยหาสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ เพื่อสื่อถึงความหมายว่าต้องการความช่วยเหลือก็เลยลองใช้ขวดน้ำเปล่าๆ ใบใหญ่ๆ เพื่อที่จะให้เด็กไปขอเลือดเพื่อมาให้แม่ได้เยอะๆ และเด็กใช้เพื่อสื่อถึงความรู้สึกที่บริสุทธิ์ น่าสงสาร และบอกให้รู้ว่าต้องการเลือดเพื่อที่จะไปช่วยแม่จริงๆ นะ ทีมของเรารู้สึกภูมิใจมากที่ได้รับรางวัลนี้จากโครงการ “แบรนด์,,,พลังเพื่อเลือดใหม่” เพราะได้ใช้ฝีมือเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ได้สื่อถึงการบริจาคเลือดผ่านผลงานของเรา ที่สำคัญเรายังได้ช่วยสนับสนุนให้วัยรุ่นมาร่วมบริจาคเลือดเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น และเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ในการแสดงพลังเพื่อช่วยเหลือสังคมด้วย สามารถชมผลงานของพวกเราได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=XYWCirvp34U
“ทีมซุปเปอร์เกิร์ล” นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม รับรางวัลชนะเลิศประเภทสื่อโปสเตอร์ กล่าวว่า ทีมซุปเปอร์เกิร์ล ดีใจและภูมิใจที่ได้รับรางวัลนี้ เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ส่งผลงานเข้าประกวดด้วย โดยจุดเริ่มต้นของแนวคิดในการสร้างผลงานชิ้นนี้มาจากความคิดที่หลากหลาย โดยคิดคำ ให้เป็นคอนเซปท์ของงานก่อน ซึ่งก็คือ ”ต่างคน ต่างมา ต่างใจ แต่สายเลือดเดียวกัน” หลังจากนั้นก็สื่อความหมายผ่านภาพและตัวหนังสือออกมาอย่างเข้าใจได้ง่าย เน้นสื่อถึงการสนับสนุนให้ทุกๆ คนเข้ามาร่วมกันบริจาคเลือดไม่ว่าจะมีอาชีพอะไรก็ตาม ก็สามารถช่วยกันบริจาคเลือดเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นได้โดยที่เราไม่ต้องแบ่งแยก การสร้างโปสเตอร์ชิ้นนี้ขึ้นมาก็อยากจะสื่อให้ทุกคนในสังคมเห็นแก่ส่วนรวม ได้ร่วมเป็น ”ผู้ให้” ชีวิตที่มีค่ากับผู้ป่วยและครอบครัวผู้ป่วย
แพทย์หญิงสร้อยสอางค์ พิกุลสด ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาติไทย กล่าวว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมาศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทยเกิดปัญหาเรื่องการจัดหาโลหิตที่ไม่เพียงพอ และไม่สม่ำเสมอซึ่งยังคงเป็นปัญหาหลักและอุปสรรคที่สำคัญ โดยสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่เข้าใจของผู้บริจาคโลหิตหน้าใหม่ๆ โดยศูนย์ฯ ได้จัดกิจกรรมให้ความรู้ และรณรงค์เชิญชวนให้ร่วมบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย มีเป้าหมายในการจัดหาโลหิตในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลจำนวน 600,000 ยูนิตต่อปี และ ในส่วนจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ รวมแล้วต้องจัดหาโลหิตให้ได้ 1,950,000 ยูนิตต่อปี จึงจะเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งปริมาณการใช้โลหิตนั้นมีเพิ่มขึ้น 8-10 เปอร์เซนต์ทุกปี ดังนั้นศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ จึงต้องสร้างพันธมิตร และเครือข่ายภาคีร่วมในการกระตุ้นให้มีผู้บริจาคโลหิตเพิ่มขึ้น
นอกจากการบริจาคเลือดจะเป็นการช่วยชีวิตผู้อื่นแล้ว ยังเป็นสิ่งที่ดีกับร่างกายของผู้บริจาคอีกด้วย เพราะการบริจาคโลหิตมีข้อดีต่อสุขภาพและร่างกายของผู้บริจาคโลหิตหลายประการ อาทิ ร่างกายจะได้สร้างเม็ดเลือดใหม่ๆ ซึ่งแข็งแรงและทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่า ช่วยกระตุ้นการทำงานของไขกระดูก ช่วยให้ไขกระดูกทำงานได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน โดยเฉพาะในเพศชาย นอกจากนี้ยังถือเป็นการได้ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุก 3 เดือน และได้ตรวจสารเคมีในโลหิตอีกด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถบริจาคโลหิตได้ทุกวันที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ถนนอังรี-ดูนังต์ โทร.0 2263 9600-99 หรือ www.blooddonationthai.com
-กผ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net