สคร.7 เตือน พิษสบู่ดำมีพิษถึงตาย ห้ามรับประทาน

29 Jan 2013

กรุงเทพฯ--29 ม.ค.--สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 อุบลราชธานี

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 เตือนภัย “เมล็ดสบู่ดำ” มีสารพิษอันตราย พิษอาจถึงตาย ห้ามนำมากินอย่างเด็ดขาด เนื่องจากในเมล็ดมีสารพิษเรียกว่าเคอซิน ทำให้เกิดอาการท้องเสีย อาจถึงตาย กำชับผู้ปกครองป้องกันและให้ความรู้ลูกหลาน

นพ.ศรายุธ อุตตมางคพงศ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 อุบลราชธานี เผยว่า ในทุกปีจะมีผู้ป่วยที่ได้รับสารพิษจากเมล็ดสบู่ดำอยู่เสมอเนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนไทย นำสมุนไพรมาใช้ในการดูแลสุขภาพ ทดแทนยาแผนปัจจุบันรวมทั้งการใช้พลังงานทดแทนจากพืช ซึ่งสบู่ดำก็เป็นพืชชนิดหนึ่งที่สามารถนำมาใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคและเป็นพลังงานทดแทนได้ ประชาชนนิยมปลูกต้นสบู่ดำเป็นแนวรั้วบ้าน ชาวบ้านเรียกว่ามะเยา สบู่ขาว มะหัว มะหุ่งฮั้ว สลอดป่า มะหุ่งเทศ ละหุ่งเทศ มาเคาะ ชาวเขมรเรียกว่ากะแย โดยเปลือกลำต้นและใบของสบู่ดำ มีประโยชน์ทางการแพทย์ เปลือกสามารถนำมาต้มใช้รักษาโรคกระเพาะอาหาร สมานแผล แก้เหงือกอักเสบ ส่วนใบของสบู่ดำทำเป็นยาชงแก้ไอ ทำเป็นยาต้มแก้ท้องเสีย ลดไข้ แก้ไอ

นพ.ศรายุธ กล่าวว่า ส่วนที่เป็นพิษของสบู่ดำได้แก่ เมล็ดและยาง โดยผลของสบู่ดำมีลักษณะเป็นพู ส่วนมากจะมี 3 พู เวลาสุกจะมีสีเหลือง ในเมล็ดของสบู่ดำ มีสารโปรตีนที่มีชื่อว่าเคอซิน (Curcin) ส่วนยางสบู่ดำมีสารพิษชื่อโฟบอล อีสเตอร์ (Phorbal ester) หากน้ำยางถูกผิวหนัง จะเกิดอาการระคายเคือง บวมแดง ปวดแสบ ปวดร้อนอย่างรุนแรง หากเข้าตาจะทำให้ตาอักเสบ อาจบอดชั่วคราวได้ ทั้งนี้เมล็ดสบู่ดำ ประกอบด้วยน้ำมัน 35-40 เปอร์เซ็นต์ เนื้อ 55-60 เปอร์เซ็นต์ เมื้อเคี้ยวจะทำให้มีรสชาติมันๆ หลังกินประมาณ 30-60 นาทีจะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเป็นเลือด รายที่มีอาการรุนแรง อาจมีอาการมือเท้าเกร็ง หายใจเร็ว หอบ ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นผิดปกติ อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยอาการรุนแรงมากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณที่กินเข้าไป ในปี 2549 พบเด็กได้รับพิษเนื่องจากกินเมล็ดสบู่ดำกว่า 100 ราย จึงขอเตือนให้ผู้ปกครอง ให้ระมัดระวังลูกหลาน อย่านำเมล็ดสบู่ดำมากินอย่างเด็ดขาด

เนื่องจากมีรายงานพบผู้ป่วยอาหารเป็นพิษจากการกินเมล็ดสบู่ดำทุกปี โดยเฉพาะในเด็กนักเรียน กรมควบคุมโรคจึงขอแนะนำดังนี้

1. สำหรับชุมชนที่ปลูกต้นสบู่ดำไว้ใช้ประโยชน์ หรือโรงเรียนที่ปลูกต้นสบู่ดำไว้สาธิต หรือไว้ประกอบการสอน ต้องติดชื่อต้นไม้ไว้ พร้อมคำแนะนำว่าเป็นพืชมีพิษ ห้ามรับประทานเมล็ด ระวังน้ำยางสบู่ดำถูกผิวหนัง เพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง บวมแดง ปวดแสบปวดร้อนอย่างรุนแรง หากเข้าตาจะทำให้ตาอักเสบ อาจตาบอดชั่วคราวได้

2. โรงเรียนควรล้อมรั้วให้มิดชิด เพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน เพราะเด็กเล็กอาจลองชิมเมล็ดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

3. ครู และผู้ปกครอง ควรระมัดระวังและแนะนำเด็กห้ามนำเมล็ดสบู่ดำมารับประทานอย่างเด็ดขาด

นพ.ศรายุธ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับพิษจากสบู่ดำ หากยางสบู่ดำถูกผิวหนัง ขอให้รีบล้างน้ำและฟอกสบู่ทันที ส่วนผู้ที่ได้รับพิษจากการกินเมล็ดสบู่ดำเข้าไป การช่วยเหลือเบื้องต้น ให้ดื่มนมจำนวนมาก หรือทำให้อาเจียนเพื่อเอาพิษออกจากกระเพาะอาหาร และรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาต่อไป

กรมควบคุมโรค โดย สคร.7 ห่วงใย อยากเห็นคนไทยสุขภาพดี

-กผ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net