กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดงานแถลงข่าวการจัดงาน “มหกรรมเล่านิทาน อ่าน และเล่นกับลูก ปี 5” ภายใต้โครงการสายใยรักแห่งครอบครัว ในพระราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ เป็นองค์อุปถัมภ์ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการให้กับเด็กไทย ชูคอนเซ็ปต์ “เล่า อ่าน เล่น เครื่องมือสร้างเด็กไทย สร้างเด็กอาเซียน” ซึ่งปีนี้เน้นการเตรียมพร้อมเด็กๆ เพื่อก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ณ Meeting Room 5-6 รอยัลพารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
นางสาวมนิดา ลิ่มนิจสรกุล ผู้อำนวยการสำนักคุ้มครองสวัสดิภาพหญิงและเด็ก กล่าวว่า โครงการเล่านิทาน อ่าน และเล่นกับลูก จัดขึ้นเพื่อเป็นการปลูกฝัง และส่งเสริมให้เกิด “วัฒนธรรมการเลี้ยงลูกด้วยการเล่านิทาน อ่าน และเล่นกับลูก” และได้มีการเพิ่มกิจกรรมวัยซน...ค้นโลก ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มและพัฒนาศักยภาพของเด็กวัย 7-9 ปี ด้วยกระบวนการเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติ ซึ่งเป็นการน้อมนำพระดำริของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ที่ทรงตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ โรงเรียนระดับประถมศึกษาในพื้นที่ 40 จังหวัด และ 16 สถานสงเคราะห์เด็กในสังกัด กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ด้าน นายอนุสันต์ เทียนทอง รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เล่าถึงแนวคิดและการจัดงานในปีนี้ว่า ในปีที่ 5 นี้ จะเน้นการโชว์และแบ่งปัน คือจะนำผลงานเล่านิทาน อ่าน และเล่นกับลูก และผลงานของกิจกรรมวัยซน..ค้นโลก ที่จัดประกวดในหัวข้อ “ของเล่นอาเซียน...มีเสียง” เช่น กลองจากกระป๋องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มานำเสนอให้คุณพ่อคุณแม่ไปปรับใช้เป็นของเล่นกับลูกๆ และพิเศษสำหรับปีนี้ เราใช้แนวคิดเรื่อง “เล่า อ่าน เล่น เครื่องมือสร้างเด็กไทย สร้างเด็กอาเซียน” เพื่อเรียนรู้ ความเหมือน ความต่าง การยอมรับในความเป็นมนุษย์หล่อหลอมความเป็นหนี่งเดียวของคนในชาติและคนในอาเซียน โดยนำประสบการณ์และผลสำเร็จจากการดำเนินโครงการเล่านิทาน อ่าน และเล่นกับลูก และกิจกรรมวัยซน...ค้นโลก ประกอบกับสาระบันเทิง และเรื่องที่น่าสนใจมานำเสนอ ภายใต้พื้นที่แสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติฯ และโชว์ผลงานของตัวแทนวิทยากรกระบวนการจาก 4 ภูมิภาค, มุมเล่านิทานที่มีหนังสือนิทานจากประเทศต่างๆ ในอาเซียน, พื้นที่อวดผลงานประดิษฐ์ “ของเล่นอาเซียน...มีเสียง” อีกทั้งยังมีกิจกรรมเวิร์คช้อป การทำของเล่นด้วยตนเอง กับแนวคิดสนุกๆ อย่าง “ของเล่น...ทำเองก็ได้...ง่ายจัง” จากเหล่าวิทยากรกระบวนการ ทั่วประเทศอีกด้วย
ไฮไลต์ในงานแถลงข่าวครั้งนี้นอกจากจะมีน้องๆ จากโรงเรียนต่างๆ ที่มีผลงานชนะการประกวด ”ของเล่นอาเซียน…มีเสียง” นำของเล่นมาอวดกันแล้ว ยังมี 3 คุณแม่คนดัง ที่จูงลูกน้อย มาเล่าประสบการณ์ดีๆ จากการเล่านิทานและการเล่นกับลูกมาฝากด้วย
เริ่มจาก ปอ-ปุณยวีร์ สุขกุลวรเศรษฐ์ ผู้ประกาศข่าว คุณแม่น้องแพรพัชร ลูกสาววัย 3 ขวบ 7 เดือน เล่าว่า อ่านนิทานให้ลูกสาวตั้งแต่ 3 เดือน น้องแพรพัชรเลยพูดเป็นเร็ว ส่วนใหญ่ก็จะเล่านิทานที่ลูกชอบโดยเฉพาะเรื่องอึ่งอ่างกับวัว เรื่องเจ้าหญิงซินเดอเรลล่า สโนว์ไวท์ จนลูกสาวสามารถแต่งเรื่องผูกเรื่องราวใหม่ สร้างจินตนาการขึ้น “ส่วนตัวเห็นว่าการเล่านิทานให้ลูกฟังเป็นการสร้างพัฒนาการให้ลูกได้ครบด้านค่ะ แม้แต่ตอน 3 เดือน ปอจะเลือกหนังสือนิทานที่มีภาพใหญ่ๆ สีสันสดใสมาให้น้องได้ฝึกการมอง พอโตขึ้นหน่อยเขาเปิดหนังสือเองได้ ก็ได้ฝึกกล้ามเนื้อมือ และยังเป็นการเสริมสร้างจินตนาการและฝึกภาษาได้ดีอีกด้วย”
“สำหรับการเปิดประตูสู่อาเซียนที่จะมาถึงนี้ นอกจากจะเตรียมความพร้อมทางด้านภาษา โดยเลือกนิทานที่มีทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีนให้ลูกแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรปลูกฝังให้ลูกรู้จักวัฒนธรรมและรากเหง้าของประเทศเราด้วย อ่านหนังสือภาษาไทยก็ให้แตกฉานและชัดเจน แล้วค่อยส่งเสริมภาษาที่ 2 ที่ 3 ค่ะ” ปอ กล่าวเสริม
ด้านคุณแม่ลูกสอง โน้ต-ณัฐกานต์ ประสพสายพรกุล จูงน้องพอใจ วัย 3 ขวบ มาร่วมงานในชุดเจ้าหญิงแบบเดียวกัน “โน้ตเชื่อมั่นในการเรียนรู้ผ่านการเล่านิทานมากค่ะ โน้ตเล่านิทานเรื่องกุ๊กไก่ปวดท้องให้น้องพอใจฟังตั้งแต่อยู่ในท้อง 5 เดือน พอวันที่คลอดวันแรก โน้ตคลอดเองและขอให้คุณหมอนำน้องมาดูดนมแม่ก่อนเป็นอันดับแรก พอเค้าหานมแม่ไม่เจอเค้าก็เริ่มร้องไห้ พอโน้ตเล่านิทานเรื่องนี้ให้เค้าฟัง พอใจเงียบเลยค่ะ เค้าคงจำได้และคงคุ้นหู หลังจากนั้นโน้ตก็เล่านิทานให้น้องฟังมาโดยตลอด ซึ่งตั้งใจกับคุณพ่อเค้าว่าอยากให้ลูกเป็นคนรักการอ่านและใฝ่รู้ เพราะหากเค้าชอบอ่านหนังสือแล้ว เค้าจะค้นพบทุกๆ เรื่องที่เค้าอยากค้นหา เราจึงสร้างบรรยากาศในบ้านให้เป็นที่อ่านหนังสือของลูกๆ”
คุณแม่โน้ตจะเลือกหนังสือนิทานที่มีคำคล้องจองให้ลูกเป็นหลัก จนน้องพอใจสามารถสร้างประโยคคล้องจองคุยกับแม่ได้เอง และเธอก็เลือกนิทานที่มี 2 ภาษามาอ่านให้ลูกฟัง เพื่อฝึกทักษะทางด้านภาษาเพื่อเตรียมพร้อมเมื่อประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้ว
คุณแม่อร อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ มาพร้อมสองหนุ่มน้อย น้องอองรีและน้องอองตอง ลูกชายที่ถูกบ่มเพาะด้วยวิถีความเป็นไทย พร้อมแนะนำวิธีการเลี้ยงลูกด้วยนิทานสไตล์แม่อรว่า “อรจะเน้นให้ลูกฟังเพลงตั้งแต่ตอนท้อง พอลูกโตขึ้น ก็จะให้เค้าทำกิจกรรมต่างๆ ที่ลูกๆ ชอบ โอกาสที่จะอ่านหนังสือนิทานให้ลูกๆ นั้น มีน้อย เพราะทั้งคู่อายุห่างกันไม่มาก คนหนึ่งจะนอน อีกคนจะเล่น ก็เลยได้อ่านนิทานไม่บ่อย แต่พอลูกๆ โตขึ้น เขาอ่านหนังสือเองได้ ก็เลยสนับสนุนการอ่านให้เขาเต็มที่ อย่างน้องอองรีลูกชายคนโตจะชอบหนังสือประเภทวิทยาศาสตร์ การทดลอง ในขณะที่น้องอองตอง จะชอบอ่านหนังสือนิทานเกี่ยวกับการผจญภัย ไดโนเสาร์ และหากมีโอกาสได้อ่านนิทานให้ลูกก็จะเลือกนิทานที่มีคติสอนใจ หรือนิทานชาดก อย่างล่าสุดก็อ่านพระเวสสันดรให้ลูกๆ ฟัง ลูกก็จะได้แง่คิด ได้รู้ผลของการทำชั่ว และตั้งใจทำความดีค่ะ”นอกจากนั้นยังมีกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเด็กและครอบครัว นายแพทย์ สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็ก มาร่วมเผยผลดีจากกิจกรรมเล่านิทานว่า ลูกๆ วัยปฐมวัยนี้ เป็นวัยทองที่คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์และความใกล้ชิดได้ดีที่สุด พ่อแม่อย่าปล่อยให้ลูกผ่านวัยนี้ไปโดยปล่อยให้อยู่กับทีวีหรือเกมมือถือต่างๆ จนสิ่งเหล่านี้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมลูกไปในทางที่ไม่ดี แต่ควรมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ กับลูก ไม่ว่าจะเป็นการเล่านิทาน การเล่น การอ่าน เพราะหากลูกผ่านพ้นวัยนี้ไปแล้ว พ่อแม่จะมีโอกาสใกล้ชิดลูกอีกทีก็ช่วงวัยรุ่นตอนต้น ซึ่งตอนนั้นจะยากกว่าตอนลูกยังเล็กๆ มาก
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากบ่มเพาะความรู้และสร้างเสริมจินตนาการให้แก่ลูกน้อย มาร่วมงานมหกรรมเล่านิทาน อ่าน และเล่นกับลูก ปี 2556 ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 15- 17 พฤศจิกายน 2556 ณ รอยัลพารากอนฮอลล์ 3 ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit