กรุงเทพฯ--6 ก.ย.--ไอแอมพีอาร์
นักศิลปะบำบัด โรงพยาบาลมนารมย์ ชวนพ่อแม่ยุคใหม่จูงมือลูกน้อยใช้ชีวิตกลางแจ้ง เพื่อสัมผัสแสงสีในธรรมชาติ พัฒนากระบวนการสร้างประสาทสัมผัสที่มีประสิทธิภาพ ปูทางสร้างความสมดุลให้จิตใจ จุดเริ่มต้นสู่การเติบโตอย่างมีคุณภาพทั้งกายและใจ
นายอนุพันธุ์ พฤกษ์พันธ์ขจี นักศิลปะบำบัด โรงพยาบาลมนารมย์ โรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางด้านสุขภาพจิต เปิดเผยว่า “Sense” หรือ “ประสาทสัมผัส” เป็นพัฒนาการอย่างหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเด็ก เพราะประสาทสัมผัสคือการแสวงหาความรู้จริงให้ตนเองอย่างปราศจากความนึกคิด โดยเด็กในวัย 0 – 7 ปี เป็นช่วงที่ “ประสาทสัมผัสล่าง” หรือ “ประสาทสัมผัสในชุดแรก” กำลังพัฒนา ประกอบด้วย ประสาทสัมผัสสมดุล ประสาทสัมผัสของชีวิต ประสาทสัมผัสแห่งสัมผัส และประสาทสัมผัสการเคลื่อนไหว หากประสาทสัมผัสในช่วงวัยนี้ได้รับการพัฒนาผ่านกระบวนการที่เหมาะสม ก็จะส่งเสริมให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพทั้งกายและใจ
“ประสาทสัมผัสเป็นพัฒนาการที่เป็นนามธรรม มองไม่เห็นด้วยตาแต่รู้สึกถึงได้ เช่น ประสาทสัมผัสแห่งสัมผัส จะเกิดขึ้นเมื่อเด็กถูกพ่อแม่กอด เด็กจะรับรู้ถึงความอบอุ่นที่แท้จริง เกิดความไว้วางใจในตัวพ่อแม่ซึ่งเป็นผลจากสัมผัสที่ได้รับขณะถูกกอด ช่วยให้เด็กจะเติบโตไปด้วยจิตใจที่มั่นคง นอกจากนี้สภาพแวดล้อมรอบตัวเด็กก็มีส่วนสำคัญต่อพัฒนาการด้านประสาทสัมผัสเช่นกัน โดยเด็กที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติได้สัมผัสกับธรรมชาติที่อยู่รอบตัวทั้ง ดิน น้ำ อากาศ และแสงแดด จะได้รับสีและแสงที่มีความนุ่มนวล ซึ่งจะช่วยให้เด็กมีสมาธิ มีอารมณ์ที่สงบ รู้จักการรอคอย และจิตใจนุ่มนวล แตกต่างจากเด็กที่อยู่ในสถานที่อึกทึกครึมโครมที่มักจะมีพฤติกรรมซุกซน ไม่อยู่นิ่ง ตื่นตัวตลอดเวลา และมีอารมณ์ไม่สงบ เป็นต้น ซึ่งพัฒนาการของเด็กไม่ว่าจะเป็นด้านใดหากมีจุดเริ่มต้นที่ดี ก็จะส่งผลให้พัฒนาการในลำดับต่อไปมีคุณภาพ” นายอนุพันธ์อธิบาย
นักศิลปะบำบัดจากโรงพยาบาลมนารมย์ได้แนะนำเพิ่มเติมว่า “การระบายสี” เป็นอีกหนึ่งกิจกรรม ที่จะช่วยสร้างความสมดุลให้แก่เด็กได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพราะสีมีอิทธิพลต่อความรู้สึก เช่น สีเหลืองให้ความรู้สึกร่าเริง สีส้มให้ความรู้สึกอุ่น และสีน้ำเงินให้ความรู้สึกเงียบ เป็นต้น โดยสีน้ำเป็นสีที่เหมาะสำหรับเด็กเล็ก เพราะเมื่อใช้สีน้ำกับกระดาษเปียก สีจะซึมซับเข้าหากัน ให้ความรู้สึกเคลื่อนไหว โดยผู้ปกครองควรชักชวนให้เด็กระบายสีไปบนกระดาษ พร้อมเลือกใช้สีที่ไม่จ้าและเข้มเกินไป ซึ่งอาจใช้การเล่านิทานประกอบเป็นเครื่องมือชักชวนให้เด็กเกิดการสร้างจินตนาการ แล้วระบายสีไปตามที่คิด แต้ไม่ควรให้เด็กลงสีไปตามเส้นกรอบที่เป็นรูปร่างเพราะเป็นการส่งเสริมให้เด็กใช่ความคิดเร็วเกินไป
“ธรรมชาติและศิลปะ เป็นเครื่องมือทรงประสิทธิภาพที่สามารถกระตุ้นและสร้างเสริมพัฒนาการด้านประสาทสัมผัสให้เด็กได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยสร้างความสมดุลให้แก่ชีวิต ซึ่งนำไปสู่ความสุขที่เกิดจะขึ้นจากภายใน ที่สำคัญธรรมชาติและศิลปะไม่ต้องเสียเงินไปแสวงหา แต่สามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้ในรอบรั้วบ้านของคุณเอง” นายอนุพันธุ์กล่าวสรุป
-กผ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit