นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า “การจัดงาน ITU Telecom World 2013 ในครั้งนี้นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของ ทีเส็บ โดยการนำของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และการร่วมสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติที่สามารถดึงงานระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทยเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ยังมีความสำคัญมากกับเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากอุตสาหกรรมไอซีทีมีอัตราการเติบโตสูงในภูมิภาคอาเซียนและเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคม เมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 ความต้องการบริการด้านไอซีทีในตลาดจะเพิ่มมากขึ้นตามการพัฒนาของภูมิภาค จึงคาดว่าจะมีผู้แทนภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไอซีทีของอาเซียนและทั่วโลกเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง”
ภายใต้กลยุทธ์การส่งเสริมธุรกิจไมซ์ขององค์กรทั้ง ด้าน การดึงงาน (WIN) การประชาสัมพันธ์ (PROMOTE) และการพัฒนา (DEVELOP) ทีเส็บได้ให้การสนับสนุนการจัดงานระดับนานาชาติ ทั้งการสนับสนุนด้านงบประมาณ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและการประชาสัมพันธ์ สำหรับการจัดงาน ITU Telecom World 2013 ครั้งนี้ ทีเส็บให้การสนับสนุนในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1) ด้านการประชาสัมพันธ์การจัดงานทั้งในและต่างประเทศ 2) ด้านบัตรโดยสารสายการบินสำหรับผู้บริหาร ITU และผู้ปฏิบัติงาน และ 3) การจัดเลี้ยงรับรอง รวมทั้ง ได้จัดให้มีคูหาของทีเส็บภายใน Thailand Pavilion เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย และแสดงให้ผู้ที่มาร่วมงานได้เห็นถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นเวทีการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติระดับโลก อย่าง ITU Telecom World 2013
อนึ่ง การสนับสนุนการดึงงานระดับโลกอย่าง ITU Telecom World 2013 นั้น ยังสอดคล้องกับพันธกิจของ ทีเส็บซึ่งได้วางแผนยุทธศาสตร์การดำเนินงานในอีก 3 ปีข้างหน้าขององค์กร โดยกำหนดให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่หลากหลาย (Destination) เป็นศูนย์กลางการดำเนินธุรกิจ (Business) และมีบุคลากรและบริการที่ได้มาตรฐาน (People) ภายใต้แนวคิด “Thailand CONNECT: Your Global Business Events Connection หรือ “ประเทศไทยเชื่อมโยงธุรกิจระดับโลกเพื่อความสำเร็จในการจัดประชุมและงานแสดงสินค้า
ทั้งนี้ ทีเส็บ คาดการณ์การจัดงาน ITU Telecom World พร้อมด้วย Connect Asia-Pacific Summit จะมีผู้บริหารและตัวแทนกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกประมาณ 20,000 คนเข้าร่วมงาน และมีการใช้จ่ายในประเทศประมาณ 2,600 ล้านบาท ขณะเดียวกันก็เกิดการสร้างงานในประเทศ เช่น การจ้างผู้จัดบูธ บริการขนส่ง บริการด้านความปลอดภัยและอื่น ๆ เป็นมูลค่าอีกประมาณ 400 ล้านบาท รวมเป็นเม็ดเงินประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยรายได้จากงานนี้ จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจไมซ์หรือการประชุมและแสดงสินค้านานาชาติในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี พ.ศ. 2557 ธุรกิจไมซ์จะมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 96,000 ล้านบาท และมีนักเดินทางกลุ่มไมซ์เข้ามาประมาณ 987,000 คน
อีกหนึ่งไฮไลต์ของงานไมซ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยร่วมกับการจัดงาน ITU Telecom World 2013 ได้แก่ การประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียและแปซิฟิกของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (Connect Asia-Pacific Summit 2013) โดยมีผู้นำภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และผู้นำอุตสาหกรรมไอซีทีจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และทั่วโลก มาร่วมแสดงวิสัยทัศน์ Asia-Pacific 2020: Smartly Digital หรือทิศทางในการพัฒนาอุตสาหรรมไอทีในอนาคตของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกในปี 2563
ทั้งนี้ ภายในงาน ITU Telecom World 2013 ยังกำหนดให้มีการจัดไทยแลนด์ พาวิลเลียน (Thailand Pavilion) ภายใต้แนวคิด “บริบทประเทศไทยในยุคดิจิตอล” โดยมีจุดเด่นที่รอยัลพาวิลเลียน ซึ่งนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการพัฒนาประเทศและประชาชน โดยการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมมาพัฒนาวิถีภูมิปัญญาเดิมเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและพัฒนาอย่างยั่งยืน โครงการในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และทีเส็บพาวิลเลียน เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย และแสดงให้ผู้ที่มาร่วมงานได้เห็นถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นเวทีการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติระดับโลก อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงบทบาทของทีเส็บในการส่งเสริมและเชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจผ่านอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย“ประเทศไทยกับ ITU มีการดำเนินงานร่วมกันกับตั้งแต่การสนับสนุนงาน ITU Telecom Asia 2008 ทั้งนี้การได้รับความไว้วางใจจากสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ ITU ให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน Connect Asia-Pacific Summit และ ITU TELECOM WORLD 2013 อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมไมซ์ไทย รวมถึงความพร้อมของระบบโครงสร้างพื้นฐาน ขณะเดียวกันกรุงเทพมหานครยังเป็นเมืองเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ติดอันดับโลก ตลอดจนมีความพร้อมทั้งในด้านสถานที่จัดประชุม การเดินทาง ขนส่ง และการบริการมาตรฐานโลก” นายนพรัตน์กล่าวเสริม
จากรายงานฉบับล่าสุดของ The Trade Fair Industry of Asia 9th Edition, 2013 ซึ่งจัดทำขึ้นโดยสมาคมอุตสาหกรรมนิทรรศการระดับโลก (UFI) แสดงให้เห็นว่าในปี พ.ศ. 2555 ประเทศไทยมีจำนวนพื้นที่การจัดงานแสดงสินค้าและสร้างสถิติรายได้ที่สูงสุดในภูมิภาคอาเซียน คิดเป็นมูลค่า 147 ล้านเหรียญสหรัฐ และจัดอยู่ในอันดับ 8 ของทวีปเอเซีย ทั้งนี้ประเทศไทยมีจำนวนการจัดงานแสดงสินค้ารวม 83 งาน คิดเป็นขนาดพื้นที่จัดงานรวมรวม 464,250 ตารางเมตร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
ส่วนงานประชาสัมพันธ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
นางสาวอริสรา ธนูแผลง โทรศัพท์ 02-694-6095 อีเมล [email protected]
นายพิษณุ พลายแก้ว โทรศัพท์ 02-694-6000 อีเมล [email protected]
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit