เลิศล้ำดูไบเลื่องลืออาหรับ หมู่บ้านไทยปรับสไตล์ทันสมัย

09 Jan 2013

กรุงเทพฯ--9 ม.ค.--เวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น

เลิศล้ำดูไบเลื่องลืออาหรับ หมู่บ้านไทยปรับสไตล์ทันสมัย เวก้าฯก้าวขึ้นเป็นออร์แกนไนเซอร์ระดับอินเตอร์จัดงานให้จีน ฟิลิปปินส์ และ เวียดนามสินค้าและบริการไทยเนื้อหอม ส่งออกสะพัดหลายร้อยล้านในงานโกลบอลวิลเลจดูไบ 2012-2013

เวก้าฯ จัดงานGrand opening เปิดหมู่บ้านไทยยุคใหม่อย่างเป็นทางการ ยิ่งใหญ่ที่สุดนับแต่เคยมีมา

นายอัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด และประธานกรรมการสภานักธุรกิจไทยในสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ แถลงข่าวในงานเปิดหมู่บ้านไทยอย่างเป็นทางการเมื่อเร็วๆนี้ว่า

“ผมมีข่าวดีมอบเป็นของขวัญฉลองปีใหม่2556ให้กับชาวไทยได้ปลื้มใจ หมู่บ้านไทยโฉมใหม่ สไตล์ Thai Modern เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงจากการโหวตเสียงชื่นชมของนักท่องเที่ยวและผู้เข้าร่วมงานจากทั่วโลกกว่า 8 ล้านคนของหมู่บ้านนานาชาติยอดนิยมในงานโกลบอล วิลเลจ ดูไบ 2012/2013 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง หมู่บ้านไทยประมวลความสวยงาม ความสุข ความสนุก ความเพลิดเพลิน ความเลิศรสอุดมสมบูรณ์ มั่งคั่งร่ำรวยไว้ในที่เดียว ด้วยเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมไทยที่โดดเด่นและดึงดูดใจด้วยสันทนาการ นันทนาการ ศิลปวัฒนธรรม การละเล่นขนบประเพณีไทยและการแสดงกว่า100ชุด โดยศิลปินมืออาชีพ ผสมผสานความทันสมัยตามรสนิยมอาหรับ พร้อมท่องไทยไปกับกิจกรรมการประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆที่น่าสนใจ โรงแรมที่พัก การรักษาพยาบาล และข้อมูลต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อนักท่องเที่ยวจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานดูไบ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าในปัจจุบันได้มีนักท่องเที่ยวชาวยูเออีได้เดินทางไปเที่ยวประเทศไทยกว่า 150,000 คนในปีที่ผ่านมา

ภายในหมู่บ้านไทยคัดสรรสินค้าและบริการตรงความต้องการของชาวอาหรับ ทำให้มียอดเงินจับจ่ายใช้สอยสะพัดในงานทันทีหลายร้อยล้านบาท ไม่นับรวมเศรษฐีอาหรับและนักธุรกิจแห่เข้ามาเจรจาการค้าอย่างตื่นตัว ส่งผลให้ยอดออเดอร์ส่งออกโตขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมาร่วมพันล้านบาท คึกคักตั้งแต่วันที่29 ตุลาคม 2555 และยาวไปถึง30 มีนาคม 2556 รวมระยะเวลาร่วม161วัน”

นายอัครวุฒิ เป็นหนึ่งในคนไทยไม่กี่คนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญภูมิภาคตะวันออกกลางที่ได้รับการยอมรับจากประเทศต่างๆในอาหรับและตลาดใหม่โลกมุสลิมมากกว่า10ประเทศ ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของโครงการหมู่บ้านนานาชาติดูไบให้เป็นผู้จัดหมู่บ้านไทยต่อเนื่องยาวนาน จากความสามารถดังกล่าว ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากนานาประเทศอาทิ จีน ฟิลิปปินส์ และ เวียดนาม ก้าวขึ้นเป็นออร์แกนไนเซอร์ผู้จัดงานระดับอินเตอร์ นายอัครวุฒิได้เปิดเผยว่าความสำเร็จที่ทำให้หมู่บ้านไทยปีนี้บูมอย่างสูงสุด มาจากการนำประสบการณ์และบทเรียนในแต่ละปีมาปรับประยุกต์แก้ไขให้มีพัฒนาการและตอบโจทย์ตรงใจกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นชาวอาหรับและนักท่องเที่ยวทั่วโลกมากที่สุด ซึ่งตนจะยังคงไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาให้ดียิ่งๆขึ้นไปอีก เพื่อประเทศของเราจะได้มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับและนำรายได้เข้ามาพัฒนาส่วนต่างๆนำความเจริญโดยรวมสู่ประเทศไทย

“ผมได้นำประสบการณ์ข้อคิดเห็นและผลสำรวจความพึงพอใจของชาวอาหรับที่เข้าชมงานในแต่ละปี มาปรับปรุงเพื่อสร้างหมู่บ้านไทยให้โดนใจชาวตะวันออกกลางมากที่สุด การได้รับแรงสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์และการค้าการส่งออกในภูมิภาคตะวันออกกลาง ทำให้หมู่บ้านไทยประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดในวันนี้และจะดียิ่งๆขึ้นต่อไปครับ”

นายอัครวุฒิกล่าวเพิ่มเติมว่า “ในพิธีเปิดทางการของหมู่บ้านไทย ท่านผู้บริหารทั้งภาครัฐและเอกชนของไทยและอาหรับที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคตะวันออกกลางได้ร่วมเป็นเกียรติ อย่างคับคั่งอาทิ พณฯท่าน เอกอัคราชทุตไทย ประจำกรุงอบูดาบี คุณวราวุธ ชูวิรัช Mr. Saeed Ali bin redha ประธานบริหารโครงการหมู่บ้านนานาชาติ ดูไบ คุณ ทศพร มูลศาตรสาทร กงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ คุณ ณัฐพงศ์ บุญจริง ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองดูไบ คุณ เฉลิมศักดิ์ สุรนันท์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเมืองดูไบ คุณ สมชาย สุขขะสันติกูล ผู้จัดการทั่วไป บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานเมืองดูไบ และสมาชิกสภานักธุรกิจไทยในดูไบ (Thailand business council Dubai)ที่ร่วมให้กำลังใจอย่างอบอุ่น ทำให้ผมซาบซึ้งมากครับ”

หมู่บ้านไทย(Thailand Pavilion) ปี2555-2556 มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมกว่า 200 ราย ซึ่งโดยเป็นเจ้าของธุรกิจสินค้าและบริการที่หลากหลายจากทั่วภูมิภาคของไทย ทั้ง กลุ่มอาหารและผลไม้ไทย กลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่น กลุ่มเครื่องประดับ กลุ่มสินค้าสปา สินค้าตกแต่งบ้าน และร้านนวดสปาไทย เป็นต้น

หมู่บ้านไทย ในงานแสดงสินค้าหมู่บ้านนานาชาติดูไบ (Global Village Dubai) เป็นเสมือนสะพานสำคัญที่เชื่อมโยงธุรกิจ การค้า การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และมิตรภาพจากประเทศไทยสู่ประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ บ.เวก้าฯได้ออกแบบและบริหารจัดการหมู่บ้านไทยอย่างสมบูรณ์พร้อม เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเจ้าของโครงการหลักที่ต้องการจะให้งานแสดงสินค้าหมู่บ้านนานาชาติที่ดูไบนี้เป็นศูนย์รวมของการนัดพบทางวัฒนธรรมและมรดกประจำชาติ และการเฉลิมฉลองด้านสันทนาการความบันเทิง นันทนาการ ของนานาประเทศ นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกนิยมมาเลือกซื้อสินค้าจากแต่ละประเทศได้ เสมือนหนึ่งได้ไปเยี่ยมเยียนประเทศนั้นๆด้วยตัวเอง รวมถึงเป็นศูนย์กลางของการนัดพบเจรจาทางธุรกิจการค้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้เล็งเห็นว่าหมู่บ้านไทยในงานแสดงสินค้าโกลบอลวิลเลจ มีส่วนช่วยผลักดันการส่งออกของสินค้าและบริการไทยในยูเออีได้อย่างมีประสิทธิภาพในวงกว้าง จึงได้ร่วมสนับสนุนการจัดหมู่บ้านไทยอย่างเต็มที่ โดยนางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้มาเยือนงานหมู่บ้านไทยเมื่อเร็วๆนี้พร้อมให้กำลังใจและความมั่นใจในการสนับสนุนจากภาครัฐ

นายอัครวุฒิกล่าวเสริมว่า “ผมได้จัดทำนิตยสารไทยลันดี้ ( Thailandee magazine) ฉบับภาษาอาหรับและภาษาอังกฤษเผยแพร่ในช่องทางสำคัญๆของอาหรับ กลุ่มเป้าหมายเป็นชาวอาหรับเพื่อผลทางภาพลักษณ์และการตลาดของสินค้าและบริการของไทยที่จะมาเปิดตลาดในตะวันออกกลาง รวมบทความสาระน่ารู้ทั้งบันเทิงและข่าวสาร เหมาะกับสินค้าและบริการของไทยที่อยากจะให้ตราสินค้า(Brand)ของตนเป็นที่รู้จักและติดตลาดในอาหรับง่ายและเร็วขึ้น

ปัจจุบันและแนวโน้มอนาคต ประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ได้ให้ความสนใจสินค้าไทย สูงขึ้นเรื่อยๆ นับเป็นโอกาสอันดีของผู้ประกอบการไทยในการสร้างความสัมพันธ์ เรียนรู้วัฒนธรรมและแนวคิดรวมทั้งวิธีการทำธุรกิจของยูเออี โดยดูไบ จะเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญแห่งหนึ่งนำรายได้มหาศาลเข้าประเทศไทย

ยูเออีมีประชากรมากที่สุดในกลุ่มตะวันออกกลาง การเมืองมีเสถียรภาพมั่นคง มีธนาคารมากที่สุดในกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาระเบียน(GCC) ประชากรมีมาตรฐานการครองชีพและมีอำนาจการซื้อสูงมาก อีกทั้งเป็นคู่ค้าอาหรับที่สำคัญที่สุดของไทย ผู้ส่งออกสินค้าทั่วไปของไทยที่จะส่งสินค้าไปยูเออี ต้องเสียภาษีนำเข้า 5% ของราคา CIF แต่การ Re-export สินค้าระหว่างกลุ่ม GCC ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้ายูเออี ที่ผ่านมา “หมู่บ้านไทย”สามารถเป็นตลาดทดลองของผู้ผลิต ผู้ส่งออก กลุ่ม SMEs กลุ่ม OTOP และผู้ประกอบการทั่วไปก่อนจะทำตลาดในอาหรับอย่างจริงจัง โดยยูเออีจะมอบประสบการณ์รอบด้านของการค้าเบ็ดเสร็จก่อนก้าวไปเปิดตลาดกับประเทศใดๆในอาหรับต่อไป

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net