กรุงเทพฯ--1 ต.ค.--กรมทรัพยากรน้ำบาดาล
กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเปิดศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มอบหมายสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขตนำรถปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาลเคลื่อนที่ไปประจำในพื้นที่แล้ว 11 จุด รวมแจกจ่ายน้ำไปแล้วทั้งสิ้น 260,000 ลิตร ย้ำแนวคิดป้องกันน้ำท่วมบ่อน้ำบาดาลโดยวิธีปิดปากบ่อ น้ำบาดาลแบบถาวรเป็นมาตรฐานสำหรับบ่อน้ำบาดาลทุกบ่อที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเจาะใหม่
นายสุพจน์ เจิมสวัสดิพงษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่ประชาชนในพื้นที่หลายจังหวัดกำลังประสบอยู่ กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้รับมอบนโยบายจาก นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยไว้ตลอดเวลา โดยใช้ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบล่วงหน้า และให้ ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสามารถบูรณาการข้อมูลและระบบสารสนเทศร่วมกัน เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้เร็วที่สุด ดังนั้น กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยมอบหมายให้สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 1-12 ประกอบด้วย จังหวัดลำปาง สุพรรณบุรี สระบุรี ขอนแก่น นครราชสีมา ตรัง กำแพงเพชร ราชบุรี ระยอง อุดรธานี อุบลราชธานี และจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติงานในพื้นที่ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อุทกภัย และเตรียมความพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่และเครื่องมือ เพื่อให้การช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบอุทกภัย และเร่งให้ความช่วยเหลือในเรื่องน้ำสะอาดแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย เพื่อให้มีน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภค อย่างเพียงพอ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา นายสุพจน์ เจิมสวัสดิพงษ์ อธิบดีกรมทรัพยากร น้ำบาดาลได้ติดตามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วมที่วัดธรรมาราม ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจผนังกั้นน้ำบริเวณหน้าวัดธรรมาราม ซึ่งยังสามารถรับน้ำได้อีก 1.6 เมตร รวมทั้งแจกถุงยังชีพ ให้ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว และตรวจเยี่ยมพื้นที่ตำบลบางหัก อำเภอบางบาล โดย อธิบดีกรมทรัพยากร น้ำบาดาลได้มอบหมายให้สำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขตนำรถปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาลเคลื่อนที่ไปประจำอยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งหมดแล้ว 11 จุด มีการแจกจ่ายน้ำจากรถปรับปรุงคุณภาพน้ำ จำนวน 76,395 ลิตร น้ำดื่มบรรจุขวด/แบบแกลลอน 5 ลิตร จำนวน 60,215 ลิตร และรถบรรทุกน้ำ จำนวน 121,000 ลิตร รวมแจกจ่ายน้ำไปแล้วทั้งสิ้น 257,610 ลิตร
สำหรับการป้องกันไม่ให้บ่อน้ำบาดาลเสียหายจากเหตุอุทกภัยนั้น กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งก่อนหน้านี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดจัดทำแผนป้องกันน้ำท่วม โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากอุทกภัยให้น้อยที่สุด และให้ครอบคลุมทั่วประเทศ กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจึงได้จัดทำโครงการป้องกันน้ำท่วมบ่อน้ำบาดาลโดยวิธีปิดปากบ่อน้ำบาดาลแบบถาวร จำนวน 12,000 บ่อ ทั่วประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำและสารปนเปื้อนจากการ เกิดอุทกภัยรั่วซึมเข้าไปในบ่อน้ำบาดาลได้อย่างถาวร ประชาชนสามารถใช้น้ำอุปโภคบริโภคได้อย่างปลอดภัยขณะเกิดอุทกภัย ช่วยลดการอุดตันของบ่อน้ำบาดาลเนื่องจากน้ำท่วม และประหยัดงบประมาณในการฟื้นฟูบ่อน้ำบาดาลหลังน้ำลดอีกด้วย
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวเพิ่มเติมว่า จากแนวคิดในการป้องกันน้ำท่วมบ่อน้ำบาดาลโดยวิธีปิดปากบ่อน้ำบาดาลแบบถาวรนี้เอง ทำให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลกำหนดเป็นมาตรฐานสำหรับบ่อน้ำบาดาลทุกบ่อที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เจาะขึ้นใหม่ตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน จะต้องมีการติดตั้งชุดปิดปากบ่อน้ำบาดาล เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังรั่วซึมเข้าไปในบ่อน้ำบาดาลอย่างถาวร อย่างไรก็ตาม หากมีการสำรวจพบบ่อน้ำบาดาลได้รับความเสียหายจากเหตุน้ำท่วม กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะเร่งดำเนินการฟื้นฟูแหล่งน้ำบาดาลหลังน้ำลดทันที เนื่องจากบ่อน้ำบาดาลที่จมอยู่ใต้น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน อาจจะมีตะกอนหรือเชื้อโรคที่ไหลซึมปะปนลงไปในบ่อน้ำบาดาล ทำให้ไม่สามารถนำน้ำไปใช้ในการอุปโภคบริโภคได้ หรือเกิดการเจ็บป่วย เพราะนำน้ำที่มีเชื้อโรคปะปนไปบริโภคด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ดังนั้น หลังจากระดับน้ำที่ท่วมในพื้นที่ลดลงแล้ว กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะส่งเจ้าหน้าที่ เข้าไปเป่าล้างทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค ในบ่อน้ำบาดาลทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำสะอาด
นอกจากนี้ หากพบว่าเครื่องมืออุปกรณ์ใดที่เกี่ยวข้องกับบ่อน้ำบาดาล อาทิ เครื่องสูบน้ำแบบไฟฟ้าชำรุด ระบบประปาเสียหาย กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะเร่งดำเนินการซ่อมแซมให้สามารถกลับมาใช้การได้โดยเร็ว หรือกรณีที่บ่อน้ำบาดาลได้รับความเสียหายมากจนไม่สามารถฟื้นฟูได้ ก็จะทำการอุดกลบบ่อน้ำบาดาล แล้วเจาะบ่อน้ำบาดาลใหม่ทดแทน -กภ-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit