กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--จ็อบสตรีท
จ็อบสตรีทดอทคอมตอบรับกระแสโซเชี่ยลมีเดีย ออกแบบหน้าเว็บไซต์ใหม่ช่วยผู้ประกอบการเพิ่มอัตราการเข้าถึงของคนท่องเว็บ เน้นการสร้าง Employer Branding เตรียมพร้อมสู่การแข่งขันการจ้างงานในยุคเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
นางสาวฐนาภรณ์ สถิตพันธุ์เวชา ผู้จัดการสาขาประเทศไทย บริษัท จ็อบสตรีท (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “จากการจัดสัมมนา HR Networking สำหรับผู้ประกอบการเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เราพบว่าสิ่งที่เป็นปัญหาอันดับหนึ่งของฝ่ายบุคคลคือเรื่องการสรรหาบุคลากร ซึ่งรวมถึงเรื่องของการทำอย่างไรให้องค์กรเป็นที่สนใจและดึงดูดใจให้คนเก่งอยากมาร่วมงานด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่การแข่งขันการจ้างงานหลังเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งอาจส่งผลทั้งในแง่ลบและแง่บวกต่อการจ้างงาน และหนึ่งในทางเลือกของฝ่ายบุคคลคือการเริ่มสร้าง Employer Branding เพื่อให้องค์กรของตนนั้นเป็นองค์กรในใจ ที่ผู้หางานอยากมาร่วมงานด้วย”
จากผลสำรวจตัวแทนฝ่ายบุคคลจาก 300 องค์กร ในหัวข้อ ความท้าทายและแนวโน้มการจ้างงานปี 2013 พบว่า 69% มีความวิตกกังวลในเรื่องของการสรรหาและการดึงดูดใจผู้สมัครให้อยากทำงานร่วมกับองค์กร โดย 67% ของฝ่ายบุคคลที่ตอบแบบสอบถามเห็นว่าการใช้กลยุทธ์ Employer Branding เป็นสิ่งจำเป็นและจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้ นอกจากนี้ยังพบว่ามีองค์กรที่เริ่มกลยุทธ์ Employer Branding แล้ว ถึง 24% ในขณะที่ อีก 19% กำลังจะเริ่มดำเนินการในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ยังพบว่า 48% ขององค์กรที่ตอบแบบสอบถามได้รับงบประมาณเพื่อใช้ในการสรรหามากขึ้นในปี 2013 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
นางสาวฐนาภรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากในเรื่องของกลยุทธ์ Employer Branding แล้ว จากการสำรวจยังพบว่า ช่องทางหรือเครื่องมือที่ฝ่ายบุคคลใช้ในการสรรหาบุคลากร นั้น 64% ใช้ไอทีเพื่อช่วยในการ สรรหา โดยแนวโน้มการใช้ช่องทางผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า โซเชียล มีเดีย กำลังมาแรง ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ หรือ ลิงค์อิน ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีองค์กรที่ใช้ช่องทางนี้แล้วถึง 43%”
“สำหรับจ็อบสตรีทดอทคอมเองนั้น ในฐานะที่เป็นสื่อออนไลน์ เราได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่องเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้งานทั้งในส่วนผู้สมัครและองค์กร โดยในปีนี้จ็อบสตรีทดอทคอมได้ออกแบบหน้าเว็บไซต์ใหม่เพื่อเติมเต็มความต้องการให้กับฝ่ายบุคคล โดยในหน้า Company Profile รูปแบบใหม่นี้ จะช่วยดึงดูดใจผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมให้เข้ามาเยี่ยมชมตำแหน่งงานต่างๆ ขององค์กรมากขึ้น และสามารถเพิ่มจำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์หรือ web Traffic ของบริษัทให้มากขึ้นด้วยเทคโนโลยีของ Search Engine ซึ่งหน้า Company Profile รูปแบบใหม่นี้ ได้ถูกออกแบบให้สามารถค้นพบจากระบบ Search Engine ได้ง่ายขึ้น ทั้งยังให้ความสำคัญกับช่องทางโซเชียล มีเดีย โดยเพิ่มส่วนของ Facebook Fan Page เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของหน้า Company Profile รูปแบบใหม่ ซึ่งถือเป็นการช่วยเพิ่มจำนวนสมาชิก Facebook Fan Page ให้กับองค์กรต่างๆ ได้อีกทางหนึ่งด้วย”
“นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เข้ากับกระแสความนิยมเกี่ยวกับด้าน IT คือ ระบบแผนที่อัจฉริยะ (Work Location Map) ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของหน้า Company Profile รูปแบบใหม่ โดยผู้สมัครงานสามารถทราบตำแหน่งที่ตั้งขององค์กรที่ต้องการสมัครได้ทันที ช่วยทำให้เกิดความสะดวกและลดปัญหาการวางแผนการเดินทางผู้สมัครในกรณีต้องเดินทางไปสัมภาษณ์งานอีกด้วย” นางสาวฐนาภรณ์กล่าวเพิ่มเติม
-กผ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit