กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--พีอาร์พีเดีย
Thaitrade.com ชูออนไลน์มาร์เก็ต หนุน HEMPTHAI ขยายฐานตลาดกลุ่มสินค้าวัฒนธรรมไทยและผลิตภัณฑ์ภายใต้แนวคิด ecosystem
HEMPTHAI ชวนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยร่วมเป็นสมาชิก Thaitrade.com ชี้เป็นช่องทางโปรโมท สื่อสารกับลูกค้าผ่านออนไลน์ มาร์เก็ต หวังเร่งขยายฐานลูกค้า พร้อมชูสินค้าวัฒนธรรมไทยจากวัสดุธรรมชาติ HEMP สร้างงานสู่ท้องถิ่น
ดวงฤทัย ภูมิพิเชฐ ผู้จัดการฝ่ายผลิต บริษัท ดีดี เนเจอร์ คราฟท์ จำกัด ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จากเส้นใย กัญชงหรือเฮมพ์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจโดยมีจุดมุ่งหมายในการสนับสนุนสินค้าหัตถกรรมที่ทำจากธรรมชาติภายในประเทศโดยเฉพาะด้านผ้าและเส้นใยธรรมชาติ ปัจจุบันมีการพัฒนาเส้นใยกัญชงซึ่งเป็นเส้นใยที่มีความแข็งแรงและทนทานที่สุด
“สำหรับปัจจัยทางด้านช่องทางในการสื่อสารถือเป็นเครื่องมือสำคัญให้ลูกค้ารู้จัก HEMPTHAI มากขึ้น โดยบริษัทฯ ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกกับทาง Thaitrade.com ถือเป็นช่องทางให้กับบริษัทฯ ในการสื่อสารไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น และส่งผลให้บริษัทฯ มีความน่าเชื่อถือเพราะมีหน่วยงานรัฐรับรอง อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ทางด้านออนไลน์มาร์เก็ตเป็นเครื่องมือช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กสามารถประชาสัมพันธ์ สื่อสารกับลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศได้เพิ่มมากขึ้น และยังมีการจัดหมวดหมู่สินค้าเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าไปเลือกชม พร้อมยังใช้โซเชียลมีเดียไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ อินสตาร์แกรม ในการโปรโมท อัพเดทข่าวสารอีกด้วย”
“นอกจากนี้ยังทราบข่าวมาว่าทาง Thaitrade.com ยังเตรียมพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อรองรับการใช้งานบนสมาร์ทดีไวซ์ ซึ่งเห็นว่าหากดำเนินการเรียบร้อยจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ประกอบการ เพราะจะเห็นได้ว่าปัจจุบันสมาร์ทดีไวซ์ อาทิ ไอโฟน ไอเพด แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน ต่างเป็นส่วนอีกในการดำเนินชีวิตของคนยุคใหม่ และยังทำให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายมากขึ้นผ่านสมาร์ทโฟน พร้อมกันนี้ขอเชิญชวนผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีเข้าร่วมเป็นสมาชิก Thaitrade.com ซึ่งจะเป็นช่องทางในการขยายฐานลูกค้าใหม่ต่อไป เนื่องจากเป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการรับรองและสนับสนุนจากภาครัฐบาลสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้ามากขึ้น” ดวงฤทัย กล่าวต่อ
กลุ่มผลิตภัณฑ์ HEMPTHAI อาทิ กระเป๋า รองเท้า ผ้าพันคอ เสื้อยืดและกลุ่มเคหะสิ่งทอ เช่น ผ้าม่าน ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งจุดเด่นของสินค้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากวัตถุดิบจากธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งในต่างประเทศมีความนิยมและต้องการสูงมากกว่าหากเทียบกับตลาดในประเทศไทย ตั้งแต่เริ่มต้นสินค้าที่ผลิตส่งออกจำหน่ายต่างประเทศถึง 95% ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มประเทศในยุโรป เยอรมัน เดนมาร์ก อเมริกา และญี่ปุ่น ปัจจุบันกลุ่มคนไทยเริ่มหันมาใช้สินค้าที่ทำจากวัสดุจากธรรมชาติมากขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาทำให้สัดส่วนการขายในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากเดิมมีอยู่ 5% ขณะนี้มีสัดส่วนประมาณ 20% ดังนั้นส่งผลให้ยอดขายในประเทศมีสัดส่วนเป็น 20% และส่งออกต่างประเทศ 80% ของยอดขายทั้งหมด
“สินค้าของร้านจะเน้นแนวคิดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และพยายามรักษาวิถีชีวิตของชาวบ้านท้องถิ่น (ชาวม้ง) ในการใช้ลายจักสานของชาวม้งเป็นลายหลักของสินค้าแบรนด์ HEMPTHAI และยังช่วยส่งเสริมอาชีพให้แก่ชาวบ้านในการดูแลไร่กัญชงอีกด้วย ซึ่งสินค้าหลักของเราส่วนใหญ่จะเป็นกระเป๋า รองเท้า และเสื้อ แต่ละอย่างจะมีดีไซน์การถักทอที่ต่างกัน พัฒนาตามสะดวกสบายของผู้ใช้ แต่ก็ยังเน้นเรื่องสิ่งแวดล้อมอยู่”
“สินค้าทุกชิ้นจะถูกเย็บเป็นแบบ Zero Waste Concept คือพยายามเย็บให้มีตะเข็บน้อยที่สุด และลดการตัดทิ้งของเศษผ้า พร้อมกันนี้ทางบริษัทฯ พัฒนาการใช้งานของต้นกัญชงที่เดิมจะใช้แค่เส้นใยนำเอามาทำผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบอื่นก็ถูกเผาทิ้งเสียเปล่า ซึ่งได้นำยางและเปลือกของต้นกัญชงได้ถูกสกัดเอาส่วนผสมมารวมกับยางพารา เพื่อลดการใช้ยางพาราและลดการทิ้งวัตถุดิบ ทั้งนี้ทุกผลิตภัณฑ์ของ HEMPTHAI ตั้งอยู่ภายใต้แนวคิดการลดโลกร้อน และการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติให้เกิดประโยชน์ได้มากที่สุด ซึ่งก็เป็นช่องทางในการรณรงค์ให้คนไทยใส่ใจเรื่องนี้กันมากขึ้น สามารถเข้าชมข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.hempthai.com” ดวงฤทัย กล่าว
สำหรับผู้ส่งออกไทยที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯสามารถสมัครได้หลายช่องทาง อาทิ การสมัครผ่านทางเว็บไซต์ www.thaitrade.com, [email protected] และเฟสบุ๊ค www.facebook.com/ThaitradeDotCom หรือ สมัครด้วยตนเองที่บูธ Thaitrade.com ภายในงานแสดงสินค้าต่างๆ ที่กรมฯ จัดขึ้น โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการสมัครเข้าร่วมโครงการใดๆ ทั้งสิ้น หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ DITP Call Center 1169 โทรสาร 02 547 5683-4
-กผ-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit