กรุงเทพฯ--1 ก.ค.--19 มีเดีย
เสียงใสๆ ผสมผสานลีลาการเล่านิทานที่แสนน่ารัก เป็นธรรมชาติ สดใสของเด็กๆ ท่ามกลางความปลาบปลื้มใจของพ่อแม่และความประทับใจของคณะกรรมการฯ เป็นภาพที่เกิดขึ้นทุกๆ ปีบนเวทีประกวดการเล่านิทานในโครงการ “ลับสมอง ประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน” ซึ่งสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ ได้ร่วมกับมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา และนิตยสาร Mother & Care จัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีหนูน้อยนักเล่านิทานตัวน้อยๆ เกิดขึ้นอย่างมากมายจากเวทีนี้ทั้งบนเวที ภายในบ้าน และที่โรงเรียน การจะเล่านิทานได้ ต้องเริ่มจากการอ่าน โครงการ“ลับสมอง ประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน” จึงเป็นอีกโครงการที่มุ่งเน้นกระตุ้นและส่งเสริมให้เด็ก พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตระหนักถึงความสำคัญของการอ่าน รวมไปถึงส่งเสริมความรักความผูกพันในครอบครัว จากการเล่านิทาน และอ่านหนังสือร่วมกัน
นอกจากนี้ ยังเป็นการเปิดเวทีให้เด็กได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ผ่านการเล่านิทานอย่างเป็นธรรมชาติ สดใส สมวัย อันเป็นการต่อยอดจากการที่พ่อแม่เล่านิทานอ่านหนังสือให้ลูกฟังที่บ้าน เด็กๆ และคุณครูได้ร่วมกันเล่านิทานอ่านหนังสือที่โรงเรียน แล้วต่อยอดเป็นกระบวนการสร้างสังคมรักการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทย
ดร.ทัศนัย วงศ์พิเศษกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ และผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ กล่าวว่า ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาเราได้ร่วมมือกันทำให้โครงการนี้เป็นโครงการที่จะพัฒนาศักยภาพของเด็กผ่านการเล่านิทาน เพราะก่อนที่เด็กจะเล่านิทานได้ เขาต้องเริ่มจากการอ่าน ซึ่งการอ่านเปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกของการเรียนรู้ และการอ่านยังเป็นรากฐานแห่งปัญญาให้กับเด็กๆอีกด้วย นอกจากนี้เวทีเรายังเน้นมากคือ “การแสดงออกที่แสดงถึงความเป็นธรรมชาติของเด็ก”
“ หนูน้อยนักเล่าจะมีลักษณะพิเศษไม่เหมือนโครงการอื่นๆ เพราะเราเน้นตลอดเวลาว่า ลีลาต้องเป็นธรรมชาติ กล้าแสดงออก และ 7 ปีที่ผ่านมาทำให้เราได้เห็นว่า เด็กๆ ที่ผ่านการโครงการนี้จะมีความมั่นใจในตัวเอง มีศักยภาพในเรื่องของการเล่านิทาน การใช้ภาษาที่เห็นได้อย่างชัดเจน ตรงนี้คือสิ่งที่คิดว่าผู้จัดโครงการได้ภาคภูมิใจที่มีส่วนพัฒนาศักยภาพที่แท้จริงของเด็ก”
สำหรับปีนี้ การประกวดเล่านิทานโครงการ “ลับสมอง ประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทานครั้งที่ 8 ”จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “อ่านเล่น เล่าสนุก ปลุกสมอง” ซึ่งมีความพิเศษมาก คุณสรวงมณฑ์ สิทธิสมาน บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Mother & Care ในฐานะผู้ริเริ่มโครงการให้รายละเอียดว่า
“ ปีนี้เป็นปีพิเศษ เราใช้ชื่อว่า “อ่านเล่น เล่าสนุก ปลุกสมอง” มีความเป็นมาพิเศษ... ทำไมต้อง “อ่านเล่น” อ่านเล่นเพราะว่า อยากให้เรื่องของการอ่านเข้ามาสู่ตัวเด็ก เป็นเหมือนการเล่น พ่อแม่ก็สามารถเอาเรื่องอ่านมาเล่นได้แบบสบายๆ ในขณะเดียวกันเล่า “เล่าสนุก” ทำไมต้องเล่าสนุก เพราะฉะนั้นคือลีลาการเล่าต้องสนุกด้วย พ่อแม่ควรจะเล่านิทานให้ลูกฟังด้วยความสนุกสนานจนถึงวันที่เขาลุกขึ้นมา เขาจะได้เล่าให้เราฟังอย่างสนุกค่ะ แล้วสุดท้าย “ปลุกสมอง” การอ่านเล่น การเล่าสนุก มันคือการปลุกสมองขึ้นมาค่ะ ให้เกิดการเรียนรู้ที่ดีอย่างเหมาะสม นี่เป็นเป้าหมายที่เราต้องการให้เกิดขึ้นในโครงการลับสมองประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทานค่ะ เราต้องการเฟ้นหาหนูน้อยนักเล่านิทานที่มีลีลาการเล่าที่สนุก ลีลาที่เป็นธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่ง เพราะฉะนั้น ถ้าอยากให้ลูกหลานของเราลุกขึ้นมา แล้วใช้ศักยภาพในเรื่องของการเล่าการอ่านที่สนุกสนานนะคะ เราต้องเป็นคนเริ่มอ่าน ก็ฝากด้วยนะคะสำหรับหนูน้อยนักเล่านิทานในปีนี้นะคะ ให้เขาได้เล่าอย่างเป็นธรรมชาติ อย่างเป็นตัวตนของเขา ไม่ต้องไปเสกสรรปั้นแต่งใดๆ เอาธรรมชาติ ลีลาแบบสนุกๆ รับประกันเลยว่าลูกของคุณจะมีความสุข
นอกจากนี้คุณสุธาทิพ ธัชยพงษ์ รองประธานกรรมการมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก องค์กรที่ทำงานด้านการส่งเสริมการอ่านมาอย่างยาวนาน และเป็นหนึ่งในภาคีเครือข่ายผู้ร่วมจัดโครงการมาตั้งแต่ครั้งแรก ยังได้กล่าวถึงพลังของการอ่านและการฟังนิทานสำหรับเด็ก อีกด้วยว่า
“พลังของการอ่านจะต้องเกิดขึ้นจากในครอบครัว ถ้าคุณพ่อคุณแม่อ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่ยังเล็กๆ ก่อนขวบปีแรก เด็กจะคุ้นชินกับนิทาน แล้วก็เสียงของคุณพ่อ คุณแม่ แล้วก็ลีลาของเรื่องนิทานเหล่านั้น เมื่อเขาโตขึ้น อ่านหนังสือเองได้ เขาก็จะสามารถอ่านหนังสือเอง มีนิสัยรักการอ่าน และก็จะนำไปสู่การเล่านิทานได้ ดังนั้น เวทีการประกวดหนูน้อยนักเล่านิทานที่เราจัดขึ้นนี้ จึงเป็นเวทีที่เด็กๆ ได้แสดงศักยภาพ ซึ่งสิ่งที่เราอยากเห็น คือ ความเป็นธรรมชาติ เป็นตัวตนของเด็ก ลีลาทุกอย่างนี้ต้องเกิดจากตัวเด็กเอง และนิทานที่เด็กเลือกจะมาเล่านี้ ควรจะเป็นนิทานเรื่องที่เด็กรักและชอบจริงๆ ทุกอย่างจะออกมาจากภายในของเด็ก เพราะฉะนั้นข้อสำคัญ คือ การเลือกนิทานเรื่องที่จะเหมาะกับเด็ก และเป็นเรื่องที่เด็กชอบ ด้วยจะดีที่สุดค่ะ”
ด้านน้องๆ ที่เคยเข้าร่วมโครงการมาแล้ว ยังมาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ให้ฟังกันอีกด้วย
เริ่มจากน้องหนูนา - ด.ญ. ศุภิสรา แซ่เฮา วัย 8 ขวบจากโรงเรียนอนุบาลราชบุรี เล่าว่า เข้าประกวด 2 ครั้งครั้งแรกตอนลงมาจากเวทีมา คุณแม่บอกว่า ไม่ชนะไม่เป็นไรนะลูก ขอให้ลูกทำให้สุดกำลังก็พอแล้ว พอแข่งอีกครั้งหนูนาก็คว้าความสำเร็จมาได้ท่ามกลางความปลาบปลื้มของครอบครัว และความสุขของเธอเอง และความสำเร็จในการประกวดกับโครงการยังทำให้เธอมีความสุขมากขึ้นด้วย
“ ทำให้หนูมีความสุขมากขึ้น และทำให้เพื่อนๆ มีความสุขด้วย เพื่อนที่ถูกดุบ่อยๆ มาถามหนูว่า หนูนาทำอย่างไร ทำไมไม่โดนคุณครูดุ หนูก็บอกว่า วันนี้เราอยากเล่านิทาน ช่วยมาเล่าเป็นเพื่อนหน่อยซิ เพื่อนก็จะบอกว่า อยากเล่า อยากเล่า ...พอมาเล่าครูก็เห็นว่าเขากล้าแสดงออก และพอไปดูผลการสอบ เขาก็เรียนดีขึ้นค่ะ” หนูน้อยพูดอย่างฉะฉาน
เช่นเดียวกับน้องโอปอ ด.ญ. ปริณดา อินสตุล จากโรงเรียนเขมะสิริอนุสรณ์ ชั้น ป.2 คนนี้เริ่มจากแข่งเป็นคู่กับพี่สาว จากนั้นก็มาสมัครแข่งเดี่ยว ทำให้คว้ารางวัลไปทั้งสองรางวัล นอกจากได้รับรางวัลแล้ว ล่าสุดน้องโอปอยังได้รับทุนเรียนดีจากโรงเรียนให้เรียนฟรีอีกด้วย จากประสบการณ์ที่ผ่านมาน้องโอปอบอกว่าทำให้เธออ่านหนังสือได้ชัดเจนมากขึ้น และคุณครูจะให้ออกไปเล่านิทานให้เพื่อนๆ ฟังที่หน้าห้องเป็นประจำ
ส่วนน้องฟิลลิ่ง ด.ช. นรนิจ กออนุรักษ์ ชั้น ป.3 จากจังหวัดนครปฐม บอกว่าทำให้เขามีความกล้ามากขึ้น เวลาที่ไปอยู่โรงเรียนว่างๆ ครูก็ให้ไปเล่าที่หน้าห้องเรียน เล่าเรื่องหนูน้อยหมวกแดง เรื่องถนัดที่ชนะการประกวดมาด้วย
มาถึงน้องข้าวปุ้น ด.ญ. อาเมลี ฟลอเรนซ์ ฟอน ลีสเฮาท์ คนนี้บอกว่า ทำให้ได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ จากการอ่านนิทาน และรักการอ่านมากขึ้น
สุดท้ายมาถึงการเตรียมตัวเข้าร่วมโครงการ ในฐานะรุ่นพี่ หนูน้อยเหล่านี้ฝากบอกด้วยให้เตรียมตัวให้พร้อม เตรียมนิทานที่ชอบ และที่สำคัญอย่าตื่นเต้น... แต่ถ้าไม่ชนะก็มาประกวดใหม่ในปีต่อไปได้ค่ะ
สำหรับโครงการลับสมอง ประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน ครั้งที่ 8 นี้ เป็นการประกวดเล่านิทานประเภทเดี่ยว แบ่งเป็น 2 ระดับอายุ คือ ระดับอายุ 4-6 ปี และ ระดับอายุ 6-9 ปี โดยจัดการประกวดรอบคัดเลือก ในส่วนกลาง คือ กรุงเทพฯ และระดับภูมิภาค คือ เชียงใหม่ นครราชสีมา และหาดใหญ่ ส่วนรอบชิงชนะเลิศจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ในโอกาสนี้ขอเชิญชวนเด็กๆ ที่รักการอ่านทั่วประเทศ มาร่วมประกวดแสดงความสามารถผ่านการเล่านิทานที่สดใส สมวัย เพื่อเฟ้นหายอดหนูน้อยนักเล่านิทานอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมชิงถ้วยรางวัลและทุนการศึกษา เปิดรับสมัครรอบคัดเลือกทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2556 โดยดาวน์โหลดใบสมัครและสมัครออนไลน์ ที่เว็บไซต์ www.tkpark.or.th หรือwww.motherandcare.in.th หรือสมัครผ่านโรงเรียน และหน่วยงานที่ร่วมโครงการทั่วประเทศ จากนั้นกรอกใบสมัคร ส่งแฟกซ์มาที่เบอร์ 0-2241-3855 หรืออีเมล : [email protected] หรือทางไปรษณีย์ : นิตยสาร Mother & Care อาคาร GM Group เลขที่ 914 ถ.พระราม 5 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. 10300 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 0-2241-8000 ต่อ 327, 341
-กผ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit