นายดุซซุน ทอปเจอร์ (Mr. Dursun Topçu) รองประธานหอการค้าอิสตันบูล สาธารณรัฐตุรกี กล่าวว่า “ประเทศตุรกีและไทยนั้นมีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนานกว่า 55 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี พ.ศ. 2556 ได้มีการลงนามในหลายด้านเพื่อยกระดับความสัมพันธ์เพิ่มขึ้น ทั้งทางด้านศิลปวัฒนธรรม การท่องเที่ยว การค้าและการเมือง ดังนั้น การจัดงานแสดงสินค้าและบริการจากสาธารณรัฐตุรกี หรือ Expo Turkey in Thailand ครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการจัดงานครั้งแรกที่เปิดโอกาสด้านการค้าให้แก่นักลงทุนชาวไทยและตุรกีได้พบปะเจาจากันโดยตรง รวมทั้งเปิดโลกทัศน์การดำเนินธุรกิจในประเทศใหม่ๆ อย่างประเทศตุรกี ให้แก่นักธุรกิจไทยที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีคุณภาพและราคาที่สามารถแข่งขัน ส่งเสริมให้สามารถเติบโตได้ต่อไปในตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังจะมาถึง”
ดังที่ทราบกันดีว่า ตุรกี เป็นประเทศที่มีการเติบโตด้านเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 6 ในยุโรปและอันดับ 17 ของโลก ด้วยที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์เชื่อมโยงไปยังภูมิภาคต่างๆ อาทิ เอเชีย ยุโรป ตะวันออกกลาง ทำให้เป็นที่จับตามองของนักธุรกิจที่เห็นถึงศักยภาพของตลาดผู้บริโภคที่มีมากกว่า 1.5 พันล้านรายในยุโรป ยูราเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ แม้ว่าในปี พ.ศ. 2553-2554 จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลก แต่ตุรกียังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มากถึงร้อยละ 9.2 ในปี พ.ศ. 2553 และร้อยละ 8.8 ในปี พ.ศ. 2554 ส่งผลให้เป็นประเทศที่มีการเติบโตด้านเศรษฐกิจมากที่สุดอันดับ 2 ของเอเชีย และอันดับ 1 ในยุโรป รวมทั้ง โออีซีดี (OECD* – Organization for Economic Co-operation and Development) ได้คาดการณ์ว่า ตุรกี จะมีอัตราการเติบโตสูงสุดในกลุ่มประเทศมากถึงร้อยละ 5.2 ภายในปี พ.ศ. 2560
ขณะเดียวกัน ประเทศไทยมีการเจริญเติบโตถึงร้อยละ 6.4 ในปี พ.ศ. 2555 ทำให้กลายเป็นประเทศที่การเติบโตทางเศรษฐกิจมากที่สุดในลำดับที่ 29 ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของเอเชีย เชื่อมโยงเศรษฐกิจและการค้าไปยังภูมิภาคต่างๆ ได้เป็นอย่างดี รวมทั้ง ธนาคารโลกว่าเป็นประเทศที่น่าลงทุนมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคตะวันออก และเป็นศูนย์กลางสู่ตลาดผู้บริโภคอาเซียนกว่า 600 ล้านราย“หอการค้าอิสตันบูล ได้วางแผนจัดงาน งานแสดงสินค้าและบริการจากสาธารณรัฐตุรกี หรือ Expo Turkey in Thailand ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ บนพื้นที่ขนาด 4,500 ตารางเมตร จากผู้ประกอบการชั้นนำตุรกี 40 ราย มานำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการหลายร้อยรายการ ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ด้านอาหาร ชา ของที่ระลึก อุปกรณ์ก่อสร้าง สิ่งทอ หินอ่อน รองเท้า บริการขนส่ง แสงสว่าง พรม น้ำมันมะกอก เครื่องครัวและปรุงอาหาร ไปจนถึงดินและปุ๋ยปลอดสารพิษ รวมทั้งภายในงานยังจัดพื้นที่พิเศษสำหรับการเจรจาธุรกิจ ให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่สนใจดำเนินธุรกิจกับตุรกี”
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจไม่ควรพลาดชม อาทิ การแสดงระบำพื้นบ้านตุรกี ที่สะท้อนศิลปวัฒนธรรมการเฉลิมฉลองด้วย การเต้นรำ การแสดง และการแบ่งปัน อันแสดงให้เห็นถึงลักษณะเด่นของชาวตุรกีได้เป็นอย่างดี กระดาษพิมพ์ลายหินอ่อนตำรับตุรกีโบราณ ถ่ายทอดจากบรรพบุรุษมากว่า 500 ปี และสาธิตการเป่าแก้วศิลปะตุรกี และที่สำคัญ ผู้ประกอบการตุรกียังได้เตรียมของที่ระลึกสุดพิเศษให้แก่นักธุรกิจไทยอีกด้วย
“งานแสดงสินค้าและบริการจากสาธารณรัฐตุรกี หรือ Expo Turkey in Thailand ถือได้ว่าเป็นก้าวแรกแห่งการเปิดโลกทัศน์และช่องทางด้านธุรกิจระหว่างตุรกีและไทย เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีนำไปสู่การพัฒนาการค้าระหว่างกันได้ต่อไปในอนาคต” นายทอปเจอร์กล่าวสรุป
นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ หรือบุคคลทั่วไปที่สนใจ สามารถเข้ามาศึกษาผลิตภัณฑ์และบริการตุรกีได้ในงานแสดงสินค้าและบริการจากสาธารณรัฐตุรกี ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์ กรุงเทพฯ และสามารถติดตามข้อมูลความรู้เกี่ยวกับประเทศ ผลิตภัณฑ์ บริการ และการค้า การลงทุนต่างๆ ได้ที่ www.expoturkeyinthailand.com หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ ฝ่ายบริหารการจัดงาน โทรศัพท์ 02-203-4260 และ 02-203-4263
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit