ครม.เศรษฐกิจมีมติยืนตาม กนย.ใช้งบกลาง 5,628 ล้าน หนุนปัจจัยการผลิตเกษตรผู้ปลูกยางรายละไม่เกิน 10 ไร่ เกษตรฯ ยันไม่รับซื้อยางบิดเบือนกลไกตลาด

29 Aug 2013

กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์

นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ โดยมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง โดยมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) เสนอเพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่เกษตรกรในระยะเร่งด่วน ได้แก่ มาตรการที่ 1.อนุมัติงบกลางกรณีฉุกเฉินวงเงิน 5,628 ล้านบาทเศษ เพื่อเป็นค่าปุ๋ยโดยโอนผ่านบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้แก่เกษตรกรโดยตรง โดยเกษตรกรผู้ปลูกยางที่มีพื้นที่สวนยางน้อยกว่า 10 ไร่ จะได้รับการสนับสนุนค่าปุ๋ย 1,250 บาทต่อไร่ ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนเกษตรกรที่ทำการเปิดกรีดยางแล้วจำนวน 9.8 แสนราย หรือ 80 % ของผู้ปลูกยางทั้งประเทศ ทั้งนี้ หากวงเงินไม่เพียงพอก็ให้มีการเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้มอบหมายให้ กนย.ติดตามสถานการณ์ปริมาณยางที่เหลือในครึ่งปีหลังเพื่อกำหนดมาตรการรองรับแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

มาตรการที่ 2.สนับสนุนให้กลุ่มสหกรณ์แปรรูปยางแผ่นดิบเป็นผลิตภัณฑ์ยางที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นโดยกลุ่มสหกรณ์ฯ จะกู้เงินจาก ธ.ก.ส.ในอัตราดอกเบี้ยต่ำหรือปลอดดอกเบี้ย เพื่อนำไปสร้างโรงงานแปรรูปยาง ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนด้วยการชดเชยอัตราดอกเบี้ยในกรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท มาตรการที่ 3.สนับสนุนเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำหรือปลอดดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการโรงงานผลิตภัณฑ์ยางขนาดใหญ่ทั้งยางแท่งและยางแผ่น ที่กู้เงินจากสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อเสริมสภาพคล่องและปรับปรุงเครื่องจักรโดยรัฐบาลจะชดเชยส่วนต่างดอกเบี้ยหรือดอกเบี้ยวงเงิน 15,000 หมื่นล้านบาท

“กระทรวงเกษตรฯ ได้การกำหนดนโยบายให้มีการโค่นต้นยางแก่อายุ 25 ปีขึ้นไป ที่ทำให้ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปริมาณน้ำยางที่กรีดได้ ซึ่งมีประมาณ 1 ล้านไร่ทั่วประเทศ เพื่อปรับเปลี่ยนมาปลูกพืชอื่นทดแทนก็จะช่วยลดปริมาณการผลิตยางในประเทศได้อีกทางหนึ่ง โดยมาตรการดังกล่าวได้มอบหมายให้ สกย.เร่งสำรวจและดำเนินการทันที ดังนั้น กระทรวงเกษตรฯ ยังคงต้องยืนยันว่าราคายางพาราต้องเป็นไปตามกลไกตลาด ไม่ควรที่จะเข้าไปแทรกแซงราคาซึ่งจะบิดเบือนตลาดและทำให้ราคายางไม่มีเสถียรภาพในระยะยาว และยังยืนยันที่จะใช้มาตรการตามที่ กยน.อนุมัติไว้ก่อน ซึ่งการช่วยเหลือในเรื่องค่าปุ๋ยที่จะโอนเงินสดเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงโดยไม่ผ่านตัวกลางซึ่งเป็นผู้รวบรวมยาง ก็น่าจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางในขณะนี้ได้” นายยุคล กล่าว

-กผ-