ฉากนี้เป็นฉากที่กษัตริย์เมงกะยินโย (รอน บรรจงสร้าง)ได้สวรรคต ซึ่งผู้ที่สืบทอดบัลลังค์ต่อไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นมังตรา(ฟลุ๊ค-จิระ ด่านบวนเกียรติ) รัชทายาทของเมืองตองอูนั่นเอง ซึ่งในท้องพระโรง พระราชเทวี (รุ้งทอง ร่วมทอง) ได้นำมหามงกุฎในพานทองขึ้นถวาย มังตราหยิบขึ้นสวมศีรษะ
ฉากนี้ทีมงานภาพยนตร์โทรทัศน์ฟอร์มยักษ์ ผู้ชนะสิบทิศ ได้ปักหลักถ่ายทำกันอยู่ที่สตูดิโอพร้อมมิตร จ.กาญจนบุรี เหมือนเดิม ซึ่งฉากนี้ทีมงานได้ถ่ายทำในส่วนของท้องพระโรง เมื่อเซทฉากเสร็จ หนุ่มฟลุ๊คก็มาในชุดผู้สืบทอดบัลลังค์ เต็มยศ อย่างสง่างาม ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าชุดนี้หนักมาก ดีที่เริ่มออกกำลังกายมาก่อนหน้านี้เลยรับกับน้ำหนักชุดนี้ได้ พอถึงเวลาซ้อมผกก.คุณากร เศรษฐี ต่างเรียกนักแสดงทุกคนมาหน้าเซต พร้อมอธิบายทำความเข้าใจกับฉากนี้ว่าถึงแม้หนุ่มฟลุ๊คจะไม่มีบทพูด แต่ก็ต้องสื่ออารมณ์เป็นผู้สืบทอดบัลลังค์อย่างไม่ทันตั้งตัวให้สมจริง ซึ่งก็ทำให้เจ้าตัวหนักใจอยู่ไม่น้อย แถมทุกคนในฉากยังต้องแสดงสีหน้าเศร้าออกมาเพราะว่ากษัตริย์เมงกะยินโย พึ่งสวรรคต ไป ถึงว่าจะเป็นฉากที่น่ายินดีก็ตาม พอถึงเวลาถ่ายจริง ผกก.นับ 5 4 3 2 หนุ่มฟลุ๊คก็แสดงสีหน้าออกมาได้เหมือนผู้สืบทอดบัลลังค์มากๆ ยิ่งตอนนำมหามงกุฎขึ้นสวมศีรษะ ทีมงานต่างขนลุกกันเป็นแถวนึกว่าได้อยู่ร่วมพิธีนี้จริงๆ
หลังจากถ่ายนี้เสร็จ หนุ่มฟลุ๊ค-จิระ ได้บอกกับเราว่า
ฟลุ๊ค กล่าว “อยากให้ดูซีนขึ้นครองราชย์ครับ เป็นซีนที่ไม่ต้องพูดอะไรซักคำ แต่พอเรามองไปข้างล่างเป็นมหาอุปราช เป็นคนทั้งเมืองมองเราอยู่ เราต้องแสดงแสนยานุภาพที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งตัวละครมันก็เริ่มเปลี่ยน มันจะยากตรงที่เราเริ่มปั้นให้มีความน่าเกรงขามเราเป็นกษัตริย์มันเลยยาก ไม่ต้องพูดสักคำนะแต่อารมณ์มันสุดยอด ขนลุกมากดูสมจริงหมด ยิ่งตอนแม่ (นุ่น-รุ้งทอง ร่วมทอง) เดินเอามงกุฏมาให้ มันต้องใส่อารมณ์เสมือนกษัตริย์จริงๆ ก็อยากให้ทุกคนได้ชมกันครับ”
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit