กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--สค.พม.
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดย สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง พนักงานสอบสวนหญิงกับการพิทักษ์สิทธิเด็ก สตรี ครอบครัว และผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ เพื่อยกระดับบทบาทพนักงานสอบสวนหญิงที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิเด็ก สตรี ครอบครัว และการพัฒนาระบบการจัดทำฐานข้อมูล เมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๖ ณ โรงแรมปริ๊นซ์ พาเลซ มหานาค กรุงเทพฯ โดยมีภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมสัมมนา ประกอบด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มูลนิธิเพื่อนหญิง UN Women และสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว
นายสมชาย เจริญอำนวยสุข ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เปิดเผยว่า ปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี บุคคลในครอบครัว และผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ นับวันยิ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ทั้งในสังคมไทยและสังคมโลก ปัญหาดังกล่าว ไม่เพียงแต่จะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ยังส่งผลกระทบต่อการพัฒนาคนและสังคมโดยรวม ความละเอียดอ่อนซับซ้อนของปัญหาซึ่งมีหลายมิติ เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันทั้งในบริบทของสังคมและกฎหมาย การที่จะเข้าถึงแก่นของปัญหาได้อย่างแท้จริงนั้น เป็นเรื่องท้าทายที่จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือและความมุ่งมั่นอย่างจริงจังของทุกภาคส่วน ทั้งในระดับนโยบายและการปฏิบัติในหลากหลายสาขาวิชาชีพที่จะเข้าไปร่วมจัดการกับปัญหา
นายสมชาย กล่าวต่อไปว่า ภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ คือรับผิดชอบดูแลคนในสังคม จึงได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ตั้ง OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคม ซึ่งทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคม ๔ ประเด็น ได้แก่ การตั้งครรภ์ไม่พร้อม การค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก และการใช้ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และคนพิการ แต่ละประเด็นจะมีเจ้าภาพหลัก โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นเจ้าภาพหลักดูแลเรื่องการใช้ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และคนพิการ มีศูนย์กลางดำเนินการในกรุงเทพมหานคร คือ ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันการกระทำ ความรุนแรงในครอบครัว กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และในส่วนภูมิภาค คือ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ภายใต้ระบบ OSCC เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบปัญหา
“ การประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ครั้งนี้ นับเป็นการยกระดับบทบาทพนักงานสอบสวนหญิงที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิเด็ก สตรี ครอบครัว รวมถึงการพัฒนาระบบการจัดทำฐานข้อมูล และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือภาคีเครือข่าย ที่สำคัญ ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มูลนิธิเพื่อนหญิง UN Women และสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ที่มีส่วนร่วมในการทำให้การจัดประชุมฯ สำเร็จลุล่วงบรรลุเป้าหมายด้วยดี ” นายสมชาย กล่าวทิ้งท้าย.-นท-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit