“แมคฟิว่า” จับกระแสมือถือ ผนึกกำลัง “D2C อิงค์” ญี่ปุ่น รุกตลาดโมบายมาร์เก็ตติ้งในไทยและ SEA คาดสิ้นปีมีรายได้ทะลุ 100 ลบ.

06 Aug 2013

กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--พริสไพออริตี้

แมคฟิว่า” (MCFIVA) ผนึกกำลังกับ “D2C อิงค์” (D2C Inc.) โมบายมาร์เก็ตติ้ง อันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น เตรียมขยายธุรกิจโฆษณาโทรศัพท์มือถือในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มั่นใจในประสบการณ์และเทคโนโลยีระดับโลกที่ประสบความสำเร็จของ “D2C อิงค์” จะต่อยอดและสร้างรายได้ให้ “แมคฟิว่า” เป็นดิจิทัลเอเจนซี่ที่เชี่ยวชาญโมบายมาร์เก็ตติ้งเบอร์ 1 ในไทย หรือมีรายได้กว่า 100 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้

ดร.ศุภชัย ปาจริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมคฟิว่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้ เกิดขึ้นโดยเราเล็งเห็นว่าปัจจุบันโทรศัพท์มือถือได้กลายเป็นอุปกรณ์หลักที่ผู้บริโภคจะได้รับข้อมูลและติดต่อ รวมทั้งตลาดโทรศัพท์มือถือในประเทศไทยเติบโตขึ้นกว่า 120% มีคนใช้มือถือสมาร์ทโฟน รวมกว่า 20 ล้านเครื่อง โดยอัตราการถือครองมือถือสูงถึง 120% บางคนอาจจะถือมากกว่า 2-3 เครื่อง และมากกว่า 1 ใน 3 ที่เข้าถึงเว็บผ่านโทรศัพท์มือถือ รวมถึงจากผลการสำรวจของสมาคมโฆษณาดิจิตอลแห่งประเทศไทย (DAAT) พบว่าตลาดสื่อดิจิตอลมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงถึง 34.12% ในปี 2013 หรือ 3.73 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่เติบโตเพียง 2.78 พันล้านบาท และใน 3 - 4 ปีข้างหน้าน่าจะแตะหมื่นล้านบาท ซึ่งนับว่าตลาดสื่อดิจิตอลในประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็วและก้าวกระโดดอย่างเห็นได้ชัด นี่จึงเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าเวลานี้เป็นโอกาสที่ดีของแบรนด์ต่างๆ ที่จะเข้าถึงผู้บริโภค ประกอบกับในปีนี้มีการเปิดใช้ 3G อีก ดังนั้น จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามือถือนี้เป็นหนึ่งในเทรนด์ที่มาแรง และยังเป็นช่องทางหนึ่งที่นักการตลาดให้ความสำคัญและจับตามอง”

“และเพื่อต่อยอดธุรกิจ เราจึงได้ร่วมกับ D2C อิงค์ โมบายมาร์เก็ตติ้ง อันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านเทคโนโลยีมือถือ รวมทั้งมีบริษัทแม่ที่เข้มแข็ง เป็นพันธมิตรลงนามทำธุรกิจร่วมกัน โดย D2C อิงค์มีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทกว่า 49% โดยร่วมลงทุนกว่า 150 ล้านบาท เพื่อขยายตลาดที่เกี่ยวข้องกับโมบายในการสร้างการรับรู้ เพิ่มศักยภาพและเทคโนโลยี รวมถึงพัฒนาศักยภาพของบุคลากรแมคฟิว่าให้ก้าวหน้าและทัดเทียมพร้อมสู่ตลาด AEC ซึ่งเราจะบุกตลาดนี้ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า"

“จริงๆ ก่อนหน้านี้แมคฟิว่ามีการทำโมบายมาร์เก็ตติ้งอยู่แล้ว โดยมีลูกค้า อาทิเช่น โตโยต้า เอไอเอส เทสโก้โลตัส มี้ด จอห์นสัน เอไอเอ ไทยเบฟ ยูนิลีเวอร์ สายการบินแอร์ฟรานซ์/เคแอลเอ็ม เป็นต้น ซึ่งเราจะมีหน้าที่ดูแลกลยุทธ์ รวมถึงมีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นโมบายให้กับลูกค้าของเราด้วย และหลังจากการลงนามครั้งนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้น แน่นอนว่าเราจะมีความร่วมมือกันโดยเฉพาะด้าน Know-how กับ D2C อิงค์ ที่เกี่ยวข้องในด้านโมบายมาร์เก็ตติ้ง รวมถึงพัฒนากลยุทธ์และสื่อดิจิตอลแบบบูรณาการ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ในแบบ On the go ทุกที่ทุกเวลา รวมถึงเทคนิคในการโฆษณาผ่านมือถือที่ได้รับการพิสูจน์ในระดับโลกแล้วจากประเทศญี่ปุ่นมาใช้ในประเทศไทยมากขึ้น”

ด้าน มร.ทาคายูกิ โฮชูยามะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท D2C อิงค์ กล่าวว่า "จนถึงขณะนี้ D2C อิงค์ได้มีการขยายธุรกิจเข้าในภูมิภาคเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นจีน, ไต้หวัน, อินเดีย และอินโดนีเซีย ทั้งโดยการตั้งบริษัทลูกและการเป็นพันธมิตรกับบริษัทท้องถิ่น และการเป็นพันธมิตรกับแมคฟิว่าครั้งนี้ เราเชื่อมั่นในการดำเนินการด้วยความมุ่งมั่น ในการขยายตลาดและธุรกิจของแมคฟิว่า นอกจากนี้ เรามั่นใจว่า D2C อิงค์จะช่วยยกระดับช่องทางและการบริการให้ลูกค้าแมคฟิว่า ด้วยการทำโฆษณาโทรศัพท์มือถือในเมืองไทย และทำตลาดจากการให้ในส่วนของ Know-how และประสบการณ์ในตลาดญี่ปุ่น เพื่อที่จะเสริมสร้างความสำเร็จในการบุกตลาดดิจิตอล รวมทั้งโทรศัพท์มือถือในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงในระยะยาว"

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ที่ ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท พริสไพออริตี้ จำกัด โทร..0-2662-5477-8

-นท-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net