กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--สสส.
แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ มูลนิธิสมาพันธ์ศิลปินเพื่อสังคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมสร้างความสุขแก่ผู้โดยสารระหว่างพักรอการเดินทางโดยการแสดงจากศิลปิน ภายใต้โครงการ “ศิลปินสร้างสุข ศิลปินอาสา” รับวันวิสาขะบูชา ที่ สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)
โดยนายดนัย หวังบุญชัย ผู้จัดการแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า โครงการนี้เริ่มจากทาง แผนงานสื่อศิลปะวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ มีเครือข่ายทางด้านศิลปวัฒนธรรมในแขนงต่างๆ มากมายทั้ง สื่อดนตรี สื่อพื้นบ้าน และสื่อร่วมสมัยที่เป็นสื่อสมัยใหม่ ทางคณะกรรมการจากทาง สสส. จึงเล็งเห็นประสิทธิภาพของเครือข่ายศิลปินว่า หากจะไปเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ ในแหล่งชุมชนหรือในย่านที่คนหมู่มากใช้เดินทางทั้งการรอรถ รอเรือ หรือรอเครื่องบิน เพื่อสร้างเสริมสุขภาพของผู้ที่อยู่ในความเครียดระหว่างเดินทางตามสถานีขนส่งต่างๆ ให้เปิดเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ เพื่อให้เป็นพื้นที่สุขภาวะ และเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีคุณค่าในด้านศิลปวัฒนธรรมแก่คนไทยและชาวต่างชาติไปในเวลาเดียวกัน โดยโครงการนี้ถือเป็นโครงการนำร่อง จึงได้มีการทดลองจัดมาจนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 แล้ว ที่ได้รับความร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าภาพสถานที่ อย่าง บริษัทขนส่งจำกัด (บ.ข.ส.) การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นต้น หลังจากนี้อาจจะมีการทบทวนกับเจ้าภาพในสถานที่ต่างๆ ว่าจะมีความร่วมมือในการจัดกิจกรรม “ศิลปินสร้างสุข ศิลปินอาสา” ให้เกิดเป็นโครงการระยะยาวได้อย่างไร ซึ่งในจุดนี้ก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพของเจ้าภาพ และเครือข่ายที่ร่วมงานด้วย ซึ่งทางแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมฯ ก็ทำได้เพียงจัดการนำร่องเท่านั้น แต่ในส่วนของการดำเนินงานอย่างยั่งยืนจะเป็นอย่างไรคงต้องขึ้นอยู่กับการเห็นความสำคัญของเจ้าภาพกับระยะเวลาในการดำเนินการด้วย” อาจารย์ดนัย หวังบุญชัย กล่าว
ซึ่งนายไพจิตร ศุภวารี ผู้รับผิดชอบโครงการ “ศิลปินสร้างสุข ศิลปินอาสา” กล่าวว่า โครงการนี้เน้นให้ความสุข ความบันเทิง สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชนที่พักรอเพื่อที่จะเดินทาง ด้วยการนำทัพศิลปินทั้งรุ่นใหญ่ และรุ่นเยาว์ ใช้สื่อศิลปวัฒนธรรมในแบบต่างๆ รวมไปถึงมาจัดแสดง อาทิ เพลงอีแซว เพลงเรือ เพลงเกี่ยวข้าว หรือของภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ที่เป็นการขับร้องด้วยสำเนียงแต่ละถิ่น การแสดงจากกลุ่มชาติพันธุ์ อย่างรำวิสาขะบูชา, รำ 4 ภาค, รำเทพบันเทิง, ลิเกฮูลู, นาฏศิลป์ไทยภารตะ "ปฏาจารา", มโนราห์ตัวอ่อน และการขับร้องเพลงไทยสากล – ลูกทุ่ง – ไทยร่วมสมัย จากศิลปินแห่งชาติรุ่นใหญ่ อาทิ สดใส รุ่งโพธิ์ทอง และกลุ่มเยาวชนในโครงการอีกมากมาย “ที่ผ่านมากิจกรรม “ศิลปินสร้างสุข ศิลปินอาสา” ได้จัดมาแล้วกว่า 10 ครั้ง โดยครั้งแรกจัดขึ้นที่ สถานีขนส่งหมอชิต, ที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ 1 ครั้ง และที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) 8 ครั้ง ซึ่งในอนาคตตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะไปจัดกิจกรรมที่ท่าอากาศยานดอนเมือง หรือไม่ก็ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งกิจกรรมที่ผ่านมามีกระแสตอบรับที่ดีจากประชาชนที่มารอเพื่อเดินทางต่อเป็นอย่างดี โดยส่วนใหญ่บอกว่าคุ้มค่าในการรอคอยมาก ซึ่งการแสดงแต่ละชุด นอกจากจะมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ – เชื้อชาติ ยังทำให้ผู้ที่อยู่ในสถานีได้มีความรู้สึกคิดถึงและภาคภูมิใจในบ้านเกิดของตัวเองไปด้วยในตัว ส่วนการจัดครั้งนี้ถือเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว สำหรับโครงการนำร่องที่จัดขึ้นที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ถือเป็นโอกาสดีที่กิจกรรม ได้จัดขึ้นเพื่อรับวันวิสาขะบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญทางศาสนา และถือว่าเป็นช่วงวันหยุดยาวที่ใครหลายๆ คนเดินทางกลับภูมิลำเนา เชื่อมั่นว่ากิจกรรมที่นำมาแสดงทั้งหมดจะสามารถสร้างความสุข สนุกสนาน ช่วยคลายเครียด และสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างรอรถเพื่อเดินทางกลับได้ และสำหรับเด็กและเยาวชนเป็นผู้ส่งมอบความสุขให้กับคนที่มารอรถเองยังมีโอกาศได้รับประสบการณ์ทีดี ทั้งทางด้านการแสดง การเข้าสังคม ซึ่งไม่สามารถหาได้จากที่ไหน สร้างความภาคภูมิใจให้กับตัวเอง ปลูกฝังการมีใจรักในการทำงานจิตอาสา ว่าเป็นเรื่องที่ดีสามารถช่วยแบ่งเบาภาระ ช่วยคลายทุกข์ สร้างความสุขให้กับผู้อื่นไปในตัวด้วยอีกทาง” นายไพจิตร ศุภวารี กล่าว
ส่วนนายเทอดชัย เพ่งไพฑูรย์ รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การรถไฟรู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสสนับสนุนการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ด้วยการให้การสนับสนุนการจัดพื้นที่ในการทำกิจกรรมการแสดงต่างๆ เพื่อสร้างบรรยากาศของความสุข สนุกสนาน และช่วยสร้างการผ่อนคลายให้แก่ประชาชนที่มาใช้บริการยังสถานีรถไฟ ซึ่งในแต่ละวันจะมีประชาชนมาใช้บริการที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) เป็นจำนวนมาก และยิ่งในช่วงเทศกาลจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว นอกจากกิจกรรมดีดีเหล่านี้จะช่วยสร้างความสุข และผ่อนคลายให้กับผู้ใช้บริการแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนใก้เกิดการอนุรักษ์ และเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมไทย อันทรงคุณค่าที่มีอยู่หลายแขนง หลายสาขาไว้ให้เยาวชนรุ่นหลังได้เรียนรู้ และเกิดความภาคภูมิใจในความเป็นไทยไปในตัว หากจะมีการจัดอีกทางการรถไฟฯ ก็ยินดีที่จะให้การสนับสนุนในเรื่องสถานที่การรักษาความปลอดภัย และอื่นๆ อย่างเต็มที่
สำหรับผู้ที่สนใจในกิจกรรมที่จัดขึ้นดังกล่าว หรือชมบรรยากาศกิจกรรมที่ผ่านมาสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.artculture4health.com หรือสอบถามถึงข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ 02-612-6996-7 ต่อ 101
-กภ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net