นายอนันต์ วงศ์อารี ผู้พิการทางสายตา เจ้าของธุรกิจมูลค่ากว่า 50 ล้าน นักกีฬา และ นักดนตรี ระดับประเทศ

29 Nov 2012

กรุงเทพฯ--29 พ.ย.--คุ้มเกล้า ทีค ฮัท รีสอร์ท

จากเด็กชายที่สูญเสียการมองเห็น จากอุบัติเหตุตกจากรถไถนา ในท้องทุ่งมีนบุรี เมื่อประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา เริ่มต้นหาเลี้ยงชีพด้วยการพ่อค้าเร่ ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าของธุรกิจมูลค่ากว่า 50 ล้าน นายอนันต์ วงศ์อารี เจ้าของ คุ้มเกล้า ทีค ฮัท รีสอร์ท

“ หลังจากสนามบินสุวรรณภูมิเปิดให้บริการ ความต้องการที่พักสำหรับนักเดินทางบริเวณรอบๆ สนามบินค่อนข้างสูง แต่ยังไม่มีสถานที่พักสำหรับลูกค้าระดับกลาง ที่ต้องการที่พักเพื่อรอเปลี่ยนเครื่องไปยังจุดหมายปลายทางอีกแห่ง ผมรู้สึกได้ถึงความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ ซึ่งถือเป็นช่องว่างในตลาดที่ยังกว้างมาก ทำให้ผมมั่นใจในการเปิด คุ้มเกล้า ทีค ฮัท รีสอร์ท แห่งนี้ขึ้นมา “ อนันต์ วงศ์อารี กล่าว และว่า

ด้วยความขาดประสบการณ์ในธุรกิจนี้ ในช่วงแรกของของการเปิดให้บริการ มีเพียงบ้านทีมีลักษณ์เป็นบังกะโล 9 หลังเท่านั้น ต่อมาพบว่าถึงแม้จะมีผู้พักเต็มทุกวันก็ไม่คุ้มค่าจ้างแรงงาน ด้วย คุ้มเกล้า ทีค ฮัท รีสอร์ท มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงคิดว่าการเพิ่มจำนวนห้องพักอีก 19 ห้อง โดยแบ่งเป็นห้อง สูท 6 ห้อง และห้องสแตนดาร์ด 13 ห้อง นอกจากนี้ คุ้มเกล้า ทีค ฮัท รีสอร์ท ยังมีห้องประชุม ห้องสัมมนา และสระว่ายน้ำ ห้องคาราโอเกะ บริการรถเช่า และรับ-ส่งจากสนามบินไปที่ต่างๆ สำหรับลูกค้าแบ่งออกเป็นประเภทนักท่องเที่ยว ซึ่งมารอเปลี่ยนเครื่องบิน เพราะอยู่ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิเพียง 30 นาที และลูกค้าบริษัท ซึ่งใช้รับรองแขกที่มาดูงานจากต่างประเทศของ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง และนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียง การแข่งขันทางธุรกิจถือว่าไม่สูง เพราะในบริเวณใกล้เคียงไม่มีที่พักที่ได้มาตราฐาน ในราคาระดับปานกลาง โดยบริเวณโดยรอบจะมีห้องพักรายวันราคาถูก และโรงแรมที่มีระดับ รองรับลูกค้าในกลุ่มที่ต่างออกไป นอกจากนี้ คุ้มเกล้า ทีค ฮัท รีสอร์ท ได้สร้างจุดยืนที่ชัดเจน ด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ โดยสิ่งก่อสร้างมีไม้สักเป็นองค์ประกอบหลักทั้งหมด โดยการออกแบบตัวอาคาร จะออกแบบตามความรู้สึกที่ตัวเองต้องการ โดยอาศัยจากประสพการณ์การเดินทางไปพักตามที่ต่างๆในช่วงที่ทำงานและท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างความสะดวก ความปลอดภัยให้กับผู้มาใช้บริการ ดังจะเห็นได้จากมีทางลาด ประตูแบบเลื่อน ราวจับในห้องน้ำและทางเดิน แบบยูนิเวอร์แซล ดีไซน์ เพื่อลูกค้าทั่วไป และรองรับกลุ่มคนพิการ และผู้สูงอายุ ได้อีกอย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำ ห้องประชุมสัมมนา และห้องคาราโอเกะ

อนันต์ ยังได้กล่าวถึงแผนการในอนาคตว่า ตอนนี้เตรียมที่ดินไว้ที่จังหวัดเชียงรายไว้แล้ว 3 ไร่ เพื่อทำรีสอร์ท เช่นเดียวกับที่คุ้มเกล้า ทีค ฮัท รีสอร์ท ตอนนี้เพียงรอดูสถานการณ์หลังการเปิดประชาคมอาเซี่ยน ซึ่งหากมีผู้คนสัญจรไปมาจำนวนมากตามที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ ก็พร้อมที่จะดำเนินการทันที

ก่อนที่จะมาเป็นเจ้าของธุรกิจมูลค่า กว่า 50 ล้านบาท อนันต์ วงศ์อารี เป็นเพียงลูกหลานชาวนา เกิดและเติบโตที่มีนบุรี ปัจจุบันอายุ 35 ปี เริ่มต้นการศึกษา ที่โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ จนจบชั้น มัธยมปีที่ 2 แล้วย้ายมาเรียนรวมกับเด็กปกติ ที่โรงเรียนเทพลีลา และใช้เวลาเพียง 1 ปี ก็สอบเทียบจนจบชั้นมัธยมปีที่ 6 ที่โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย แล้วเข้าศึกษาต่อที่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง จนสำเร็จการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ โดยระหว่างเรียนที่รามฯ ก็เริ่มทำงาน เนื่องจากเป็นลูกคนโต จึงต้องดูแลน้องๆ การทำงาน ช่วงแรกเริ่มเล่นดนตรีประจำที่ร้านอาหารของคุณแม่ และช่วยงานในร้านด้วย ทั้งงานในครัว งานเสริฟ ซึ่งถือเป็นการสร้างพื้นฐานในธุรกิจบริการ เล่นดนตรี และช่วยงานที่ร้าน แค่เพียงอยู่ได้เท่านั้น แต่ยังไม่มีเงินเก็บ จึงอยากสร้างฐานะครอบครัวให้ดีขึ้น จึงออกมาขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งก็มีความเสี่ยง เพราะหากขายไม่หมดภายในวันออกรางวัล กระดาษเหล่านั้นก็ไม่เหลือค่าอะไร จึงเริ่มหาอาชีพเสริม ด้วยการเป็นพ่อค้าเร่ ขายสินค้ากิ๊ฟช็อป ขนมปัง โดนัท ขายของตามตลาดนัด และต่อมาเช่าบริเวณหน้าร้านขายน้ำส้มเกล็ดหิมะ และอื่นๆ อีกมาก เมื่อเริ่มสะสมทุนได้ระดับหนึ่ง จึงเริ่มทำธุรกิจซื้อขายที่ดิน โดยเริ่มซื้อที่ดินจัดสรร ขนาดประมาณ 50 ตารางวา ซื้อมาแล้วนำไปขายต่อ ได้กำไรดีพอสมควรจึงเริ่มทำมาเรื่อยๆ พร้อมกับความรู้สึกที่อยากทำ กิจการที่ไม่ต้องเดินทางมากนัก จึงเลือกซื้อที่ดินบริเวนใกล้เคียงกับบ้าน โดยเริ่มซื้อที่ขนาด100 ตารางวา จนได้พื้นที่ติดกันขนาด 2 ไร่ โดยมูลค่าของที่ดินแปลงนี้ในปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท โดยตอนซื้อมานั้นราคาอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านบาท และในส่วนของการก่อสร้างลงทุนไปแล้วประมาณ 30 กว่าล้านบาท

นอกจากเรียนและทำงาน อนันต์ ยังเป็นกีฬานักกีฬาโกลบอลทีมชาติ ระหว่างปี 2535-2542 และเป็นนักดนตรี ที่ได้รับการยอมรับระดับชาติ โดยชนะเลิศการแข่งขันสรรหาผู้พิการตัวแทนประเทศไทยไปร่วมงาน "มหกรรมดนตรีวาตาโบชิแห่งเอเชีย-แปซิฟิก" เทศกาลดนตรีสำหรับผู้พิการ ที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพ เมื่อปี 2542

สุดท้าย อนันต์ วงค์อารีย์ ยืนยันว่า คนพิการไม่ได้น่าสงสาร สามารถสร้าง ฝัน และทำทุกสิ่งได้เฉกเช่นคนทั่วไป ขอเพียง มีความ “ ตั้งใจ มุ่งมั่น และซื่อตรง”

-กผ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net