กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เตรียมจัดโครงการประกวดตั้งชื่อลูกวาฬบรูด้า ดาวเด่นประจำถิ่น อ่าวไทย รูป ตัว ก ในเดือนพฤศจิกายนนี้ หลังบรรจุให้วาฬบรูด้าเป็นสัตว์ประจำถิ่น และสำรวจพบลูกวาฬเกิดใหม่มีสุขภาพแข็งแรง บ่งชี้ได้ถึงความสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเลไทย
เมื่อวันที่ ๒๖ ต.ค. ๒๕๕๖ นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่บริเวณอ่าวไทยตอนบน เพื่อศึกษาสถานภาพ การแพร่กระจายและพฤติกรรมของวาฬบรูด้า พร้อมทั้งกำกับดูแลให้มีการท่องเที่ยวชมวาฬบรูด้าอย่างถูกต้อง
นายวิเชษฐ์ เปิดเผยว่า นักวิชาการ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ทำการสำรวจวาฬบรูด้าในบริเวณอ่าวไทย ตั้งแต่ปี ๒๕๕๑-ปัจจุบัน พบว่าสามารถจำแนกประชากรวาฬบรูด้าโดยภาพถ่าย (Photo-Identification) ได้แล้วจำนวน ๔๐ ตัว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของทะเลในบริเวณดังกล่าวได้เป็นอย่างดี โดยในปีนี้ มีแม่วาฬ ๔ ตัว ให้กำเนิดลูกอีก ๔ ตัว โดยหนึ่งในนั้น พบลูกวาฬที่เกิดจากแม่สาครเป็นลูกวาฬที่แข็งแรงมาก สามารถกระโดดเล่นเหนือผิวน้ำ (Breaching) ในลักษณะตีลังกาใส่เกลียวบิดตัวหงายท้องเอาหลังลง ทั้งที่ปกติลูกวาฬแรกเกิดจะไม่กระโดด เนื่องด้วยมีน้ำหนักกว่า ๔๐๐ กิโลกรัมและมีขนาดยาวตัวถึง ๔ เมตร
เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และปลูกฝังจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตามนโยบายโครงการ “ดวงใจสีเขียว” ของ รมว.ทส. ในการนี้ ทช. จึงจัดโครงการประกวดตั้งชื่อลูกวาฬบรูด้า ดาวเด่นประจำถิ่นอ่าวไทยรูป ตัว ก ขึ้น โดยมุ่งหวังให้ลูกวาฬเป็นขวัญใจของคนไทย และเป็นสื่อในการให้ความรู้เกี่ยวกับวาฬบรูด้าและวิธีการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึง ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างถูกวิธี เพื่อให้วาฬบรูด้า ซึ่งเป็นสัตว์หายากและใกล้สูญพันธ์ สามารถอยู่ในทะเลไทยได้อย่างแข็งแรงและปลอดภัยต่อไป ทั้งนี้ โครงการประกวดตั้งชื่อลูกวาฬบรูด้า จะเปิดรับเสนอชื่อ ในวันที่ ๑ – ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ และเปิดให้ร่วมโหวตเลือกชื่อในรอบสุดท้าย วันที่ ๒๒-๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ท่านที่สนใจเข้าร่วมประกวด เพื่อลุ้นรับรางวัล รวมทั้งโอกาสเข้าร่วมทริปชมวาฬบรูด้า สามารถติดตามรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่ www.dmcr.go.th/BrydeNamingContest หรือ สอบถามข้อมูล โทร 0-๒๑๔๑-๑๓๓๓ (ในเวลาราชการ)
-กผ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit