MSCI แนะกองทุนปรับระบบบริหารความเสี่ยง รับความผันผวนในโลกการลงทุนยุคใหม่

09 Jul 2013

กรุงเทพฯ--9 ก.ค.--เอ็มเอสซีไอ

MSCI ชี้ปัจจุบันการลงทุนทั่วโลกมีความเชื่อมโยงกัน และซับซ้อนมากขึ้น แนะปรับกลยุทธ์บริหารความเสี่ยงทั้งประเภทสินทรัพย์ (Asset Class) สัดส่วนการลงทุน (Rebalance) อย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างระบบการบริหารความเสี่ยงแบบรวมศูนย์ เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน และรักษาผลตอบแทนให้ยั่งยืนในระยะยาว

นายราช มังฮานี กรรมการผู้จัดการ เอ็มเอสซีไอ (MSCI) กล่าวในงาน GPF Symposium 2013 ว่า การลงทุนทุกวันนี้มีความเชื่อมโยงถึงกัน และซับซ้อนมากขึ้น เมื่อสถาบันการเงินใดประสบปัญหาทางการเงินจะส่งผลกระทบต่อตลาดการลงทุนทั้งในประเทศและนอกประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“วิกฤติการเงินที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่า กองทุนและสถาบันการเงินต่างๆ บริหารจัดการความเสี่ยงองค์รวมแบบไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ นักลงทุนไม่ค่อยมีความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ที่เข้าไปลงทุนมาก ทำให้ไม่สามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงซ่อนเร้นของสินทรัพย์ที่ลงทุน ดังนั้นหากต้องการให้หลุดพ้นจากความผันผวน หรือความไม่แน่นอนของการลงทุนในอนาคต ก็ต้องจดจำข้อผิดพลาดในอดีต พยายามหลีกเลี่ยง อย่าให้ซ้ำรอยเดิม และต้องสร้างภูมิคุ้มกันความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุนมากขึ้น (Robust Portfolio) การบริหารจัดการความเสี่ยงถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาว” นายราชกล่าว

สำหรับแนวทางบริหารความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนนั้น นายราช มีข้อแนะนำ ดังนี้

  • พิจารณาปัจจัยความเสี่ยงของสินทรัพย์การลงทุนแต่ละประเภท (Asset Class) ซึ่งมีผลกระทบต่อผลตอบแทนระยะยาว และต้องลงรายละเอียดของสินทรัพย์ในประเภทหรือชนิดเดียวกันอย่างลึกซึ้ง จะช่วยให้ผู้จัดการกองทุนเข้าใจมากขึ้นว่า ปัจจัยตัวใดที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง และมีนัยยะต่อผลตอบแทนมากที่สุด
  • หลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความซับซ้อนมากเกินไป เข้าใจยาก หรือมีข้อมูลไม่เพียงพอ เพื่อลดความเสี่ยง เพราะหากเกิดวิกฤตการณ์อาจจะสร้างความเสียหายได้มากกว่า
  • ปรับสัดส่วนการลงทุน (Rebalance) อย่างสม่ำเสมอ เพื่อลด หรือ เพิ่มความเสี่ยงในสถานการณ์ต่างๆ
  • สร้างระบบการบริหารความเสี่ยงแบบรวมศูนย์ (Integrated Risk Management) ที่รวมศูนย์ตั้งแต่การมองภาพใหญ่ไปจนถึงภาพย่อยๆ โดยฝ่ายลงทุนกับฝ่ายบริหารความเสี่ยงการลงทุนต้องทำงานร่วมกัน และควรสร้างเครื่องมือที่คอยเตือนความเสี่ยงประเภทต่างๆ ทำรายงานสถานะความเสี่ยงการลงทุน (Risk dashboard) เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงในทุกมุมมอง รวมถึงต้องตรวจตราการกระจุกตัวของความเสี่ยงด้วย ทั้งนี้ ระบบการบริหารความเสี่ยงแบบรวมศูนย์ที่ดีทำให้สามารถวิเคราะห์ผลกระทบของสถานการณ์ต่างๆ ที่มีผลต่อการลงทุน (Scenario Analysis) และวิเคราะห์ผลกระทบในสถานการณ์วิกฤติ (Stress Test) เพื่อประโยชน์ในการบริหารการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น -กภ-