กรุงเทพฯ--7 พ.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2556 ได้เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชียครั้งที่ 46 โดยมนายพลาเนียปพาน จิดัมบารัม (Mr. Palaniappan Chidambaram) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินเดีย ในฐานะประธานสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชีย กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมและแสดงความยินดีแก่นายทาเคฮิโกะ นากาโอะ (Mr. Takehiko Nakao) ที่ได้รับเลือกเป็นประธานธนาคารพัฒนาเอเชียคนใหม่ ซึ่งนายนากาโอะฯ ได้กล่าวขอบคุณประเทศสมาชิกที่ให้การสนับสนุน และกล่าวถึงแนวทางการดำเนินงานของธนาคารพัฒนาเอเชียในอนาคตที่จะเน้นในเรื่องการพัฒนานวัตกรรมในการช่วยเหลือประเทศสมาชิก การส่งเสริมการพัฒนาอย่างทั่วถึง และการส่งเสริมการรวมตัวในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกให้มีมากขึ้น และนายมานโมฮาน ซิงห์ (Mr. Manmohan Singh) นายกรัฐมนตรีของอินเดีย ในนามเจ้าภาพจัดการประชุมฯ ได้กล่าวเปิดการประชุมฯ และกล่าวถึงแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง (Inclusive Growth) ในเอเชียเพื่อลดปัญหาความยากจน การสนับสนุนความเชื่อมโยงในภูมิภาค โดยเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาบทบาทของธนาคารพัฒนาเอเชียในอนาคต
นายกิตติรัตน์ฯ ในฐานะผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชียของไทย ได้ส่งสุนทรพจน์ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทยในปีที่ผ่านมาที่มีการเติบโตในระดับที่น่าพอใจที่ร้อยละ 6.4 และคาดว่าในปี 2556 เศรษฐกิจไทยจะเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 และประเทศไทยได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาโดยเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศให้หลุดพ้นจากกับดักรายได้ระดับปานกลาง การส่งเสริม การเติบโตทางเศรษฐกิจแบบครอบคลุม การพัฒนาเศรษฐกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ นอกจากนี้ ได้ระบุความสำคัญของการพัฒนาความร่วมมือในอาเซียน และการส่งเสริมบทบาทของธนาคารพัฒนาเอเชียในการมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงผ่านยุทธศาสตร์ความร่วมมือระดับประเทศและกองทุนพัฒนาเอเชีย
นอกจากนี้ ในวันดังกล่าว นายกิตติรัตน์ฯ ได้หารือทวิภาคีกับ 1) นายทาโร อาโซะ (Mr. Taro Aso) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่น ทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือแลกเปลี่ยนความเห็นโดยมุ่งที่จะส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเงินระหว่างไทยและญี่ปุ่นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในด้านต่างๆ เช่น ความร่วมมือในการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคโดยส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนในการเข้าร่วมลงทุน และแนวทางในการส่งเสริมการค้าและขยายการลงทุนระหว่างกันโดยเน้นในด้านการให้ความช่วยเหลือทางการเงินและสร้างความแข็งแกร่งแก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมทั้งการพัฒนาความเชื่อมโยงในภูมิภาค ในโอกาสเดียวกันนี้ นายกิตติรัตน์ฯ ได้กล่าวถึงความสำคัญของการให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านเพื่อยกระดับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคม 2) นายโนบุยูกิ ฮิราโนะ (Mr. Nobuyuki Hirano) ประธานธนาคารมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ โตเกียว ได้มีการหารือเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของญี่ปุ่นในการพัฒนาการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนเพื่อสนับสนุนโครงการ “ไทยแลนด์ 2020” การพิจารณาขยายสาขาของธนาคารในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงรวมถึงประเทศไทย และแนวทางการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง 3) นายลิโต้ คามาโช่ (Mr. Lito Camacho) รองประธานบริษัทหลักทรัพย์เครดิตสวิสประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้มีการหารือเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทยและความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและบริษัทหลักทรัพย์เครดิตสวิส และ 4) นายแอกเซล แวน ทรอทเซนเบิร์ก (Mr. Axel van Trotsenburg) รองประธานธนาคารโลก ได้มีการหารือเกี่ยวกับการเสนอขอให้ประเทศไทยพิจารณาเป็นผู้บริจาคในสมาคมพัฒนาการระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการให้ความช่วยเหลือประเทศยากจนในภูมิภาค การเสนอให้ความร่วมมือกับประเทศไทยในเรื่องการพัฒนาการเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) การเบิกจ่ายเงินกู้ของธนาคารโลกในส่วนที่เหลืออยู่ของไทย การจัดทำยุทธศาสตร์ของกลุ่มธนาคารโลก รวมถึงการหารือการใช้เงินธนาคารโลกในการสนับสนุนภาคเอกชนเข้ามาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และบทบาทของธนาคารโลกในการส่งเสริมการพัฒนาโครงการในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงให้มีความน่าดึงดูดต่อนักลงทุน
สำนักนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร. 02 273 9020 ต่อ 3614 -นท-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit