กรุงเทพฯ--10 ม.ค.--ซีแอนด์จี
ซีแอนด์จี ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนก่อสร้างและดำเนินโรงเตาเผามูลฝอยและผลิตไฟฟ้า ทุ่มงบประมาณ 900 ล้านบาท เปิดโรงกำจัดขยะแห่งแรกที่หนองแขม แปรรูปขยะเป็นกระแสไฟฟ้า-วัสดุก่อสร้าง ชูเทคโนโลยีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาตรฐานเดียวกับสหภาพยุโรป
นายหนิง เหอ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีแอนด์จี เอ็นไวรอนเมนทอลโปรเท็คชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนก่อสร้างและดำเนินโรงเตาเผามูลฝอยและผลิตไฟฟ้า เปิดเผยว่า บริษัท ซีแอนด์จีฯ ได้รับสัมปทานจากกรุงเทพมหานครให้เป็นผู้ลงทุนและดำเนินงานโรงเตาเผามูลฝอย พร้อมผลิตไฟฟ้าที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม ของกรุงเทพมหานคร มูลค่าการลงทุนกว่า 900 ล้านบาท โดยได้สัมปทานในระยะเวลา 20 ปี สามารถกำจัดขยะได้ประมาณ 300-500 ตันต่อวัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นแบบก่อสร้าง ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 14 เดือนนับตั้งแตอนุมัติแบบ
“เทคโนโลยีที่นำมาใช้ในการกำจัดขยะนั้นเป็นเทคโนโลยีที่มาตรฐานเดียวกับสหภาพยุโรปที่มีประสิทธิภาพชั้นสูง ซึ่งกระบวนการเผาขยะจะใช้อุณหภูมิในการเผา 850-1,100 องศาเซลเซียส ทำให้สามารถเผามูลฝอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยความร้อนจากการเผามูลฝอยจะผ่านหม้อไอนำหมุนเวียนเกิดเป็นไอน้ำอุณหภูมิสูงป้อนสู่ชุดเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าต่อไป ขณะที่เถ้าหนักที่เหลือจากการเผาไหม้สามารถนำไปแปรรูปเป็นวัสดุก่อสร้างได้ ส่วนขี้เถ้าลอยที่ดักจับได้จะถูกนำไปตรวจสอบ และถูกรวบรวมไว้ไม่ให้ฟุ้งกระจาย และทางบริษัทฯจะนำไปกำจัดตามข้อกำหนดมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมต่อไป เช่นเดียวกับน้ำเสียในโรงงานทั้งหมดจะผ่านกระบวนการบำบัด เพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ โดยไม่มีการปล่อยทิ้งออกมาสู่ภายนอกโรงงาน ขณะที่ไอเสียที่เกิดจากกระบวนการทั้งหมดจะถูกบำบัดจนได้มาตรฐานเช่นกัน"นายหนิง เหอ กล่าว
สำหรับบริษัท ซีแอนด์จี เอ็นไวรอนเมนทอลโปรเท็คชั่น (ประเทศไทย) จำกัด มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศฮ่องกง ถือเป็นผู้มีประสบการณ์ด้านการลงทุน ก่อสร้างและดำเนินโรงเตาเผามูลฝอยและผลิตไฟฟ้า โดยมีบริษัท IFC (บรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ) โดยเป็นสถาบันการเงินในเครือธนาคารโลก (World Bank) เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้น และเป็นผู้สนับสนุนกิจการของบริษัทฯ ซึ่งสามารถยืนยันได้ว่ามาตรฐานโรงงานของซีแอนด์จีเท่ากับมาตรฐานโลกและไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม โดยปัจจุบันดำเนินงานอยู่นับสิบแห่งในประเทศจีน
-กภ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit