กรุงเทพฯ--27 มิ.ย.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ผลประชุมสมัชชาเอฟเอโอเห็นชอบเสนอที่ประชุมยูเอ็นประกาศให้วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันดินโลก และปีดินสากลในปี 2558 ก.เกษตรฯเดินหน้าขยายความร่วมมือเอฟเอโอควบคุมโรคระบาดสัตว์ลามสู่คนและพัฒนาขีดความสามารถด้านการเกษตร
นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในโอกาสที่เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเดินทางเข้าร่วมประชุมสมัชชาองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ เอฟ เอ โอ สมัยที่ 38 ระหว่างวันที่ 16 – 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา ที่นอกจากจะเป็นการประชุมเพื่อผลักดันแผนงานโครงการจัดการด้านความมั่นคงอาหารของกลุ่มประเทศสมาชิกแล้ว ยังมีวาระการประชุมที่สำคัญ คือ สมัชชา เอฟ เอ โอ ได้มีมติเห็นชอบเสนอวาระการประกาศให้วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันดินโลก (World Soil Day) และให้ปี 2558 เป็นปีดินสากล (International Year of Soils 2015) เข้าสู่ที่ประชุมสหประชาชาติ (UN) ที่จะมีขึ้นในเดือนกันยายนนี้ เพื่อให้ประชาคมโลกได้รับรู้รับทราบและตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรดินอันเป็นฐานของความมั่นคงด้านอาหาร ความหลากหลายทางชีวภาพ และการดำรงชีวิตของมนุษย์ ตลอดจนเป็นการเทิดพระเกียรติองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯที่ทรงงานด้านดินและได้องค์ความรู้ที่ประโยชน์ต่อประชาคมโลก ซึ่งรัฐบาลไทยได้เล็งเห็นความสำคัญในการจัดการดินโดยถือว่าเป็นนโยบายที่สำคัญ โดยขอให้ เอฟ เอ โอ สนับสนุนการรณรงค์เรื่องทรัพยากรดิน และนำเรื่องนี้ไปบรรจุในวาระการประชุมของสหประชาติเพื่อประกาศให้มีการดำเนินการต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นกระทรวงเกษตรฯ ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดินและสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศประจำกรุงโรมจัดตั้งเป็นคณะทำงานเพื่อประชุมหารือเตรียมงาน กำหนดแผนงานกิจกรรมต่างๆ ให้พร้อมภายในปี 2557 เพื่อเป็นการเตรียมการและเตรียมความพร้อมในการจัดกิจกรรมสำหรับปีดินสากลที่จะเกิดขึ้นในปี 2558
นายยุคล กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากนี้ยังมีการหารือร่วมกับนายโจเซ่ กราเซียอาโน ดา ซิลวา ผู้อำนวยการใหญ่องค์การเกษตรและอาหารแห่งสหประชาชาติ ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันที่จะร่วมขับเคลื่อนโครงการที่ดำเนินการอยู่แล้วต่อเนื่องไปอีก ได้แก่ โครงการเกี่ยวกับการประเมินความเสี่ยงและการติดตามเฝ้าระวังโรคสัตว์ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งประกอบไปด้วย การจัดระบบควบคุมเคลื่อนย้ายปศุสัตว์ระหว่างประเทศ การเฝ้าระวังโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เช่น โรคไข้หวัดนก (H7N9) โรคนิปาห์ไวรัส (Nipah Virus) อันสอดคล้องกับแนวทาง OneHealth ที่องค์กรระหว่างประเทศให้ความสนใจและขับเคลื่อน รวมทั้งโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมของเกษตรกรรายย่อยที่ประเทศไทยได้รับมอบหมายให้เป็นศูนย์กลางการอบรมแก่ประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งยังจะร่วมมือในการขจัดความอดอยากหิวโหยและการลดภาวะทุพโภชนาการ โดยการยกระดับความมั่นคงทางอาหาร ผ่านนโยบายโซนนิ่งภาคเกษตร ทั้งภายในประเทศและภูมิภาคอาเซียนอันเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือทางเศรษฐกิจในระหว่างประเทศกำลังพัฒนาด้วย ที่สำคัญยังเห็นร่วมกันจัดให้มีเจ้าหน้าที่ประสานงานประจำสำนักงานที่ปรึกษาเกษตรประจำเอฟเอโอเพิ่มขึ้น อันเป็นการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเพื่อการทำงานในองค์ระหว่างประเทศและสนับสนุนการสร้างขีดความสามารถของประเทศไทยในเวทีระดับโลกต่อไป
“เอฟ เอ โอ ได้แสดงความชื่นชมที่ประเทศไทยได้แสดงความรับผิดชอบต่อประเทศเพื่อนบ้านในเป็นผู้นำการพัฒนาเกษตรกรรมให้มีระดับความมั่นคงทางอาหารเพิ่มขึ้นผ่านโครงการความร่วมมือด้านต่างๆ และยินดีที่ผู้แทนถาวรประเทศไทยประจำเอฟเอโอได้รับการมอบหมายจากที่ประชุม Global Soil Partnership Assembly ให้เป็นประธาน ซึ่งคณะทำงานชุดนี้ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านดินจากทั่วโลก โดยจะผลักดันให้มีการจัดทำข้อมูล กรอบแนวทางการลดความเสื่อมโทรมและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรดินของโลกอย่างยิ่งยืน”.-นท-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit