ธ.ก.ส.จัดโครงการปุ๋ยคุณภาพดีราคายุติธรรมผ่านบัตรสินเชื่อเกษตรกร

28 May 2013

กรุงเทพฯ--28 พ.ค.--ธ.ก.ส.

ธ.ก.ส. จับมือ สกต. บริษัทไทยธุรกิจเกษตร และบริษัทผู้จำหน่ายปุ๋ยจัดหาปุ๋ยคุณภาพมาตรฐานราคายุติธรรมจำนวน 400,000 ตัน จำหน่ายให้แก่เกษตรกรผู้ถือบัตรสินเชื่อเกษตรกร พร้อมชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้อีก4 เดือนเพื่อลดต้นทุนการผลิตและบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาปุ๋ยราคาแพงให้แก่เกษตรกร

เมื่อวานนี้ (27พฤษภาคม 2556) ณ ห้องโถงชั้น 2 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) สำนักงานใหญ่ บางเขน กรุงเทพมหานคร โดยมี นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือสนับสนุนโครงการจัดหาปุ๋ยเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรตามนโยบายรัฐบาล จำนวน 400,000 ตันระหว่าง นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)นายธนู หาญอยู่ประธานคณะกรรมการกลางสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. จำกัด(สกต.)นายปราโมทย์ นนทะโคตรประธานกรรมการ บริษัทไทยธุรกิจเกษตร จำกัด(TABCO) และ นายทวีศักดิ์ สุทินนายกสมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทยทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้ใช้ปุ๋ยที่มีคุณภาพ ในราคายุติธรรม เป็นการลดต้นทุนการผลิตและลดภาระดอกเบี้ยให้แก่เกษตรกร

นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้มอบหมายให้ ธ.ก.ส. ดำเนินโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรในการซื้อปัจจัยการผลิต โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2555 ซึ่งผลการดำเนินงาน ณ ปัจจุบันธ.ก.ส. ได้อนุมัติบัตรสินเชื่อให้เกษตรกรแล้ว จำนวน 2.66ล้านบัตร โดยเกษตรกรได้ใช้บัตรสินเชื่อซื้อปัจจัยการผลิตแล้วคิดเป็นมูลค่ารวม 4,879ล้านบาท

ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลพบว่า เกษตรกรใช้บัตรสินเชื่อซื้อปุ๋ย คิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 75ของมูลค่าปัจจัยการผลิตที่จัดซื้อผ่านระบบบัตรสินเชื่อเกษตรกรทั้งหมด

ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิตที่สำคัญของเกษตรกรและบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาราคาปุ๋ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี ธ.ก.ส. จึงร่วมกับ สกต. บริษัท ไทยธุรกิจเกษตร และบริษัทผู้จำหน่ายปุ๋ยรวม 25 บริษัทจัดทำโครงการจัดหาปุ๋ยเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรตามนโยบายรัฐบาล จำนวน 400,000 ตัน โดยการจัดหาปุ๋ยที่มีคุณภาพมาตรฐานราคายุติธรรม มาจำหน่ายให้แก่เกษตรกรผู้ถือบัตรสินเชื่อเกษตรกร ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าวสามารถช่วยลดต้นทุนในรูปของการชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่เกษตรกรผู้ใช้บัตรเป็นระยะเวลา 4 เดือน คิดเป็นมูลค่าที่เกษตรกรจะได้รับประโยชน์ร้อยละ 2.33 ของมูลค่าปุ๋ย หรือประมาณ 350 บาทต่อตัน

ทั้งนี้โครงการจัดหาปุ๋ยเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรมีเป้าหมายดำเนินการผ่าน สกต.ทั้ง 77 แห่ง ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยในปี 2556 จะจัดหาปุ๋ยเคมีตราลูกโลกเกลียวเชือกและตราบริษัท ประเภทปุ๋ยผสม(Compound Fertilizer)เพื่อใช้กับทุกพืชและปุ๋ยเคมีผสมแบบคลุกเคล้า (Bulk Blending) เฉพาะที่ใช้กับยางพารา ปาล์มน้ำมัน และสับปะรด ตามความต้องการของเกษตรกร จำนวน 400,000 ตัน และจะเพิ่มเป็น 1 ล้านตัน ภายใน 5ปี หรือประมาณร้อยละ 20 ของปริมาณปุ๋ยทั้งหมดที่ใช้ในประเทศประมาณ 5 ล้านตัน ซึ่งเกษตรกรสามารถสั่งซื้อปุ๋ยและชำระค่าปุ๋ยโดยใช้บัตรสินเชื่อเกษตรกร ได้ที่ สกต. หรือตัวแทนของ สกต. ทุกจังหวัด รวมทั้งร้านค้าเครือข่ายชุมชนที่เข้ามาร่วมโครางการ

นายลักษณ์ กล่าวอีกว่า ธนาคารได้ลงนามความร่วมมือกับกรมวิชาการเกษตรในการดูแลคุณภาพปุ๋ยและการพัฒนาร้านค้าในโครงการบัตรสินเชื่อให้ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน Q-Shop พร้อมทั้งมีการตรวจสอบคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เกษตรกรจึงมั่นใจได้ว่าจะได้ใช้ปุ๋ยที่มีคุณภาพในราคายุติธรรมหรือเทียบเท่าราคาตลาดทั้งยังได้รับความสะดวกในการรับปุ๋ยที่สั่งซื้อ เนื่องจาก สกต.จะขนส่งปุ๋ยจากผู้ผลิตถึงชุมชนโดยตรง และเกษตรกรยังได้รับการลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้จากบัตรสินเชื่อเป็นระยะเวลา 4 เดือน

รวมเวลาปลอดดอกเบี้ยบัตร อีก 1 เดือน รวมเป็น 5 เดือน นอกจากนี้ในส่วนของชุมชนจะพัฒนาเป็นจุดรวบรวม รับ-จ่าย ปัจจัยการผลิตผ่านระบบบัตร และพัฒนาเป็นร้านค้าเครือข่ายของ สกต. สหกรณ์การเกษตร ที่เข้าร่วมโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร อันจะนำไปสู่ความเข้มแข็งของชุมชนในอนาคต-กภ-

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit