ตะลุยดอยอ่างขาง เปิดกอง“TIMELINEจดหมาย-ความทรงจำ” “เจมส์จิรายุ,เต้ยจรินทร์พร,ป๊อกปิยธิดา” 3นักแสดงเข้าฉาก “ต้นบ๊วยในตำนาน”

30 Aug 2013

กรุงเทพฯ--30 ส.ค.--สหมงคลฟิล์ม

เป็นโปรเจ็คต์หนังรักที่หลายๆคนเฝ้าจับตาและรอคอยมากที่สุดแห่งปี สำหรับ“TIMELINEจดหมาย-ความทรงจำ”ที่ผกก.อุ๋ย นนทรีย์นิมิบุตรทุ่มหมดหัวใจกำกับและหมายมั่นปั่นมือมากๆ แถมงานนี้ได้หนุ่มฮอตที่สุด ณ พ.ศ.นี้อย่าง เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข มาประกบคู่กับสาวเต้ย จรินทร์พรจุนเกียรติ พร้อมนางเอกสาวมากฝีมืออย่างป๊อก ปิยธิดามิตรธีรโรจน์ 3นักแสดงหลักมาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวความรักที่แสนกินใจ และเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศความเป็นหนังรักโรแมนติค โลเกชั่นที่สวยที่สุดของดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ท่ามกลางแมกไม้และขุนเขาที่งดงามในช่วงหน้าฝนงานนี้ “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” และ “ซีเนมาเซีย” เลยไม่รอช้าบินสู่เชียงใหม่ พร้อมการเดินทางผ่านหลายร้อยโค้งอันสลับซับซ้อน เพื่อเยี่ยมชมการถ่ายทำใน 2 ฉากสำคัญที่มีไฮไลท์อยู่ที่ “ต้นบ๊วยในตำนาน” ซึ่งเรียกได้ว่าแทบจะเป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่มีความหมายและมีคุณค่าทางจิตใจของทั้ง 3ตัวละคร ถึงแม้ว่าตลอดเช้าสายบ่ายเย็นจะต้องเผชิญกับอุปสรรคที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นคือฝนที่ตกพรั่งพรูมาตั้งแต่เช้ามืด และตกต่อเนื่องตลอดทั้งวัน งานนี้ผู้กำกับ “อุ๋ยนนทรีย์ นิมิบุตร” เลยพลิกวิกฤติให้กลายเป็นโอกาสงามๆใส่เข้าไปในหนังรักซะเลย

“จริงๆแล้วเราไม่ได้หนีฝนนะ เราก็ทำไปตามบรรยากาศ เพราะเรารู้ตั้งแต่ต้น วางแผนตั้งแต่แรกแล้วว่าเราจะถ่ายหนังกันหน้าฝน เพราะฉะนั้นบรรยากาศฝนๆ ผมว่ามันก็ให้บรรยากาศอีกรูปแบบหนึ่ง ไม่ใช่ร้อน หรือว่าไม่ใช่หนาวแบบที่ส่วนใหญ่เขานิยมทำหนังรักกัน ต้องดูหนาวๆหน่อย เสื้อผ้าแบบหนาวๆมากๆ อันนี้ผมเรียกว่ามันเป็นความเย็นสบาย เป็นความฉ่ำชื่นอยู่ในหัวใจของเรามั้ง มันเลยทำให้การทำงานค่อนข้างอินไปกับเรื่องนี้ ก็อย่างอยู่ที่บ้านก็ฝนตกเราก็โอเคฝนตกเลยไม่ต้องหนีไม่ต้องหลบไม่ต้องอะไรก็ถ่ายไปทั้งฝนตกนี่แหละ” ในขณะที่ทั้งนักแสดงสาวอย่าง “ป๊อก ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์” เองที่งานนี้นอกจากจะต้องรับบทบาทเป็นซิงเกิ้ลมัมที่ยังสาว และสวยมีลูกชายสุดหล่ออย่างเจมส์ จิรายุเองที่ต้องเข้าฉากส่วนใหญ่ในเชียงใหม่ได้เล่าให้ฟังถึงประสบการณ์การทำงานและยอมรับว่าทุกองค์ประกอบล้วนลงตัวและส่งผลต่อการทำงานในหนังรักเรื่องนี้

“ก็จริงๆก็มีสั่นบ้างเพราะว่ามันเป็นบรรยากาศที่คนเห็นว่าเป็นเชียงใหม่อะไรแบบนี้คนก็จะรู้สึกว่ามันหนาว เพราะตอนแรกเราก็ยังกังวล และยังถามพี่อุ๋ยเลยว่า พี่อุ๋ยขึ้นมาสิงหาจะหนาวเหรอ จะสวยหรอ อะไรแบบนี้ ทีนี้เห็นแล้วว่าหนาวจริง สวยจริงและนี่เป็นครั้งแรกด้วยที่ได้มีโอกาสมาที่ดอยอ่างขางหลายๆอย่างไม่ว่าจะด้วยการแสดงของน้องๆแต่ละคน บรรยากาศทีมงานหรือบรรยากาศโลเคชั่นต่างๆเนี่ยมันทำให้เราซึมซับและเข้าถึงความรู้สึกได้ง่าย สมมติว่าถ้าถ่ายกทม. เราคงต้องทำสมาธิกันเยอะ แต่อันนี้คือมันพร้อมสำหรับเราอยู่แล้วก็เลยรู้สึกว่าดีจังเลยบรรยากาศมันให้หมดเลย”

ในขณะที่“เต้ยจรินทร์พร จุนเกียรติ”ซึ่งรับบทเป็น “จูน” อีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่ได้มีโอกาสรับรู้เรื่องราวความรักที่แสนกินใจของจดหมาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งความผูกผันที่แสนลึกซึ้งของต้นบ๊วยในความทรงจำจากตัวละคร ซึ่งเป็นเจ้าของเรื่องราวที่ส่งต่อมา “สำหรับการมาอ่างขางครั้งนี้ เต้ยว่ามันคุ้มมากค่ะ ภาพที่ได้ออกมาก็ดีมากๆ ถึงแม้ว่าจะต้องกินยาดักไม่ให้เมารถกันไว้ก่อน เพราะเต้ยเองยังไม่เคยมาที่อ่างขางเลยคะ แต่ก็โชคดีนะคะ ที่ฝนตกแล้วก็หนาวด้วย เพราะว่ามีหมอกลง ไปดูในมอนิเตอร์สวยมากค่ะ แล้วในฉากนี้มันเหมือนกับว่าจูนเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยของแทนได้มีโอกาสเดินทางมาที่บ้านของแทนที่จ.เชียงใหม่ การมาครั้งนี้นอกจากจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยสุดๆแล้ว ตัวจูนเองได้พบเห็นอีกแง่มุมในชีวิตของ “แทน” (เจมส์) กับ “แม่มัท” (ป๊อกปิยธิดา) ซึ่งทำให้ได้มีโอกาสรับรู้ถึงที่มาที่ไปของ “ต้นบ๊วยแห่งความทรงจำ” และได้ซึมซับกับเรื่องราวและความผูกผันของ “จดหมายรัก” ที่มีความหมายกับแม่ลูกคู่นี้ซึ่งการเดินทางมาที่แห่งนี้ทำให้จูน ได้รับการส่งผ่านความรู้สึกจากตัวคุณแม่โดย “ต้นบ๊วย”ซึ่งในภาพยนตร์เป็นเหมือนแกนกลางของความรู้สึกคล้ายๆจดหมายด้วย เพียงแต่ต้นไม้ เราจะได้เห็น มันโตขึ้น อยากให้ทุกคนได้ดูรับรองว่าอิ่มแน่นอน ได้ทุกอารมณ์จริงๆ คะ มีทั้งสุข เศร้า เหงา ซึ้ง มีทุกอย่าง เต้ยว่า..มันเป็นเรื่องใกล้ตัวของเรามากๆ คะ อย่างในซีนที่ถ่ายทำกันวันนี้ ”

และแน่นอนว่าบทหนักสำหรับการถ่ายทำในครั้งนี้ตกอยู่ที่หนุ่ม“เจมส์จิรายุ ตั้งศรีสุข” พระเอกของเราที่ต้องมีการเข้าฉากปั่นจักรยานไปในหุบเขาตั้งแต่เช้า ถึงกับเกิดอาการปวดน่องกันเลยทีเดียว ยังไม่พอเพราะในช่วงเย็นหลังจากที่รอจนฝนพรำก็ถึงเวลาที่หนุ่มเจมส์จะต้องปั่นจักรยานท่ามกลางต้นบ๊วยโดยมีคุณแม่ยังสวยอย่างป๊อกปิยธิดาซ้อนท้าย ซึ่งในฉากนี้ผกก.อุ๋ยนนทรีย์ตั้งใจสะท้อนให้เห็นถึงความผูกผันของแม่ลูกกับต้นบ๊วยที่เป็นตัวแทนของความรักที่เชื่อมโยงในกันและกันแต่ถึงแม้ว่าจะต้องเผชิญกับอุปสรรคของฝนที่ชะจนหน้าดินเละและทำให้หนุ่มเจมส์ต้องปั่นยากขึ้นแต่พระเอกของเราก็ไม่ท้อแต่อย่างใดพร้อมเทคและปั่นใหม่อย่างทันทีหลังจากลุ้นกับฝนที่ตกอย่างใจหายใจคว่ำ

“สุดท้ายนี่นะครับผมก็ได้ผ่านการถ่ายทำฉากต้นบ๊วยในตำนานที่เขาร่ำลือกันมาไปเป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่ตอนที่ผมเริ่มถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้แรกๆเลย ก็ถ้าอยากรู้ว่าเป็นอย่างไรก็ต้องติดตามชมกันนะครับเป็นอีกหนึ่งฉากน่ารักๆที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักความผูกผันระหว่างแม่มัทกับ แทนลูกชาย ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแค่ไหนอย่างไร ทั้งคู่ต่างเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของการกันและกันตลอด ซึ่งผมเองก็จะต้องมีปั่นจักรยานกับแม่ป๊อกท่ามกลางต้นบ๊วยสุดลูกหูลูกตา ถามว่าคุ้มค่าขนาดไหนกับการขึ้นมาถ่ายถึงดอยอ่างขาง ต้องบอกครับว่าสวยมากครับ ถึงแม้ว่าฝนจะตกตั้งแต่6โมงเช้า แล้วก็ไม่มีทีท่าจะหยุดตกเลยครับ แต่เราก็ถ่ายทำไปท่ามกลางฝนตกนี่แหละครับ สนุกดีครับ แต่ผมก็มั่นใจครับว่าภาพทุกภาพที่ปรากฎออกมาในหนังที่พี่อุ๋ยกำกับเรื่องนี้จะต้องออกมาสวยอย่างแน่นอนครับโดยเฉพาะฉากต้นบ๊วยในตำนานนี่ครับ”

อดใจรอกันอีกนิดสำหรับหลายๆคนที่เคยประทับใจกับ “เดอะเลตเตอร์จดหมายรัก” อีกไม่นานเกินรอ เพราะแว่วมาว่าแฟนๆอาจได้ชมกับช่วงหน้าหนาวกันอย่างแน่นอนกับ “TIMELINEจดหมาย-ความทรงจำ”

-กผ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net