หอการค้าอิสตันบูล ตั้งเป้าไทย ศูนย์กลางตลาดสินค้าตุรกีแห่งอาเซียน

08 Jul 2013

กรุงเทพฯ--8 ก.ค.--Market-comms

หลังจากการเยือนของนายกรัฐมนตรีไทยในประเทศตุรกี ได้มีการพัฒนาความสัมพันธ์ในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านการค้าการลงทุน โดยเห็นพ้องที่จะเพิ่มมูลค่าทางการค้าระหว่างกันภายใน 5 ปี หอการค้าอิสตันบูล ประเทศตุรกี จึงเดินตามนโยบายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พัฒนาไทยเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนร่วมกัน วางแผนจัดงานใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทยช่วงปลายปี แสดงสินค้าและบริการจากประเทศตุรกี หรือ 1st Turkish Products Exhibition in Thailand โดยมอบหมายให้บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด เป็นผู้บริหารและดำเนินการ

นายอาซัน ยิลเมซ ผู้อำนวยการฝ่ายงานนิทรรศการและความสัมพันธ์ หอการค้าอิสตันบูล ประเทศตุรกี เปิดเผยว่า “ประเทศตุรกีเป็นหนึ่งประเทศที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากความสัมพันธ์ของไทยและตุรกีนั้นมีมาอย่างยาวนานกว่า 55 ปี รวมทั้งมีนโยบายสนับสนุนด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและตุรกีที่ชัดเจน รวมทั้งพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการจัดงานแสดงสินค้าและบริการจากประเทศตุรกี หรือ 1st Turkish Products Exhibition in Thailand ครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการเปิดโอกาสให้แก่นักลงทุนในการดำเนินธุรกิจร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการโดยตรง รวมทั้งเปิดโลกทัศน์การดำเนินธุรกิจในประเทศใหม่ๆ อย่างประเทศตุรกี ให้แก่นักธุรกิจไทยที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีคุณภาพและราคาที่สามารถแข่งขัน เพื่อให้สามารถเติบโตได้ต่อไปในตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังจะมาถึง”

งานแสดงสินค้าและบริการจากประเทศตุรกี หรือ 1st Turkish Products Exhibition in Thailand จัดขึ้นระหว่าง 28 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์ กรุงเทพฯ ภายในงานจะมีการจัดแสดงเทคโนโลยี เครื่องมือ นวัตกรรม ผลิตภัณฑ์และบริการ รวมทั้งการให้ความรู้เกี่ยวกับการวางแผนการค้าและการลงทุนในประเทศตุรกี โดย หอการค้าอิสตันบลู ประเทศตุรกี ได้นำสินค้าและบริการจากหน่วยงานภาครัฐ สมาคม และองค์กรธุรกิจมาจัดแสดงจากกลุ่มธุรกิจต่างๆ อาทิ อาหาร เครื่องจักร เทคโนโลยี เครื่องมือ เครื่องใช้ไฟฟ้า บรรจุภัณฑ์ เครื่องครัว ของตกแต่ง การท่องเที่ยว เวชภัณฑ์ สุขภาพ ความงาม เสื้อผ้าและแฟชั่น เป็นต้น “สำหรับผลิตภัณฑ์และบริการที่โดดเด่น มีชื่อเสียง และปัจจุบันไทยได้นำเข้าจากประเทศตุรกีมากที่สุด ได้แก่ เครื่องจักรกล เรือ อัญมณี เงินและทองแท่ง เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องประดับ และสิ่งทอด้วยคุณภาพและราคา จึงทำให้ตลาดเหล่านี้เป็นที่ต้องการมากในประเทศไทย ดังนั้น หากนักธุรกิจ นักลงทุน หรือบุคคลทั่วไปที่สนใจ ยังนึกไม่ออกว่าจะทำธุรกิจใดดีกับประเทศตุรกีสามารถเข้ามาศึกษาได้ในงานดังกล่าว” นายอาซัน กล่าวเสริม

ในด้านเศรษฐกิจและการค้าของประเทศตุรกี ณ ปัจจุบัน นายอาซัน ยิลเมซ ผู้อำนวยการฝ่ายงานนิทรรศการและความสัมพันธ์ หอการค้าอิสตันบูล ประเทศตุรกี กล่าวว่า “นโยบายการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับตุรกียังคงแน่นแฟ้น และมีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน ตุรกีมี GDP ที่เติบโตเร็วมาก แม้ว่าจะมีปัญหาจากวิกฤตยูโรโซน (EuroZone) ทำให้ตุรกีได้รับผลกระทบบ้าง เพราะภาคอุตสาหกรรมหลักเชื่อมโยงกับฝั่งยุโรป แต่ก็ยังมีตัวเลขการเจริญเติบโตที่น่าสนใจ โดยคาดการณ์ว่าตุรกีจะมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในประเทศกลุ่ม "โออีซีดี (OECD* – Organization for Economic Co-operation and Development) ภายในปี พ.ศ. 2559 (องค์กรระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว และยอมรับระบอบประชาธิปไตยและเศรษฐกิจการค้าเสรีในการร่วมกันและพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภายุโรปและโลก มีสมาชิกประเทศยุโรปตะวันตกจำนวน 19 ประเทศ เป็นผู้ลงนาม ได้แก่ ออสเตรีย, เบลเยี่ยม, เดนมาร์ก, ฝรั่งเศส, กรีซ, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ลักเซมเบิร์ก, นอร์เวย์, เนเธอร์แลนด์ ,โปรตุเกส, อังกฤษ, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, ตุรกี, สหรัฐอเมริกา,เยอรมนีตะวันตกและแคว้นอิสระของตรีเอสเต) “

ท้ายที่สุด สำหรับผู้สนใจที่จะดำเนินธุรกิจ การค้าและการลงทุนกับประเทศตุรกี สามารถติดตามข้อมูลความรู้เกี่ยวกับประเทศ ผลิตภัณฑ์ บริการ และการค้า การลงทุนต่างๆ ได้ที่แฟนเพจ TurkishExpoInThailand หรือพิมพ์ www.facebook.com/TurkishExpoInThailand หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ ฝ่ายบริหารการจัดงาน โทรศัพท์ 02-203-4260 และ 02-203-4263

-กผ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net