การประชุมเสวนาระดับนานาชาติว่าด้วยหลักนิติธรรม “The Bangkok Dialogue on the Rule of Law”ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมสยามเคมปินสกี้ที่ผ่านมา ได้สร้างมาตรฐานสำคัญ ในการมุ่งไปสู่การหารือระหว่างประเทศของค์การสหประชาชาติและรัฐสมาชิกต่างๆ เพื่อยกร่างระเบียบวาระการพัฒนาของสหประชาชาติภายหลังปี ค.ศ. 2015ที่จะเกิดขึ้นในช่วงต้นปีหน้า
ในการประชุมเสวนาดังกล่าว ผู้นำประเทศและผู้เชี่ยวชาญระดับโลกกว่า 20 ท่าน ต่างมีความเห็นพ้องกันว่า หลักนิติธรรมเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างสันติภาพในระยะยาว การปกป้องสิทธิมนุษยชนที่มีประสิทธิภาพ การพัฒนาความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และการพัฒนาองค์รวมสำหรับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสังคมและประเทศที่กำลังตกอยู่ในห้วงความขัดแย้งหรืออยู่ในสภาวะหลังความขัดแย้ง
งานเสวนา“The Bangkok Dialogue on the Rule of Law”เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (สธท.) ร่วมกับรัฐบาลไทย ผ่านกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงต่างประเทศ โดยมีจุดประสงค์หลักที่จะผลักดันหลักนิติธรรมให้ถูกบรรจุในวาระการพัฒนาแห่งสหประชาชาติภายหลังค.ศ. 2015 และเน้นย้ำถึงความสำคัญของหลักนิติธรรมในฐานะหัวใจหลักของการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงมีพระดำรัสเปิดงานเสวนาในครั้งนี้ โดยทรงเน้นย้ำต่อที่ประชุมว่าการพัฒนาที่ปราศจากหลักนิติธรรม การป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญานั้น เป็นการพัฒนาที่ยังห่างไกลความยั่งยืน
"เราจะสามารถบรรลุเป้าหมายของความยั่งยืนได้อย่างไร หากความไม่เท่าเทียมกันยังคงสร้างความขัดแย้งในสังคมอยู่ และในขณะที่ยังมีประชากรอีกมากที่ยังคงถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าถึงความยุติธรรม ทั้งนี้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าช่องว่างในกระบวนการยุติธรรมและหลักนิติธรรมที่ไม่มีประสิทธิภาพนั้นเป็นหัวใจสำคัญของปัญหาต่างๆ อยู่ในขณะนี้"
"การผลักดันประเด็นเรื่องหลักนิติธรรม การป้องกันอาชญากรรม และความยุติธรรมทางอาญาไม่เพียงเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งต่อเส้นทางการพัฒนาที่ยั่งยื่น แต่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถละเลยหรือปล่อยผ่านได้ ดังนั้น มันจึงเป็นสามัญสำนึกและความรับผิดชอบร่วมกันของนานาประเทศที่จะเปลี่ยนแนวคิดการพัฒนาการแบบบูรณาการให้เป็นความจริง" พระดำรัสแห่งพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา
ในช่วงพิธีเปิดงานเสวนามีผู้ร่วมรับฟังงานเสวนากว่า 400 คน จากภาครัฐ นักวิชาการ และผู้นำประชาสังคมต่างๆ จากทั่วโลก โดย นายเชอริ่ง ต็อบเกย์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน ได้กล่าวถึงสุภาษิตของชาวภูฏานว่า “พระมหากษัตริย์ทรงรักประชาชนของพระองค์ และประชาชนของพระองค์ต่างปรารถนาความสุข และสิ่งที่จะก่อให้เกิดความสุขกับประชาชนของพระองค์ คือ หลักนิติธรรม”
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเน้นย้ำความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการส่งเสริมหลักนิติธรรม นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จึงได้กล่าวสนับสนุนการจัดการประชุมดังกล่าวว่า“งานเสวนา The Bangkok Dialogue on the Rule of Lawในวันนี้ เป็นการร่วมตัวกันระหว่างผู้นำระดับสูง นักวิชาการ และตัวแทนจากประชาสังคมที่สำคัญจากทั่วโลกและเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และองค์ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของหลักนิติธรรมที่มีต่อสังคม ตลอดจนความเชื่อมโยงระหว่างหลักนิติธรรมและการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยรัฐบาลไทยยินดีสนับสนุนแนวคิดนี้อย่างเต็มที่ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของหลักนิติธรรมในทุกๆ ระดับ”
แม้ว่าผู้ร่วมเสวนาในครั้งนี้จะมีทัศนคติที่หลากหลาย ทั้งในแง่ที่ส่งเสริมกันก็ดีหรือจะเห็นแย้งก็ดี แต่ทุกฝ่ายต่างเห็นพ้องต้องกันว่าการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐภาคประชาสังคม และภาคเอกชนนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้ทุกภาคส่วนในสังคมเข้าใจและพร้อมให้การสนับสนุนหลักนิติธรรม
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงเป็นองค์ปาฐกเปิดงานเสวนา “The Bangkok Dialogue on the Rule of Law” พร้อมด้วย นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย (คนที่ 8 จากซ้าย แถวหน้า) นาย เชอริ่ง ต๊อบเกย์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน (คนที่ 3 จากซ้าย แถวหน้า)นาย สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ (คนที่ 4 จากซ้าย แถวหน้า) นาย ชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (คนที่5 จากขวา แถวหน้า) นาย อาร์ เอ็ม มาร์ตี้ มูเลียนา นาตาเลกาวา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซีย (คนที่ 4 จากขวา แถวหน้า) นาย ยูริ เฟโดทอฟ ผู้อำนวยการบริหารสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (คนที่ 6 จากซ้าย แถวหน้า) และ นาย กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรมและผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (คนที่ 2 จากขวา แถวหน้า)
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงกล่าวเปิดงานเสวนาระดับนานาชาติ “The Bangkok Dialogue on the Rule of Law”
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit