กลุ่มสิงค์เทล พันธมิตรของเอไอเอส ประกาศจับมือซัมซุง เพื่อมอบสุดยอดประสบการณ์เหนือระดับให้ลูกค้า

01 Oct 2013

กรุงเทพฯ--1 ต.ค.--เอไอเอส

กลุ่มสิงค์เทล ตอกย้ำความสำคัญของกลยุทธ์ความร่วมมือกับพันธมิตร ประกาศจับมือกับ ซัมซุง ทำตลาดบริการสาระบันเทิงและเทคโนโลยี (infotainment and technology) ในเอเชีย ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมการสื่อสารยุคใหม่ผ่านระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่ทำให้กลุ่มสิงค์เทลสามารถให้บริการแอพพลิเคชั่นและผลิตภัณฑ์ดิจิตอลกับลูกค้าของบริษัทในกลุ่มสิงค์เทลได้ครอบคลุมถึง 6 ประเทศได้แก่ แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (AIS) ประเทศไทย , แอร์เทล (Airtel) ประเทศอินเดีย , โกล้บ เทเลคอม (Globe Telecom) ประเทศฟิลิปปินส์ , ออพตัส (Optus) ประเทศออสเตรเลีย , สิงค์เทล (SingTel) ประเทศสิงคโปร์ และเทลคอมเซล (Telkomsel) ประเทศอินโดนีเซีย

นอกจากนี้ กลุ่มสิงค์เทลยังได้ทำข้อตกลงกับซัมซุง เพื่อวางแผนการตลาดและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ร่วมกันในอนาคต ประกอบด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ ภายใต้แบรนด์ซัมซุง และแอพพลิเคชั่นของบริษัทในเครือสิงค์เทลในแต่ละประเทศ โดยการผนึกกำลังครั้งนี้ จะสามารถทำให้ช่องทางจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และสามารถมอบสุดยอดประสบการณ์เหนือระดับผ่านเครือข่ายอัจฉริยะ (intelligent networks) ของบริษัทในเครือสิงค์เทล เพื่อเพิ่มความสะดวกกับลูกค้า อันจะนำมาซึ่งการเพิ่มจำนวนลูกค้าทั้งในระบบ 3G และ 4G ด้วย

มร. มาร์ค ชอง ชิน ก๊อก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร International กลุ่มสิงค์เทล กล่าวว่า “กลุ่มสิงค์เทลและซัมซุงมุ่งมั่นที่จะร่วมกันส่งมอบประสบการณ์การใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อันน่าตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่สมาร์ทโฟนและนวัตกรรมอุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ เพื่อให้ลูกค้ากว่า 400 ล้านคน ในทั้ง 6 ประเทศ ได้รับประโยชน์จากข้อเสนอสุดพิเศษที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วย”

ด้าน มร. ดี เจ ลี President & Head ส่วนงานการขายและการตลาด ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า “ซัมซุงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสในการส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับลูกค้า ด้วยนวัตกรรมการสื่อสารยุคใหม่ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ของซัมซุงในครั้งนี้ และเรายังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนและทำงานอย่างใกล้ชิดกับบริษัทผู้นำในการให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในกลุ่มสิงค์เทลเช่นนี้ต่อไป”

สำหรับความร่วมมือระหว่างกลุ่มสิงค์เทลและซัมซุงในครั้งนี้ จะเริ่มขึ้นในไตรมาสที่สี่ของปีนี้เป็นต้นไป

-กผ-