เรื่องย่อ: คู่กรรม

17 Jan 2013

กรุงเทพฯ--17 ม.ค.--เอ็กแซ็กท์ ซีเนริโอ

อังศุมาลิน ชลาสินธุ์(หนึ่งธิดา โสภณ) เติบโตท่ามกลางความรักของแม่อร(ปวีณา ชารีฟสกุล) กับยาย(โฉมฉาย ฉัตรวิไล) ที่บ้านริมคลองบางกอกน้อย โดยปราศจากความใยดีของหลวงชลาสินธุราช(จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี) ผู้เป็นพ่อที่เป็นนายทหารระดับสูงแห่งกองราชนาวีไทย ที่ไปมีครอบครัวใหม่เพื่อความก้าวหน้าทาง การงาน อังศุมาลินมีเพื่อนชายที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก คือ วนัส(นภัทร อินใจเอื้อ) ก่อนเดินทางไปเรียนต่อ ที่อังกฤษ วนัสได้ขอความรักจากอังศุมาลิน แต่เธอขอให้คำตอบในวันที่เขาเรียนจบกลับมาเสียก่อน โดยทั้งคู่สัญญา ว่าจะรอกัน อังศุมาลินเคยเรียนภาษาญี่ปุ่นกับหมอโยชิ(นาท ภูวนัย) ทันตแพทย์ชาวญี่ปุ่นแถวตลาด ใกล้บ้าน แต่พอเกิดสงครามเขากลับแต่งเครื่องแบบทหารและประกาศตัวว่าเป็นคนของกองทัพญี่ปุ่นผู้รุกราน ทำให้อังศุมาลินผิดหวังและโกรธแค้น วันหนึ่งอังศุมาลินก็ได้พบกับโกโบริ(สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว) เรือเอกหนุ่มประจำกองทัพเรือญี่ปุ่น ที่มาประจำอยู่ที่อู่ต่อเรือใกล้บ้าน อังศุมาลินประกาศตนเป็นศัตรูกับกองทัพญี่ปุ่น เมื่อโกโบริสั่งลงโทษกรอกน้ำมันตาบัว(เกรียงไกร อุณหนันท์) กับ ตาผล(กลศ อัทธเสรี) คนในชุมชนชาวสวนที่อังศุมาลินรู้จัก ซึ่งไปรับจ้างทำงาน แต่กลับช่วยกันขโมยน้ำมันของกองทัพญี่ปุ่น โกโบริรู้สึกรักอังศุมาลินตั้งแต่แรกพบ เค้าพยายามแสดงไมตรีจิตกับครอบครัวของอังศุมาลินมาตลอด เช่น เมื่อยายของเธอป่วยเป็นไข้มาลาเรีย เขาก็พาหมอทาเคดะ(ภูริ หิรัญพฤกษ์) มารักษา ด้วยเหตุนี้แม่กับยายเอ็นดูมองเห็นถึงน้ำใจไมตรีและเรียกขานว่า “พ่อดอกมะลิ”

บ่ายวันหนึ่งขณะที่อังศุมาลินอยู่บ้านคนเดียวก็มีสัญญาณระเบิดดังขึ้น โกโบริมาหาเธอที่บ้านพอดี จึงพาเธอไปหลบภัยที่ท้องร่องในสวน พอดีระเบิดลงใกล้บริเวณนั้นโกโบริเอาตัวกำบังอังศุมาลินไว้ และเอ่ยปากบอกรักอังศุมาลินก่อนที่เขาและเธอจะหมดสติพร้อมกัน หลังเหตุการณ์สงบ แม่กับยายกลับมาจากทำบุญที่วัด พร้อมด้วยยายเมี้ยน(อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ) และชาวบ้าน พวกเขามาพบโกโบรินอนทับอังศุมาลินอยู่ในท้องร่อง ยายเมี้ยนนำเรื่องนี้ไปโพนทะนาจนข่าวแพร่กระจายไปในทางเสื่อมเสียอย่างมาก พอดีหลวงชลาสินธุราชพ่อของ อังศุมาลินกำลังมีปัญหาทางการเมือง เพราะถูกสงสัยว่าเป็นขบวนการเสรีไทย และสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างไทยกับญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงกระทบกระทั่งกันพอดี อีกทั้งโกโบริเป็นตัวอย่างของนายทหารญี่ปุ่นที่มีความสัมพันธ์อันดีกับคนไทย ดังนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองหนุ่มสาวจึงถูกดึงให้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการแก้ไขบรรยากาศความขัดแย้ง หลวงชลาสินธุราชจึงมาเจรจาขอให้อังศุมาลินยอมแต่งงานกับโกโบริด้วยตนเอง เพื่อช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวทั้งหมด เมื่อทุกอย่างบีบคั้นอังศุมาลินจึงยอมตกลงปลงใจแต่งงานกับโกโบริ แต่ในวันหมั้นโกโบริจับได้ว่าอังสุมาลินและพวกพ้องถือโอกาสพาร้อยโทไมเคิล วอร์เด็น(โอลิเวอร์ พูลพาร์ท) เชลยชาวอเมริกันหนีกองทัพญี่ปุ่นไปพบพวกขบวนการเสรีไทยได้สำเร็จ จึงทำให้เขารู้สึกเสียใจกับการกระทำครั้งนี้ของอังศุมาลินเป็น อย่างมาก แต่เพราะความรักที่มีต่ออังศุมาลิน โกโบริจึงยอมเก็บเรื่องทุกอย่างไว้เป็นความลับ ทั้งๆ ที่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นอาจเป็นภัยร้ายแรงกับกองทัพญี่ปุ่น

โกโบริรู้ดีว่าอังศุมาลินมีวนัสอยู่แล้ว เขาตัดสินใจไปหารือกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่เพื่อจะขอยกเลิกการแต่งงาน แต่ก็ไม่เป็นผล การแต่งงานของโกโบริกับอังศุมาลินจึงเป็นไปตามกำหนดการเดิม และในคืนส่งตัวโกโบริก็ปฏิบัติตนเป็นสุภาพบุรุษ ไม่คิดที่จะล่วงเกินอังศุมาลินแม้แต่น้อย

ตาบัวกับตาผลยังหาความเดือดร้อนมาใส่ตัวอีกจนได้ ด้วยการไปพาฝรั่งเยอรมันมาที่กระท่อมในสวน เพราะนึกว่าฝรั่งทุกคนคือศัตรูญี่ปุ่นไปหมด แต่เยอรมันคนนั้นไปแจ้งตำรวจและกองทัพญี่ปุ่น ว่าในสวนนี้มีกระท่อมที่ให้ที่พักกับฝรั่งชาติพันธมิตร จนพวกกำนัน(สรพงศ์ ชาตรี) ซึ่งเป็นพ่อของวนัสกับชาวบ้านต้องช่วยกันรื้อกระท่อมนั้น และจัดงานรำวงขึ้นเพื่อบังหน้า โกโบริเองก็พลอยร่วมมือไปกับเขาด้วยทั้งๆ ที่รู้สึกเจ็บปวดในใจ เขาจึงดื่มเหล้าอย่างหนักและร่วมรำวงอย่างสนุกสนานจนขาดสติ ในคืนนั้นเองโกโบริก็ปลุกปล้ำขืนใจอังศุมาลิน ทั้งเพราะความเมาความรักและความน้อยใจ ทำให้อังศุมาลินยิ่งแสดงความเย็นชาเกลียดชังเขามากขึ้น โกโบริรู้สึกผิดที่ล่วงเกินอังศุมาลิน เค้าจึงมุทำงานอย่างหนักไม่กลับมาค้างที่บ้าน พร้อมกับทำเรื่องขอย้ายไปประจำการที่พม่าเพราะสถานการณ์ที่นั่นกำลังตึงเครียด จากนั้นไม่นานอังศุมาลินก็รู้ตัวว่าตนได้ตั้งท้องลูกของโกโบริ หมอทาเคดะตรวจพบอาการและบอกข่าวดีทุกคน โกโบริดีใจมาก แต่แล้วก็มีข่าวว่าวนัสเป็นหนึ่งในขบวนการเสรีไทยจากอังกฤษที่กระโดดร่มเข้ามาในประเทศไทย และโดนญี่ปุ่นจับได้

อังศุมาลินรู้ว่าโกโบริจะได้เป็นหนึ่งในคณะทหารญี่ปุ่นที่จะทำหน้าที่สอบสวนวนัส เธอจึงเอาลูกมาขู่ว่าหากวนัสมีอันตรายอะไร โกโบริจะต้องตอบแทนอย่างสาสม ก่อนทิ้งตัวให้ตกบันไดที่สูงชันลงมา โชคดีที่เธอและลูกปลอดภัย แต่โกโบริเสียใจมากเขาพยายามเร่งให้ตัวเองได้ย้ายไปพม่าเร็วขึ้น และพูดว่าหากอังศุมาลินไม่ต้อง การเด็ก ก็ให้ส่งไปให้พ่อแม่เขาที่ญี่ปุ่นเลี้ยงก็ได้ ส่วนตัวเธอเขาจะปล่อยให้เป็นอิสระ ได้กลับไปรักกับวนัสตามเดิม อังศุมาลินเริ่มได้คิดและรู้ใจตนว่าที่แท้แล้ว คนที่มีความหมายที่สุดสำหรับเธอก็คือโกโบริและลูกในท้องต่างหาก เธออยากบอกให้เขารู้ว่าเธอรักเขาที่สุด และขอให้เขาเลิกล้มความคิดที่จะย้ายไปจากเมืองไทยเสีย แต่ก็มีอันต้องคลาดกันตลอด เพราะโกโบริเอาแต่หักโหมทำงานเพื่อลืมความทุกข์ในใจ ทั้งสองจึงไม่ได้ปรับความเข้าใจกัน

ในที่สุดวนัสก็พ้นจากการจองจำเพราะความช่วยเหลือของโกโบริ วนัสรีบมาพบอังศุมาลิน เธอดีใจมาก เพราะเธอจะได้ให้คำตอบแก่วนัสตามสัญญาเสียทีว่าเธอรักโกโบริคนเดียวและขอคืนอิสระจากวนัส วนัสบอก ว่าโกโบริเป็นคนดี และอวยพรในความรักของเธอกับโกโบริ พร้อมกำชับให้อังศุมาลินบอกโกโบริว่าอย่าไปสถานีรถไฟบางกอกน้อย เพราะพันธมิตรมีแผนจะทิ้งระเบิดครั้งใหญ่ที่นั่น ทั้งสองไม่รู้ตัวเลยว่าการลักลอบพบกันครั้งนี้อยู่ในสายตาของโกโบริ แต่เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองบอกต่อกัน ภาพที่เห็นจึงทำให้โกโบริเข้าใจผิด จากนั้นอังศุมาลินก็รีบจะไปบอกข่าวดีกับโกโบริว่าเธอเป็นอิสระจากวนัสแล้ว และจะขอเป็นภรรยาที่ดีของเขาคนเดียว แต่ไม่ทันการเพราะ โกโบริได้ออกเรือตรงไปที่สถานีรถไฟบางกอกน้อยแล้ว

อังศุมาลินรีบตามไปที่สถานีรถไฟบางกอกน้อย เมื่อเธอไปถึงปรากฏว่าสถานีรถไฟบางกอกน้อยโดนระเบิดถล่มเสียหายยับเยิน มีทหารบาดเจ็บล้มตายมากมาย อังศุมาลินขอพรลูกในท้องให้ช่วยคุ้มครองพ่อ และตามหาโกโบริอย่างร้อนใจ จนในที่สุดก็พบเขาบาดเจ็บสาหัสนอนจมซากปรักหักพังอยู่ เธอพยายามทำทุกวิธีอย่างสุดกำลังที่จะช่วยให้เขามีชีวิตรอด บทสรุปของความรักที่มาพร้อมสงครามครั้งนี้จะลงเอยเช่นไร? ตามชมได้ในละคร “คู่กรรม” ออกอากาศตอนแรกวันจันทร์ที่ 28 ม.ค.นี้ 20.10 ทางช่อง 5

-กภ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net