กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--โฟร์ ฮันเดรท
“ไบโอคอส กรุ๊ป” ผู้นำธุรกิจสุขภาพและความงามแบบครบวงจร เจ้าของ 3 แบรนด์ธุรกิจความงามชั้นนำที่ได้ผลการตอบรับดีเกินคาด ด้วยอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว เผยรายได้ ครึ่งปี 56 คว้ารายได้กว่า 400 ล้านบาท โดยมีอัตราเติบโตกว่าร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทั้งการขยายสาขา ขยายไลน์ของบริการและผลิตภัณฑ์ พร้อมดันแบรนด์ล่าสุด “Beauty Story" (บิวตี้ สตอรี่) ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ความงามแบบ Express Beauty รองรับเทรนด์ความงามที่ต้องการความรวดเร็วโดยมืออาชีพ ด้วยการเป็นผู้นำตลาดสุขภาพและความงามแบบครบวงจร โดยทุกแบรนด์เน้นการบริการแบบ one stop service พร้อมตั้งเป้าขยายสาขาสู่หัวเมืองใหญ่ครอบคลุมทุกภาคทั่วประเทศ เพื่อรองรับทุกไลฟ์สไตล์ความงาม และร่วมทุนพันธมิตรรุกธุรกิจความงามในต่างประเทศ มั่นใจปีนี้ลูกค้าเพิ่มกว่าร้อยละ 50 หวังยอดขายรวมทะลุ 1,000 ล้านบาทแน่นอน
นางสาวสิเรียม ภักดีดำรงค์ฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ไบโอคอส กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจด้านสุขภาพและความงาม ซึ่งประกอบด้วย “สลิมมิ่งพลัส” สถาบันดูแลรูปร่างและผิวพรรณครบวงจรเป็นธุรกิจหลักของบริษัท,“ไบโอคอสโปรเฟสชั่นแนล”ธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามคุณภาพระดับพรีเมียมจากแบรนด์ชั้นนำของยุโรป และ “อาเมทิส” คลับสุขภาพและความงามครบวงจร กล่าวว่า “ธุรกิจความงามและสุขภาพยังครองแชมป์การเติบโต ถือได้ว่าเป็นธุรกิจดาวรุ่ง หลังกระแสความต้องการขยายตัวสูงขึ้นทั้งระดับประเทศและภูมิภาค คาดมูลค่าตลาดรวมจะมีอัตราเติบโตสูงขึ้น กว่า 1 เท่าตัวในปีนี้ ด้วยนโยบายของภาครัฐที่พร้อมผลักดันให้ไทยก้าวสู่ การเป็น “ศูนย์กลางธุรกิจด้านสุขภาพและความงามของอาเซียน” นั้น ส่งผลให้ธุรกิจเกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ในทุกกลุ่มกำลังซื้อ ทำให้เกิดความสะดวก ซึ่งปัจจุบัน ผู้บริโภคทั้งชายและหญิงหันมาดูแลสุขภาพและความงามเพิ่มขึ้นเช่นกัน”
ในช่วงครึ่งปีแรก 2556 ที่ผ่านมา ตลาดด้านสุขภาพและความงามมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย ไบโอคอส กรุ๊ป มีอัตราการเติบโตตามตลาดเช่นเดียวกัน เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ15 สัดส่วนรายได้ในแต่ละ แบรนด์ในไบโอคอส กรุ๊ป ได้แก่ สลิมมิ่งพลัส ร้อยละ 55 ,ไบโอคอสโปรเฟสชั่นแนล ร้อยละ 20 , อาเมทิส ร้อยละ 15 และบิวตี้สตอรี่ ร้อยละ10 ซึ่งอัตราการเติบโตดังกล่าว สืบเนื่องมาจากการตอบรับกระแสเทรนด์ความงามด้านรูปร่างและผิวพรรณที่นิยมความขาวใสแบบธรรมชาติและสุขภาพดี และต้องการผลลัพธ์รวดเร็วเนื่องจากมีเวลาที่จำกัด ขณะเดียวกันก็ต้องการความปลอดภัยและยังคงให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ และสนใจการดูแลความงามเฉพาะจุดมากยิ่งขึ้น ซึ่งแบรนด์ในเครือของบริษัทล้วนเป็น แบรนด์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค อีกทั้งยังมีความโดดเด่นในการนำเข้านวัตกรรมทางด้านเครื่องมือและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง อาทิ “สลิมมิ่งพลัส” มุ่งเน้นให้บริการด้านการดูแลรูปร่างและผิวพรรณครบวงจรตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า มีโปรแกรมทรีตเม้นท์ต่างๆ ที่ค่อนข้างตอบโจทย์ลูกค้าได้หลากหลาย และมีสาขาให้บริการครอบคลุมทุกพื้นที่ จำนวน 26 สาขา เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการสาขาที่สะดวกมากที่สุด สำหรับ “อาเมทิส” เป็นคลับสุขภาพและความงามระดับพรีเมี่ยมสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ โดยมีที่ปรึกษาความงามเฉพาะรายบุคคลทั้งทางด้านรูปร่าง ผิวพรรณ โภชนาการ และการออกกำลังกาย โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านและเทคโนโลยีระดับโลก เช่น ไมเนอว่า เทคโนโลยีที่ได้การรับรองมาตรฐานจาก USA ช่วยดูแลรูปร่างกระชับทุกสัดส่วนอย่างสมบูรณ์แบบ สามารถเห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ Ultrashape เทคโนโลยีสลายเซลล์ไขมันอย่างถาวร หรือ Davinci เทคโนโลยีสำหรับผิวหน้าที่ช่วยกระตุ้น คอลลาเจน อิสาสติน ทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้น หน้ากระจ่างใส ดูอ่อนวัย นอกจากนั้นเรายังมีการกิจกรรมเวิร์คช็อปด้านสุขภาพและความงามให้กับกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง , ส่วนทางด้านผลิตภัณฑ์ เรายังคงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับ Algotherm แบรนด์ความงามระดับโลกจากฝรั่งเศส โดยนำเข้าในนาม ไบโอคอสโปรเฟสชั่นแนล ซึ่งเป็นแบรนด์ในเครือที่นำเข้าผลิตภัณฑ์ความงามคุณภาพระดับพรีเมียมมากกว่า 160 SKU จำหน่ายในรูปแบบซาลอน และรีเทลให้กับโรงแรม สปาและสถาบันความงามชั้นนำทั่วประเทศ โดยล่าสุดมีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ใหม่ ชื่อว่า Algoblanc ที่ช่วยลดรอยจุดด่างดำมาตอบรับเทรนด์ด้านความขาวใสและผ่านการพิสูจน์แล้วว่าเหมาะกับผิวคนไทย
พร้อมกันนี้ “ไบโอคอส กรุ๊ป” ได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ล่าสุด “บิวตี้ สตอรี่” (Beauty Story) เพื่อตอบโจทย์ความงามแบบ Express Beauty ตอบรับเทรนด์ความงามที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว โดยให้บริการความงามที่มุ่งเน้นการสร้างความนุ่มนวล และเรียบเนียนของสุขภาพผิวพรรณเฉพาะจุด เช่น มือและเท้า เพื่อสร้างความมั่นใจแบบ 360 องศา ในผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรก ด้วยบริการด้านผิวพรรณที่หลากหลาย อาทิ Wax ,Paraffin, Hand & Nail , Special Treatment โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ กลุ่มวัยทำงานจนถึงแม่บ้าน กลุ่มเป้าหมายรอง ได้แก่ นักศึกษา โดยมีจุดเด่น คือ ความหลากหลายของทรีทเม้นท์ที่ดูแลปัญหาผิวพรรณเฉพาะจุดสำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัด ต้องการอวดความสวยอย่างมั่นใจ รวมถึงผลลัพธ์ที่ได้หลังรับบริการเป็นที่น่าพอใจทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุดมากขึ้น ปัจจุบันเริ่มเปิดให้บริการ “บิวตี้สตอรี่” แล้วจำนวน 3 สาขา ได้แก่ เดอะมอลล์บางกะปิ แฟชั่นไอส์แลนด์ เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 โดยบริษัทใช้งบลงทุนอยู่ที่ 3-5 ล้านบาทต่อสาขา และตั้งเป้าขยายสาขาอย่างน้อย 5 แห่ง ภายในปีนี้
“ไบโอคอส กรุ๊ป” ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบคุณภาพมาตรฐานระดับสากล ทั้งภายในและภายนอกองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการให้บริการของทุกแบรนด์ ตั้งแต่การพัฒนาบุคลากร เฉพาะด้าน อย่างเช่น นักกายภาพ และโภชนากร ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งขององค์ความรู้ที่ให้ความสำคัญมาก เพราะต้องทำหน้าที่ตรวจวิเคราะห์สุขภาพ และออกแบบโปรแกรมที่เหมาะสมตามปัญหาของลูกค้าแต่ละราย สามารถทำให้ลูกค้าที่มารับบริการพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น โดยทุกหน่วยงานต้องผ่านการเทรนนิ่งตามหลักสูตร อย่างน้อย 3 เดือน และผ่านการทดสอบตามมาตรฐานของ ไบโอคอส กรุ๊ป ก่อนออกไปประจำสาขา นอกจากนี้ ยังได้นำเข้าอุปกรณ์และนวัตกรรมใหม่ๆจากยุโรปที่ช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า ในการดูแลรูปร่างและผิวพรรณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในส่วนของเป้าหมายทางธุรกิจและแผนการตลาด ไบโอคอส กรุ๊ป ตั้งเป้ายอดขายรวมในปี 2556 ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท เน้นกลยุทธ์การตลาดแบบครบวงจรทั้งในส่วนของ Above the line และ Below the line ที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยจัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นลูกค้าใหม่และเก่าด้วยกลยุทธ์ CRM และ CEM เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและให้ลูกค้าเกิดประสบการณ์ที่ดีร่วมกับแบรนด์รวมถึงการขยายสาขารองรับการให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และฐานลูกค้าใหม่ โดยสลิมมิ่งพลัสจะขยายตั้งเป้าสาขาครบ 30 สาขา ทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด Beauty Story ขยายครบ 5 สาขา ภายในปีนี้คาดว่าจะสร้างรายได้พร้อมแผนร่วมทุนกับพันธมิตรรุกธุรกิจความงามทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งไบโอคอส กรุ๊ป ได้ศึกษาและวางโมเดลรับการขยายธุรกิจสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) แล้วกว่า 80% อาทิ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ลาว เวียดนาม และพม่า โดยมองความต้องการของตลาดในแต่ละประเทศเป็นหลัก ดังนั้นการขยายสาขาเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ จึงมีทั้งการเลือกใช้กลยุทธ์ตั้งรับภายในประเทศ และรุกไปต่างประเทศไปด้วยพร้อมๆ กัน” นางสาวสิเรียม กล่าวปิดท้าย
-กผ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit