กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--ซีดีจี
กว่า 45 ปี ที่เรา “กลุ่มบริษัทซีดีจี” ผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร มุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อสังคมไทยมาโดยตลอด โดยเน้นสนับสนุนด้านการศึกษา ด้วยการแบ่งปันองค์ความรู้ไปพร้อมๆกับการดำเนินธุรกิจ ภายใต้โครงการ “The Wisdom of Sharing ” สร้างนิสัยใฝ่เรียนรู้ให้กับเยาวชนในถิ่นทุรกันดารผ่านกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่องจากอดีตจวบจนปัจจุบัน เพราะเราเชื่อว่า “การปูพื้นฐานด้านการศึกษาให้แก่เยาวชนไทยผู้ที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน”
จากนโยบายของภาครัฐที่ต้องการส่งเสริมให้คนไทยมีนิสัยรักการอ่าน โดยได้กำหนดให้การอ่านเป็นวาระแห่งชาติ วันที่ 2 เมษายน ของทุกปี เป็นวันรักการอ่าน และยังได้กำหนด ปี 2552 – 2556 เป็นทศวรรษแห่งการอ่านหนังสือ โดยสาเหตุเนื่องมาจากสถิติการอ่านหนังสือของคนไทยน้อยมาก
ผลของการผลักดันของกรุงเทพมหานคร จึงทำให้องค์การยูเนสโกได้แต่งตั้งให้กรุงเทพฯเป็น “เมืองแห่งหนังสือโลก” Bangkok World Book Capital 2013 อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2556 ที่ผ่านมา และได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านภายใต้แนวคิด “Read for life” โดยจะมีความหลากหลายของกิจกรรมที่บรรดาสมาชิก “ภาคีส่งเสริมการอ่าน” ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหนึ่งในนั้นคือ กิจกรรม “แบ่ง-ปัญ-ปัน-ญา” ที่กลุ่มบริษัทซีดีจี สมาชิกภาคีส่งเสริมการอ่าน จัดขึ้นสนับสนุนนโยบายภาครัฐบาล เพื่อมุ่งส่งเสริมพฤติกรรมรักการอ่าน ด้วยการแบ่งปันองค์ความรู้ให้แก่เด็กๆ ความโดดเด่นของกิจกรรมนี้คือ ความต่อเนื่องของโครงการ มีทีมงานลงพื้นที่ร่วมประชุมกับคุณครูในโรงเรียนเป็นระยะๆ เพื่อรับทราบถึงปัญหา นำมาวิเคราะห์ และปรับกิจกรรมของโครงการให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละโรงเรียนอย่างแท้จริง
โรงเรียนวัดคลองภูมิ โรงเรียนต้นแบบแห่งแรก กับกิจกรรมแบ่ง-ปัญ-ปัน-ญา การทำกิจกรรมที่โรงเรียนแห่งนี้ เริ่มจาก
ล่าสุด แบ่ง-ปัญ-ปัน-ญา สานต่อกิจกรรมกับโรงเรียนแห่งที่ 3 คือ โรงเรียนวัดปริวาศ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา โรงเรียนแห่งนี้มีปัญหาไม่ต่างจากโรงเรียนวัดคลองภูมิคือ ปริมาณหนังสือส่งเสริมปัญญาน้อยมาก หนังสือที่มีส่วนมากเป็นหนังสือสำหรับผู้ใหญ่ และนิตยสาร ห้องสมุดคับแคบ บรรยากาศไม่เอื้อต่อการสร้างพฤติกรรมการอ่าน อีกทั้งระบบยืมและคืนยังเป็นระบบดั้งเดิมซึ่งทำให้การทำงานล่าช้า ไม่สามารถเก็บ และอัพเดตข้อมูลใหม่ๆได้ จากข้อมูลดังกล่าวจึงจุดประกายให้ทีมงานสานฝัน จัดหาหนังสือส่งเสริมปัญญาที่เหมาะสมกับการเสริมสร้างทักษะและพฤติกรรมการอ่านไปมอบให้ และเสริมสร้างนิสัยรักการอ่าน ด้วยการจัดกิจกรรมในรูปแบบที่สอดคล้องกับกระแส AEC นำอาชีพในฝันภาคภาษาอังกฤษมาเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นให้น้องๆ เกิดความสนใจในการอ่าน โดยจัดให้มีผู้เชี่ยวชาญด้านภาษามาสอนการอ่านออกเสียงที่ถูกต้อง พร้อมกับวาดรูปอาชีพที่ตนเองต้องการอยากจะเป็นในอนาคต และให้คำสัญญากับพี่ทีมงานว่าจะอ่านหนังสือให้ได้ 15 เล่มภายในระยะเวลา 3 เดือน ด้วยบัตรสะสมรักการอ่าน ซึ่งเป็นการตอกย้ำและสนับสนุนนโยบายของกรุงเทพมหานคร
“เรา กลุ่มบริษัทซีดีจี พร้อมเดินหน้าเป็นฟันเฟืองหนึ่ง ร่วมผลักดันให้เด็กไทยหันมาสนใจอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นอย่างน้อยปีละ 10 - 15 เล่ม/คน/ปี โดยปัจจุบันมีนักเรียนที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้กว่า 1,500 คน แสดงถึงเจตจำนงในการขับเคลื่อนและส่งเสริมการอ่านอย่างจริงจัง เพื่อสร้างรากฐานวัฒนธรรมการอ่านในสังคมไทยให้เข้มแข็งและยั่งยืนสืบไป” คุณ นาถ ลิ่วเจริญ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทซีดีจีและกลุ่มบริษัทจีเอเบิล กล่าว
-กผ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit