กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--สถาบันอนาคตไทยศึกษา
สถาบันอนาคตไทยศึกษา (“สถาบันฯ”) เปิดตัวรายงาน TFF Economic Roundtable จับประเด็นมุมมองและความเห็นสำคัญที่มีต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2556 จากวงสนทนาแบบปิดของผู้ร่วมสนทนาระดับ “มากประสบการณ์” ซึ่งปกติจะไม่ได้มีการเผยแพร่เนื้อหาจากวงสนทนาให้สาธารณะชนทราบเท่าใดนัก เป็นงานอีกรูปแบบหนึ่งที่สถาบันฯ จะจัดทำอย่างต่อเนื่องในปี 2556 เป็นต้นไป เผยหลังจาก Economic Roundtable จะต่อด้วยการนำเสนอประเด็นความเห็นที่น่าสนใจจากวงสนทนาของนักธุรกิจระดับคีย์แมนของไทย (Business Roundtable)
ดร. เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ประธานกรรมการบริหาร สถาบันอนาคตไทยศึกษา เปิดเผยว่า “หนึ่งในงานหลักที่สถาบันฯ จะจัดทำเพื่อนำเสนอต่อสาธารณชนแบบต่อเนื่องในปี 2556 คือ “TFF Roundtable Report” ที่เน้นการรวบรวม จับประเด็น และสังเคราะห์มุมมองและความเห็นสำคัญของผู้ร่วมสนทนาระดับ “ผู้รู้” หรือ “ผู้มากประสบการณ์” ที่ให้เกียรติร่วมพูดคุยและแบ่งปันประสบการณ์แบบลึกๆ ในวงสนทนาแบบปิด ซึ่งบ่อยครั้งที่เนื้อหาดีๆ จากวงสนทนาแบบนี้มักไม่ได้มีการสังเคราะห์และนำมาถ่ายทอดให้สาธารณชนในวงกว้างทราบเท่าใดนัก”
สำหรับงานชิ้นแรกที่ทางสถาบันฯ ขอนำเสนอคือ TFF Economic Roundtable ในหัวข้อ “ส่องเศรษฐกิจไทยปี 2556 : สิ่งที่ต้องจับตามอง และการรับมือกับโอกาสที่มาถึง” ซึ่งได้รวบรวมเนื้อหาและประเด็นความคิดจากเวทีสนทนาแบบปิดจากผู้ร่วมสนทนาที่มีชื่อเสียงในแวดวงเศรษฐกิจ อาทิ ศาสตราพิชาน ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ศาสตรพิชาน ดร. ทนง พิทยะ ดร. ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ คุณสมพล เกียรติไพบูลย์ ศาสตราจารย์ดร. ยงยุทธ์ ยุทธวงศ์ เป็นต้น
ทั้งนี้ ผู้ร่วมสนทนาได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยในปี 2556 ว่าจะยังคงเป็นปีที่เราต้องก้าวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง เนื่องจากยังเป็นอีกปีที่เศรษฐกิจโลกยังคงซบเซา ซึ่งจะต้องส่งผลกระทบโดยตรงกับการส่งออก การท่องเที่ยว และราคาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างแน่นอน ในขณะที่ความหวังว่าการใช้จ่ายภาครัฐจะเป็นตัวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจกลับต้องแลกมาด้วยหนี้สาธารณะก้อนโต ส่วนคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยน่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 4% เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของไทยมักจะเป็นไปตามตัวเลขการส่งออก ซึ่งอิงกับภาพเศรษฐกิจโลก
ในขณะเดียวกัน ได้มีการสนทนาและหยิกยกปัจจัยหลายประการที่เราควรต้องจับตามองในอีก 1-2 ปีข้างหน้าเนื่องจากมีผลกระทบต่อเนื่องกับเศรษฐกิจไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความผันผวนจากการไหลเข้า–ออกของเงินทุนที่มีผลกระทบต่อความผันผวนของค่าเงินบาท เรื่องของนโยบายประชานิยมที่ใช้งบประมาณจำนวนมากเบียดบังทรัพยากรเพื่อการพัฒนาประเทศในระยะยาวแต่กลับกระตุ้นการบริโภคได้เพียงชั่วคราว เรื่องหนี้สาธารณะที่ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงมาจากนโยบายประชานิยมแต่กลับก่อให้เกิดภาระรายจ่ายจำนวนมหาศาลแก่ประเทศ และท้ายสุดคือเรื่องของคอร์รัปชั่นซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทยที่ยังไม่มีแผนการจัดการหรือดำเนินการใดๆ อย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม
อย่างไรก็ดี ผู้ร่วมสนทนาหลายๆ ท่านมีความเห็นว่าไทยยังคงมีโอกาสที่ดีทางเศรษฐกิจรออยู่ข้างหน้า เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างจีน-ญี่ปุ่น ไทยควรใช้โอกาสนี้เพื่อดึงการลงทุนจากญี่ปุ่นมาสู่ประเทศไทยเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เรายังมีโอกาสจากการท่องเที่ยวที่ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีนและรัสเซีย ซึ่งถือเป็นตลาดกลุ่มใหม่ที่เติบโตเร็วและมีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง
แต่การที่ไทยจะคว้าโอกาสนี้ไว้ได้ เราต้องมีการปรับปรุงการบริหารจัดการภาครัฐซึ่งยังขาดธรรมาภิบาลให้มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ต้องพัฒนาประสิทธิภาพการใช้จ่ายภาครัฐและลดการใช้ทรัพยากรที่ไร้ประโยชน์ ต้องเร่งแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น ทั้งในรูปแบบของการปรับปรุงกฎหมายให้มีผลบังคับใช้จริงและการปลูกฝังจิตสำนึกคนไทย และสิ่งสุดท้ายที่สำคัญ คือประเทศไทยต้องการยุทธศาสตร์ในระยะยาวเพื่อสร้างความต่อเนื่องของนโยบาย ความขัดแย้งทางการเมืองทำให้นโยบายรัฐบาลมีแต่นโยบายระยะสั้นและเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ส่งผลให้ประเทศขาดทิศทางในการพัฒนา ถึงแม้ว่าตอนนี้ประเทศไทยจะมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แต่ก็ยังขาดเป้าหมายที่ชัดเจนและขาดแผนงานที่จะรองรับการแปลงแผนไปสู่โครงการที่นำไปปฏิบัติได้จริง
ทั้งนี้ TFF Roundtable Report ฉบับต่อไปจะเป็นการนำเสนอประเด็นความคิดเห็นของผู้นำทางธุรกิจระดับคีย์แมนที่เรียกว่า Business Roundtable โดยคาดว่าจะสามารถเผยแพร่ภายในสิ้นเดือนมกราคม 2556 นี้” ดร. เศรษฐพุฒิ กล่าวสรุป
สำหรับท่านที่สนใจ สามารถอ่านรายละเอียดแบบครบถ้วนของ TFF Economic Roundtable ในหัวข้อ “ส่องเศรษฐกิจไทยปี 2556: สิ่งที่ต้องจับตามอง และการรับมือกับโอกาสที่มาถึง” หรือดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มได้จากเว็บไซด์ของสถาบันอนาคตไทยศึกษา (http://www.thailandfuturefoundation.org)
สถาบันอนาคตไทยศึกษาขอขอบพระคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่ช่วยเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมใดๆ โปรดติดต่อ: สุนทรี ปานนิลวงศ์ / ฐานิดา กมลจรัสกิจ โทร. 02 2645481-3 อีเมล์ [email protected] www.thailandfuturefoundation.org -นท-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit