Movie: The Guillotines

27 Dec 2012

กรุงเทพฯ--27 ธ.ค.--สหมงคลฟิล์ม

ประเภท Action / Martial Art กำหนดฉาย 3 มกราคม 2012 บริษัทจัดจำหน่าย มงคลซีเนม่า อำนวยการสร้าง ปีเตอร์ ชาน (Wu Xia, The Warlords, Bodyguards and Assassins) กำกับ แอนดรูว์ เลา (ไตรภาค Infernal Affairs, Confession of Pain) เขียนบท ออเบรย์ แลม (Perhaps Love, The Warlords, Wu Xia) นำแสดง หวงเสี่ยวหมิง (Ip Man 2, The Message, Sacrifice) หรวนจิงเทียน (Monga, L-O-V-E, Destiny Love) หยูเหวินเล่อ (Reign of Assassins, Dragon Tiger Gate, Infernal Affair II) หลี่ยู่ชุน (Bodyguards and Assassins, Flying Swords of Dragon Gate)

---------------------------------------------------เนื้อเรื่อง----------------------------------------------------

The Guillotines คือผลงานการผนึกกำลังของสองผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการหนังจีน แอนดรูว์ เลา ผู้อำนวยการสร้าง Infernal Affairs ทั้งสามภาค ที่เข้ามารับหน้าที่เป็นผู้กำกับ และ ปีเตอร์ ชาน ผู้กำกับ Wu Xia ที่เข้ามารับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้าง อลังการทุ่มทุนสร้างกว่า 450 ล้านบาทและถ่ายทำในระบบสามมิติ เพื่อปลุกกระแสหนังแอ็คชั่น-กำลังภายในให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยได้ทีมนักแสดงแถวหน้าของวงการหนังจีนเข้ามาร่วมงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หวงเสี่ยวหมิง (Ip Man 2), หรวนจิงเทียน (Monga), หยูเหวินเล่อ (Reign of Assassins), หลี่ยู่ชุน (Bodyguards and Assassins) และ จิ่งป๋อหราน (หนึ่งในคู่ดูโอ BOBO)

“กงจักรโลหิต” ว่ากันว่านี่คืออาวุธที่อันตรายที่สุดในยุทธภพ ใครก็ตามที่ได้ยินชื่อของอาวุธชิ้นนี้ มันก็เสียดแทงลึกเข้าไปถึงกระดูก ด้วยรูปแบบการโจมตีที่น่าพิศวงและมีระยะทำการที่ไกล การล็อคเป้าหมายเอาไว้ที่คอหอย ใบมีดของมันสามารถบั่นหัวของฝ่ายตรงข้ามได้เพียงแค่การขยับปลายโซ่ นี่คืออาวุธของกลุ่มมือสังหารระดับสูงที่ทุกคนต้องเกรงกลัว

ในยุคสมัยของราชวงศ์ชิง ที่ชาวแมนจูยึดครองอำนาจประเทศจีน จักรพรรดิหย่งเจิ้ง ให้กำเนิดกลุ่มมือสังหารส่วนตัวขึ้นมา พวกเขามีหน้าที่กำจัดศัตรูที่พยายามโค่นล้มราชบัลลังก์ แต่แล้วเมื่อ จักรพรรดิเฉียนหลง ขึ้นครองราชย์ กลุ่มมือสังหารก็กลายเป็นที่ไม่ต้องการ เมื่อฮ่องเต้ให้ความสนใจในเทคโนโลยีสมัยใหม่ และอาวุธจากชาติตะวันตกเช่นปืนและปืนใหญ่มากกว่า กลุ่มมือสังหารได้รับหน้าที่ใหม่ในการกวาดล้างชาวฮั่น ที่กระด้างกระเดื่องต่อการปกครองของแมนจู

กลุ่มมือสังหารนำทีมโดย เลิ่ง (หรวนจิงเทียน) หัวหน้าที่มีฝีมือในการใช้กงจักรโลหิตมากที่สุด ในขณะที่สมาชิกในทีมอีกห้าคน ก็ประกอบไปด้วย มู่ (หลี่ยู่ชุน), ซาน (จิ่งป๋อหราน), ไถ, ฮูทู และ พูก้า ที่ต่างน้อมรับคำสั่งของฮ่องเต้อย่างจำยอม โดยตลอด 348 ภารกิจที่ผ่านมา พวกเขาไม่เคยประสบกับความล้มเหลวเลยซักครั้ง ด้วยฝีมือและชื่อเสียงทำให้ทีมสังหารมีความยิ่งผยองและมีความทะเยอทะยาน ภารกิจล่าสุดของทีมสังหารก็คือการกำจัด หลาง (หวงเสี่ยวหมิง) ผู้นำชาวฮั่นที่เป็นศัตรูสำคัญ โดยระหว่างการปฏิบัติภารกิจกลุ่มมือสังหารก็สามารถจับตัวเขาได้ อย่างไรก็ตาม เลิ่ง ก็ออกคำสั่งว่าให้จับเป็น เพื่อที่เขาจะได้ใช้ หลาง เป็นเครื่องต่อรองอำนาจกับฮ่องเต้ แต่ด้วยความชะล่าใจ พรรคพวกของ หลาง ก็บุกเข้ามาพาตัวหนีไป พร้อมกับจับตัว มู่ หนึ่งในสมาชิกทีมไปด้วย

หลาง และพรรคพวกได้หลบหนีออกไปนอกเขตปกครองของราชวงค์ชิง ทีมสังหารก็ไล่ตามเขาจนมาถึงหมู่บ้านเล็กๆ ในขณะเดียวกัน จักรพรรดิเฉียนหลง ก็สั่งให้ ตู้ (หยูเหวินเล่อ) มือสังหารคู่ใจและลูกสมุนมากำจัด หลาง รวมถึงกลุ่มมือสังหารทุกคนเพื่อกวาดล้างอำนาจเก่าให้สิ้นซาก ซึ่งทำให้ทั้ง หลาง และกลุ่มมือสังหารต้องร่วมมือกันต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด

----------------------------------แนะนำตัวละคร + ประวัตินักแสดง----------------------------------

หวงเสี่ยวหมิง (รับบทเป็น หลาง)

หัวหน้าของกลุ่มแก๊งค์ชาวฮั่นที่มีอดีตอันเป็นปริศนา ถึงแม้ภายนอกของ หลาง จะดูเหมือนผู้ชายที่น่ากลัวและอันตราย แต่ภายในใจของเขาก็มีความดีและความเจ็บปวดที่ซ่อนเอาไว้ เขามีความใฝ่ฝันที่จะล้มราชวงค์ชิงที่โหดเหี้ยม เพื่อคืนอำนาจสู่ประชาชนทุกคน และด้วยจำนวนสมาชิกของกลุ่มที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขากลายเป็นศัตรูตัวสำคัญของราชบัลลังก์ และทำให้ฮ่องเต้ตัดสินใจส่งทีมสังหารเพื่อมากำจัด

ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา หวงเสี่ยวหมิง คือซุปเปอร์สตาร์ชาวจีนที่มาแรงที่สุด ด้วยภาพยนตร์ใหญ่ 10 เรื่อง และซีรี่ย์ 19 เรื่อง เขาคือนักแสดงที่งานชุกมากที่สุดคนหนึ่งของวงการ โดยล่าสุดเขาก็จับคู่กับ โจวเหวินฟะ ในหนังเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้สุดยิ่งใหญ่อย่าง The Last Tycoon ของ แอนดรูว์ เลา และ หวังจิ้ง โดยหนังมีกำหนดฉายช่วงปลายเดือนมกราคม 2013

หวงเสี่ยวหมิง ยังมีผลงานการแสดงในหนังใหญ่อย่าง Sacrifice ของผู้กำกับ เฉินไค่เก๋อ, Ip Man 2 ที่เขาร่วมแสดงกับ ดอนนี่ เย็น และ หงจินเป่า, The Message หนังทริลเลอร์พีเรียดเรื่องเยี่ยม ที่ทำให้เขาได้เข้าชิงรางวัลสาขากนักแสดงสมทบชายใน Asian Film Awards นอกจากนั้นเขาก็ยังมีผลงานเรื่อง The Banquet ของผู้กำกับ เฝิงเสี่ยวกัง อีกด้วย

หยวนจิงเทียน (รับบทเป็น เลิ่ง)

เลิ่ง คือหัวหน้าทีมกิโยตินสังหาร เขาคือนักฆ่าที่มีประสบการณ์โชกโชน และมีความสามารถในการใช้กงจักรโลหิตมากที่สุด ด้วยฝีมือและลักษณะของความเป็นผู้นำ ทำให้ลูกทีมทุกคนยอมรับนับถือและพร้อมที่จะคำตามคำสั่ง เลิ่ง ถือเป็นหัวใจและจิตวิญญาณของทีมกิโยตินสังหาร

หยวนจิงเทียน เป็นนักแสดงขวัญใจวัยรุ่นทั้งในฮ่องกง, จีน และไต้หวัน โดยเขาสร้างชื่นจากซีรี่ย์สุดฮิตในไต้หวันอย่าง Green Forest, Wayward Kenting ก่อนที่จะมาโด่งดังเป็นพลุแตกกับซีรี่ย์เรื่อง Fate to love you ทำให้เขากลายเป็นไอด้อลทางจอแก้วปี 2008 ต่อมาในปี 2010 เขาก็ได้ก้าวเข้าสู่โลกภาพยนตร์ด้วยการแสดงนำในเรื่อง Monga ที่กลายเป็นหนังจีนที่ทำเงินในไต้หวันมากที่สุดประจำปี และทำให้เขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก Hong Kong Film Award และ Golden Horse Awards

หยู่เหวินเล่อ (รับบทเป็น ตู้)

ตู้ คือมือสังหารที่เชื่อฟังและจงรักภักดีต่อฮ่องเต้คนปัจจุบัน เขามีความมุ่งมั่นและไม่ยอมปล่อยให้ภารกิจล้มเหลว ตู้ รักษาเกียรติของการเป็นผู้รับใช้คนสำคัญของจักรพรรดิ เขาเป็นคนที่ฮ่องเต้ไว้วางใจมากที่สุด และเขาก็ไม่เคยคิดแปรพักตร์หรือทรยศ นั่นทำให้ ตู้ กลายเป็นศัตรูตัวฉกาจที่สุดสำหรับฝ่ายตรงข้าม

หยูเหวินเล่อ เริ่มต้นจากการเป็นนายแบบ ก่อนที่จะผันตัวมาเป็นนักแสดงเพื่อตามความฝัน โดยเขาเป็นที่รู้จักการการแสดงในเรื่อง Initial D (2004) จับคู่กับ เจย์ โชว์ และการแสดงอันยอดเยี่ยมของเขาใน Infernal Affairs (2002) ร่วมกับ เหลียงเฉาเหว่ย, หลิวเต๋อหัว และ แอนโธนี่ หว่อง ทำให้เขาได้รับบทนำในภาคต่ออย่าง Infernal Affairs II (2003) จากนั้นเขาก็มีผลงานการแสดงอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับบทนำในหนังอย่าง Jiang Hu (2004), Dragon Tiger Gate (2005) ประกบคู่กับ ดอนนี่ เยน, Shamo (2006), Invinsible Target (2006) และ Rebellion (2008)

ในปี 2007 หยูเหวินเล่อ ยังได้โกอินเตอร์ด้วยการเดินทางไปถ่ายหนังที่กรุงนิวยอร์คเรื่อง I Come With the Rain ร่วมกับนักแสดงฮอลลิวู้ดอย่าง จอช ฮาร์ทเน็ทท์ โดยผลงานในปีนี้ของเขาก็ยังมี Curse of the Deserted, Child's Eye รวมถึง Reign of Assassins ซึ่งถือเป็นหนังกำลังภายในพีเรียดเรื่องแรกของตัวเขา

หลี่ยู่ชุน (รับบทเป็น มู่)

เธอคือผู้หญิงเพียงคนเดียวในทีมกิโยตินสังหาร นั่นเป็นเพราะเธอคือลูกสาวของผู้ก่อตั้งทีม มู่ มีความสามารถในการต่อสู้ แต่เธอก็มีความประมาทและตั้งใจทำทุกสิ่งมากเกินไป นั่นเป็นเพราะเธอต้องการให้พ่อยอมรับในตัวเธอ และด้วยการกระทำแบบไม่คิดของเธอนั่นเอง ทำให้สมาชิกทีมต้องเจอกับปัญหาในระหว่างการทำภารกิจล่าสุด

จิ่งป๋อหราน (รับบทเป็น ซาน)

สมาชิกที่อายุน้อยที่สุดในทีมกิโยตินสังหาร ซาน คือสมาชิกหน้าใหม่ที่มีประสบการณ์น้อย แต่เขาก็มีความตั้งใจและอยากรู้อยากเห็น อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลาคับขัน เขาก็สามารถใช้กิโยตินได้อย่างคล่องแคล่ว และเป็นผู้ที่ช่วยเหลือทีมต่อสู้กับศัตรูได้ด้วยความมั่นใจ

จิมมี่ หวังอยู่ (นักแสดงรับเชิญ รับบทเป็น กง-อี)

เขาคือผู้ก่อตั้งทีมกิโยตินสังหาร กง-อี มีความจงรักภักดีต่อราชวงค์ชิง แต่เมื่อฮ่องเต้วางแผนที่จะกำจัดสมาชิกในทีมทุกคน ความเชื่อและจงรักภักดีของเขาก็ต้องสั่นคลอน กง-อี ต้องเลือกระหว่างการน้อมรับคำสั่งแต่โดยดี หรือการช่วยทีมสังหารที่มีลูกสาวของเขาอยู่ด้วย

--------------------------------------------เบื้องหลังการสร้าง----------------------------------------------

The Guillotines เป็นผลงานที่ ปีเตอร์ ชาน ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังมากมาย เช่น Wu Xia, The Warlords, Perhaps Love และ Comrades: Almost a Love Story ใฝ่ฝันที่จะหยิบหนังคลาสสิกของชอว์บราเดอร์อย่าง The Flying Guillotines กลับมารีเมค โดยในตอนแรกเขาก็ติดต่อกับ เท็ดดี้ ชาน ที่เคยร่วมงานกันสร้าง Bodyguards and Assassins อย่างไรก็ตามหลังจากการเปิดกล้องล่าช้าไป ทำให้ แอนดรูว์ เลา ผู้กำกับ สองคนสองคม ก็เข้ามารับหน้าที่กำกับแทน

ปีเตอร์ ชาน พูดถึงการร่วมงานกับ แอนดรูว์ เลา เป็นครั้งแรกว่า "ผมอยากร่วมงานกับเพื่อนที่ผมสนิทที่สุด ตอนแรกที่เราเตรียงานสร้างนั้เขามีหนังอยู่หลายเรื่องอยู่ในมือ ผมจึงขอให้ เท็ดดี้ ชาน ผู้กำกับ Bodyguards and Assassins เข้ามาทำงาน แต่ตอนนี้ แอนดรูว์ ว่างแล้วผมก็เลยเตรียมงานใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง"

แอนดรูว์ เลา ผู้กำกับ Infernal Affairs ทั้งสามภาค รวมถึงหนังคุณภาพอย่าง Confession of Pain และ Legend of the Fist เข้ามารับหน้าที่กำกับ โดยเขาก็เผยถึงแนวทางการสร้างที่พวกเขาต้องการว่า "ถึงแม้เราจะหยิบเอาหนังกำลังภายในคลาสสิกอย่าง The Flying Guillotines มาสร้างใหม่ แต่เรื่องราวในครั้งนี้ก็เป็นอะไรที่คิดใหม่ทำใหม่ทั้งหมด อีกทั้งอาวุธอย่าง กงจักรโลหิต ที่มีความสำคัญของเรื่อง โดยเราก็ออกแบบใหม่ให้มีความทันสมัย และใช้งานได้หลากหลายวิธีมากกว่าเดิม ผมคิดว่ามันจะต้องเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นที่สนุกที่สุดอย่างแน่นอน"

ปีเตอร์ ชาน ก็เสริมถึงสิ่งที่เขาคิดสำหรับการสร้างเรื่องนี้ว่า “ผมคิดว่ากงจักรโลหิตคืออาวุธที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในโลกของหนังกำลังภายใน ผมอยากทำให้เรื่องนี้มีอารมณ์ที่คล้ายกับ Bodyguards and Assassins นั่นคือการถ่ายทอดเรื่องราวของกลุ่มนักฆ่า ที่ต่อสู้เพื่อความเชื่อของตัวเองและการเอาชีวิตรอด”

นอกจากการผนึกกำลังของสองสุดยอดผู้กำกับ The Guillotines ก็ยังมีทีมงานคุณภาพ โดยการออกแบบเครื่องแต่งกายก็เป็นหน้าที่ของ ดอร่า อิง ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายคู่ใจของ ปีเตอร์ ชาน โดยเธอทำงานให้กับหนังที่เขากำกับทุกเรื่อง รวมถึงเคยได้รับรางวัล Hong Kong Film Awards สาขาเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยมมาแล้วถึง 4 ครั้ง จาก เถียนมีมี่, Purple Storm, Perhaps Love และ Bodyguards and Assassins

ความท้าทายที่สุดของ ดอร่า อิง ก็คือ การออกแบบชุดเกราะของทีมสังหาร โดยที่ถึงแม้ชุดของจะต้องเป็นธีมเดียวกัน แต่ชุดของแต่ละตัวละครก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน ซึ่งบ่งบอกลักษณะนิสัยของแต่ละคนด้วย เช่นหัวหน้าทีมที่แสดงโดย หรวนจิงเทียน ก็ให้ความรู้สึก "เย็นชา" ของสมาชิกทีมผู้หญิงอย่าง หลี่่ยู่ชุน ก็ให้ความรู้สึก "สมจริง", จิงป๋อหราน ก็ให้ความรู้สึก "หล่อเหลา", เพอร์บ้า ไรกัล ก็ให้ความรู้สึก "โหดเหี้ยม", และ โจวอี้เหว่ย ก็ให้ความรู้สึก "ไว้วางใจไม่ได้"

โดยชุดของทีมกิโยตินสังหารจะอยู่ในโทนสีแดงและดำ โดยแขนซ้ายก็ทำจากเหล็กหุ้มตั้งแต่ไหล่ไปจนถึงมือ และด้วยความที่มันมีสกรูยึดถึง 230 จุด และแผ่นเหล็กอีกถึง 168 ชิ้น ทำให้มันมีน้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัม โดยชุดนี้จะสามารถใช้แขนซ้ายเสมือนเกราะป้องกัน ส่วนแขนขวาก็ใช้อาวุธเพื่อโจมตี

เคนเน็ธ มัค ผู้ออกแบบงานสร้างที่เคยได้รับรางวัล HK Film Awards จากเรื่อง Bodyguards and Assassins รวมถึงผลงานอย่าง Ip Man 1 & 2 และ Fearless ก็พูดถึงการทำงานในหนังเรื่องนี้ว่า “ด้วยความที่หนังเกิดขึ้นในยุคราชวงค์ชิง ผมอยากแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างความหรูหราของพระราชวัง และความทรุดโทรมของภายนอก โดยเราก็ยังสร้างหมู่บ้านขึ้นมาใหม่ทั้งหมดในมณฑลซานซี เพื่อถ่ายทำฉากสงครามครั้งสุดท้าย”

นอกจากการออกแบบเครื่องแต่งกายและงานสร้าง อีกหนึ่งสุดยอดบุคลากรของวงการหนังจีนที่เข้ามาร่วมงานก็คือ หยวนปัน ผู้ออกแบบคิวบู๊ในตำนาน ที่มีผลงานสุดคลาสสิกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Flying Swords of Dragon Gate (พยัคฆ์ตะลุยพยัคฆ์), Fong Sai Yuk (ปึงซี่เง็ก ปิดตาสู้), The Blade (เดชไอ้ด้วน แขนหลุดไม่หยุดแค้น)

ทางด้านนักแสดงนำ หวงเสี่ยวหมิง พระเอกหนุ่มสุดเท่จาก Ip Man 2 และล่าสุดใน The Last Tycoon ที่ตอนแรกรับแสดงนำใน Bodyguards and Assassins แต่สุดท้ายไม่มีคิว ครั้งนี้เขาก็มีความตั้งใจที่จะร่วมงานกับทั้ง ปีเตอร์ ชาน และ แอนดรูว์ เลา โดยเขาต้องลงทุนไว้หนวดเคราเพื่อความสมจริง รวมถึงการฟิตร่างกายและลดน้ำหนักถึง 5 กิโล เพื่อรับบทเป็นมือสังหารปริศนา โดยแนวทางในการแสดงเป็นตัวละครนี้ของเขา หวงเสี่ยงหมิง ก็มักจะอยู่ในห้องพักคนเดียวและไม่สุงสิงกับใคร เพราะเขาต้องรับบทเป็นจอมยุทธที่มีบาดแผลทางจิตใจ และมีความเจ็บปวดทางอารมณ์

ทางด้าน หรวนจิงเทียน พระเอกจากหนังสุดฮิตเรื่อง Monga ก็ตอบปฏิเสธในการร่วมงานกับ ฉีเคอะ และ โจวซิงฉือ เพื่อที่จะเข้ามาแสดงในหนังเรื่องนี้ โดยเขาแสดงเป็นหัวหน้าทีมสังหารที่มีความมั่นใจในตัวเอง ก็ได้พูดถึงการใช้อาวุธว่า “ในเรื่องผมเป็นหัวหน้าทีม ดังนั้นผมจึงต้องแสดงให้เหมือนว่าตัวเองใช้อาวุธได้คล่องแคล่วที่สุด โดยอาวุธชิ้นนี้ไม่เหมือนกับที่อยู่ในหนังต้นฉบับ มันจะมีรูปแบบที่ไม่ตายตัว บางครั้งก็ใช้เป็นดาบ บางครั้งก็ขว้างมันเป็นกงจักรได้ มันสามารถพลิกแพลงใช้ได้หลายแบบ พวกเราทุกคนต้องฝึกฝนในการใช้มันอยู่นาน”

หยู่เหวินเล่อ นักแสดงที่ทุกคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดีจาก Reign of Assassins และ Infernal Affair II ก็พูดถึงแนวทางของฉากแอ็คชั่นในหนังว่า “สิ่งที่พวกเราได้รับรู้ตั้งแต่วันแรกเลยก็คือ การห้ามใช้สตันท์แสดงแทน ดังนั้นเราจึงต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งการฝึกใช้สลิงค์และการขี่ม้า ซึ่งด้วยการมีชุดเกราะที่หนักกว่า 10 กิโล มันก็ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างยากขึ้น และนอกจากคิวบู๊แล้วก็ยังมีการใช้ระเบิดที่มากกว่าหนังกำลังภายในเรื่องอื่นๆ พวกเราต้องทำลายหมู่บ้านที่สร้างขึ้นมาทิ้งไปเลย มันจึงทำให้นักแสดงทุกคนต้องตื่นตัวตลอดเวลา" หลี่ยู่ชุน ที่ร่วมงานกับ ปีเตอร์ ชาน เป็นครั้งแรกใน Bodyguards And Assassins ก็ได้กลับมาร่วมงานกับเขาอีกครั้ง โดยเขาก็พูดถึงเธอว่า "ครั้งแรกที่ผมพบเธอใน Bodyguards and Assassins เธอดูเหมือนเด็กอายุ 16 แต่ครั้งนี้เธอก็เติบโตขึ้นมากแล้ว ด้วยความเป็นผู้หญิงคนเดียวในทีมมือสังหาร เธอจึงต้องตั้งตัดผมสั้นให้กลมกลืน ถึงแม้ว่านี่เป็นเพียงแค่ภาพยนตร์เรื่องที่สาม แต่เธอก็แสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ที่มากขึ้น ทั้งในเรื่องการแสดงและการแสดงฉากแอ็คชั่น"

-----------------------------------------------ประวัติทีมสร้าง-----------------------------------------------

ปีเตอร์ ชาน (ผู้อำนวยการสร้าง)

เขาถือเป็นผู้มีอิทธิพลของวงการหนังจีน ที่สร้างชื่อจากการเป็นผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้าง โดยผลงาน 4 เรื่องล่าสุดของเขาทำเงินไปกว่า 600 ล้านหยวนเฉพาะในประเทศจีน ช่วงต้นทศวรรษที่ 90 เขากำกับหนังเรื่องแรกที่ได้ทั้งเงินและกล่องที่ชื่อ Alan and Eric: Between Hello and Goodbye (1991) รวมถึง He’s a Women, She’s a Man (1994) และ Comrades, Almost a Love Story (1997) ที่ได้รับถึง 9 รางวัลจาก Hong Kong Film Awards และยังเป็นหนึ่งในสิบหนังยอดเยี่ยมของ Time Magazine ปี 1997

ในปี 1998 ชาน ได้กำกับหนังฮอลลิวู้ดเรื่องแรก The Love Letter ภายใต้การสร้างของ สตีเว่น สปีลเบิร์ก ก่อนที่เขาจะก่อตั้งสตูดิโอ Applause Pictures ที่ได้อำนวยการสร้างหนังอย่าง Jan Dara (2001), One Fine Spring Day (2001), ไตรภาค The Eye (2002, 2004, 2005), Three (2002) and Three…Extremes (2004), Golden Chicken (2002) และ Golden Chicken 2 (2003)

ผลงานการกำกับเรื่องต่อมาของ ชาน ก็คือหนังมิวสิเคิล Perhaps Love (2005) ที่กลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดประจำปีของจีน ไต้หวัน และฮ่องกง และได้รางวัลรวมกันมากถึง 29 รางวัล ต่อมาเขาได้กำกับ The Warlords (2007) ที่นำแสดงโดย หลิวเต๋อหัว, เจ็ทลี และ ทาเคชิ คาเนชิโร่ ซึ่งทำเงินได้มากกว่า 220 ล้านหยวน และ 40 ล้านเหรียญทั่วทั้งเอเชีย ได้รับ 8 รางวัล Hong Kong Film Awards และ 3 รางวัลม้าทองคำ รวมถึงหนังยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยม

ในปี 2009 ปีเตอร์ ชาน ได้อำนวยการสร้างเรื่อง Bodyguards and Assassins ของผู้กำกับ เท็ดดี้ เฉิน ซึ่งก็ทำเงินถล่มทลายไปกว่า 300 ล้านหยวน และ 50 ล้านเหรียญทั่วทั้งเอเชีย และยังได้รับ 8 รางวัล Hong Kong Film Awards โดยในปี 2011 ชาน ก็ได้กลับมากำกับหนังแอ็คชั่นที่ชื่อ Wu Xia นำแสดงโดย ดอนนี่ เยน และ ทาเคชิ คาเนชิโร่

แอนดรูว์ เลา (ผู้กำกับ)

เขาเป็นที่รู้จักกันจากการกำกับมหากาพย์ไตรภาค “2 คน 2 คม” (Infernal Affairs) นำแสดงโดย เหลียงเฉาเหว่ย และ หลิวเต๋อหัว ซึ่งถูกนำไปรีเมคเป็นภาพยนตร์ฮอลลิวู้ดโดยผู้กำกับ มาร์ติน สกอเซซี่ย์ จนได้รับรางวัลออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และก็เพิ่งมีผลงานการกำกับหนังแอ็คชั่น/กำลังภายใน ที่นำแสดงโดย ดอนนี่ เยน เรื่อง The Legend of Chen Zhen

แอนดรูว์ เลา เริ่มอาชีพด้วยการเป็นผู้กำกับภาพให้กับผู้กำกับ หว่องการ์ไว อย่างเช่น As Tear Goes By และ Chungking Express จากนั้นเขาก็สร้างชื่อด้วยการเป็นผู้กำกับให้ Young and Dangerous (กู๋หว่าไจ๋) ทั้ง 6 ภาค รวมถึง The Storm Riders (ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า) และ A Man Called Hero (ขี่พายุ ดาบเทวดา) จนในที่สุดไตรภาค Infernal Affairs ก็ทำให้เขาได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากสถาบัน Hong Kong Film Awards และ the Golden Horse Awards

ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆของ แอนดรูว์ เลา ก็ยังมี Initial D นำแสดงโดย เจย์ โชว์ ซึ่งประสบความสำเร็จเรื่องรายได้ไปทั่วเอเชียและถูกเลือกเข้าไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์เมืองเวนิส โดยเขายังได้กำกับหนังต่างประเทศอีกอย่างเช่น Daisy ที่นำแสดงโดย จวนจีฮุน รวมถึง The Flock ที่นำแสดงโดย ริชาร์ด เกียร์ และ แคลร์ เดนส์

ออเบรย์ แลม (ผู้เขียนบท)

ผลงาน >>> Perhaps Love, The Warlords, Wu Xia

ดอร่า อิง (ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย)

ผลงาน >>> เถียนมีมี่, Purple Storm, Perhaps Love, Bodyguards and Assassins

เคนเน็ธ มัค (ผู้ออกแบบงานสร้าง)

ผลงาน >>> Bodyguards and Assassins, Ip Man 1 & 2, Fearless

หยวนปัน (ผู้ออกแบบคิวบู๊)

ผลงาน >>> Flying Swords of Dragon Gate, Fong Sai Yuk, The Blade

-กผ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net