“แฟชั่นควีน” โหมหนักส่งแบรนด์เอสเซนส์ ลุยตลาดเครื่องสำอางในไทย อิงกระแสป๊อบสตาร์ระดับโลก นำเข้าเทรนด์อิดิชั่นใหม่เซท “จัสติน บีเบอร์-เอสเซนส์ บิวตี้ บีสท์” ตอกย้ำแบรนด์ดังจากเยอรมนีอันดับ 1 ของยุโรป เดินหน้าขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านห้างสรรพสินค้า ดรักสโตร์ และร้านเครื่องสำอางชั้นนำทั่วประเทศ ประกาศวางจุดขายได้แล้ว 200 จุด ตั้งเป้าขยายเพิ่มอีก 100 จุด ทั่วประเทศภายในปีหน้า มั่นใจรายได้จากแบรนด์เอสเซนส์ อยู่ที่ 50% จากทั้งหมด 3 แบรนด์ที่เข้านำ ตั้งเป้าโกยยอดขายสิ้นปี 2556 เติบโตถึง 130%นางสาวอาทิตยา ดิถีเพ็ญ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แฟชั่นควีน จำกัด ผู้นำเข้าเครื่องสำอางแฟชั่นชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จด้านธุรกิจนำเข้าเครื่องสำอางมาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันนำเข้าทั้งหมด 3 แบรนด์ ได้แก่ แบรนด์คิส (Kiss) คิสมี (Kiss Me) ที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น และเมื่อปลายปีที่ผ่านมาก็นำแบรนด์เอสเซนส์ (essence) จากเยอรมนีเข้ามาทำตลาดในไทย ที่ผ่านมาของ 3 แบรนด์ ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย โดยบริษัทฯ ได้ทำการตลาดอย่างหนักด้วยการลงสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ รวมถึงสื่อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์บริษัท และเฟซบุ๊ก แฟนเพจ อีกทั้งยังมีการทำโรดโชว์อย่างต่อเนื่อง เน้นเข้าถึงกลุ่มลูกค้าผู้หญิงนำเทรนด์และรักแฟชั่น อายุระหว่าง 15-40 ปี สำหรับแผนปลายปีนี้ เตรียมทำการตลาดทั้ง 3 แบรนด์ ภายใต้งบลงทุนวางไว้ 100 ล้านบาท โดยจะเน้นที่แบรนด์เอสเซนส์อย่างหนักเป็นพิเศษ เพราะถือเป็นแบรนด์ใหม่ มีจุดแข็งของสินค้าคือราคาไม่แพงมีคุณภาพนำเข้าจากยุโรป จับกลุ่มตลาดแมส ซึ่งล่าสุดนำเข้าเทรนด์อิดิชั่นใหม่ล่าสุด “จัสติน บีเบอร์-เอสเซนส์ บิวตี้ บีสท์” อิงกระแสแฟนคลับป๊อบสตาร์ระดับโลก เจาะกลุ่มแฟนคลับวัยรุ่นชาวไทย โดยชูคุณภาพจากยุโรปแต่ราคาไทยๆ มีให้เลือกหลายหลายทั้งอายแชโดว์ ดินสอเขียนขอบตาและอายไลเนอร์แบบ 2 in 1 แป้งชิมเมอร์ ลิปกลอส บลัชออน มาพร้อมยางรัดผมแพ็คคู่และอุปกรณ์ตกแต่งเล็บ ถือเป็นผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ที่จะบุกทำตลาดวางจำหน่ายตั้งแต่ช่วงปลายปี คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มองตลาดเครื่องสำอางในไทยยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องทุกปี แม้จะมีการแข่งขันสูง แต่เชื่อมั่นในเรื่องคุณภาพและแบรนด์คาแรคเตอร์ที่โดดเด่น รวมทั้งความเป็นผู้นำทางด้านแฟชั่นแห่งสีสันและเมคอัพเทรนด์ ทำให้มั่นใจว่าบริษัทจะมีรายได้จากแบรนด์เอสเซนส์ อยู่ที่ 50% และคิส, คิสมี 50% ตั้งเป้าสิ้นปี 2556 โตถึง 130% จากปีที่ผ่านมายอดขายที่ 60 ล้านบาท
ส่วนปี 2557 วางแผนที่จะจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ในเดือนช่วงเดือนมกราคมและทุกเดือนจะทำการออกสินค้าใหม่ๆ หมุนเวียนให้ผู้บริโภคได้เลือกสรรแบบไม่มีเบื่อ และจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ที่จุดขายตามเทรนด์ปีละ 2 ครั้ง ตอกย้ำจุดเด่นของแบรนด์ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเครื่องสำอางชั้นนำและที่มีฐานการผลิตหลักอยู่ในประเทศแถบยุโรป วางจำหน่ายมากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก สำหรับประเทศไทยวางจำหน่ายผ่านห้างสรรพสินค้า ดรักสโตร์ และร้านเครื่องสำอางชั้นนำทั่วประเทศ อาทิ วัตสัน, บู๊ทส์, เทสโก้, ซูรูฮะ และเตรียมจะเข้าไปที่บิ๊กซี ดรักสโตร์ด้วยในเร็ว ๆ นี้ สามารถวางจุดขายไปแล้วกว่า 200 จุด และในปี 2557 ตั้งเป้าว่าจะขยายให้ครอบคลุมเพิ่มขึ้นอีก 100 จุดทั่วประเทศ นางสาวอาทิตยากล่าวปิดท้าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์ จำกัด (ที่ปรึกษาด้านงานประชาสัมพันธ์)
โทร.02-284-2662 แฟกซ์. 02-284-2287,2291 www.kanokratpr.com
คุณกนกรัตน์ วีรานุวัตติ์ E-mail: [email protected]
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit