ตงฟง จีน ผงาด ร่วมทุนวอลโว่ ผลิตรถเชิงพาณิชย์ตบเท้าเข้าสู่ตลาดโลก

07 Mar 2013

กรุงเทพฯ--7 มี.ค.--บีโอดับเบิลยู

กลุ่มตงฟง มอเตอร์ส ประเทศจีน และ เอบี วอลโว่ สวีเดน ได้ลงนามเซ็นสัญญาข้อตกลงร่วมกันทางธุรกิจผลิตรถเชิงพาณิชย์ในประเทศจีน เมื่อเร็วๆนี้ที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเป็นการปรับโครงสร้างครั้งสำคัญของ บริษัทตงฟง ในประเทศจีน โดยวอลโว่จะเข้ามาร่วมพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีการผลิต และการตลาดภายใต้แบรนด์ตงฟง ในกลุ่มรถบรรทุกขนาดกลางจนถึงกลุ่มรถบรรทุกหนัก ซึ่งจะมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเสิ่นหยาง มญฑลหูเป่ย ประเทศจีน

การลงทุนสำหรับการร่วมทุนครั้งนี้ อยู่ที่ประมาณ 12.5 พันล้านหยวน ถือว่าการฉีกกฎการร่วมทุนในตลาดรถยนต์แบบเดิม โดย ทางตงฟง ถือหุ้นอยู่ที่ 55% ขณะที่วอลโว่ถืออยู่ 45% และยังเป็นการเปิดยุค post joint venture era” ที่จะใช้แบรนด์จีนเข้าสู่ตลาดสากลอีกด้วย ซึ่งจะร่วมกันดำเนินงานทั้งด้านการวิจัยและพัฒนาการผลิต รวมถึงการขายภายใต้แบรนด์ ตงฟง โดยครอบคลุมกลุ่มธุรกิจรถบรรทุกขนาดกลางและรถบรรทุกหนัก ตลอดจนรถตู้ ยาพานะพิเศษ ตัวถัง เครื่องยนต์ และเกียร์

“ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บริษัทตงฟง มอเตอร์ส ประเทศจีน จีนมียอดขายอยู่ราวๆ 7.9 ล้านคัน และเมื่อ 2012 ที่ผ่านมา ยอดขายของรถยนต์โดยสารเพิ่มขึ้นถึง 1.2 ล้าน ขณะที่ ยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์สูงขึ้นกว่า 600,000 คัน ซึ่งเห็นได้ว่าการเติบโตของรถเพื่อการพาณิชย์ในประเทศจีนลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง ทางบริษัทฯ จึงเห็นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่เราจะขยายตลาดสู่ต่างประเทศ” ซู ปิง ประธานกรรมการบริหารของ บริษัทตงฟง มอเตอร์ส คอร์เปอเรชั่น กล่าว

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า บริษัทตงฟง มอเตอร์ส คอร์เปอเรชั่น มีศักยภาพด้านแข่งขันทางการควบคุมการผลิตด้วยต้นทุนที่ต่ำโดยยังอยู่ภายใต้กรอบกฎเกณฑ์ภายในประเทศ ขณะเดียวกันยังมีช่องว่างทางการตลาด ให้บริษัทฯสามารถพัฒนาคุณภาพการผลิตเข้าสู่ระดับสากลได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม การประหยัดพลังงาน และความปลอดภัย ซึ่งการร่วมมือกันครั้งนี้ ทางวอลโว่จะนำเทคโนโลยีทางด้านการผลิตเข้ามาใช้เพื่อพัฒนารถเชิงพาณิชย์ของตงฟงให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น

รถเชิงพาณิชย์เป็นรถขั้นพื้นฐานที่พัฒนาอยู่ในบริษัท ตงฟง มอเตอร์ส คอร์เปอเรชั่น ซึ่งเป็น บริษัทแม่ของบริษัท ตงฟง มอเตอร์ส จำกัด ที่เป็นบริษัทที่ดูแลเรื่องการผลิตรถยนต์โดยเฉพาะ มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองอู่ฮั่น เมืองหลวงของประเทศจีนตอนกลางในมณฑลหูเป่ย ซึ่งแต่เดิม บริษัทตงฟง มอเตอร์ส คอร์เปอเรชั่น ได้ร่วมทุนกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ส ในสัดส่วน 50:50 แต่เนื่องจาก นิสสัน มอเตอร์ ยังขาดทรัพยากรสำหรับการพัฒนารถเชิงพาณิชย์ รวมถึงขาดความรู้และประสบการณ์ในผลิตรถบรรทุกหนัก จึงไม่สามารถตอบสนองความต้องการของบริษัทฯ ในการก้าวสู่ตลาดสากลได้ ทำให้ บริษัทตงฟง มอเตอร์ส คอร์เปอเรชั่น ทำการซื้อธุรกิจรถเชิงพาณิชย์ขนาดกลางและหนักภายใต้บริษัทตงฟง มอเตอร์ส จำกัด กับทาง วอลโว่ ซึ่งเป็นพันธมิตรในการผลิตรถเพื่อการพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยทางนิสสันได้ขอถอนตัวจากตงฟง อย่างไรก็ตามทางตงฟง ยังคงทำสัญญาร่วมสนับสนุนธุรกิจรถยนต์โดยสารของนิสสันในประเทศจีนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนการผลิตรถอินฟินิตี้และเรโนลต์ภายในประเทศ

จู ฟูชือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของของ ตงฟง มอเตอร์ส คอร์เปอเรชั่น กล่าวเสริมว่า เนื่องด้วยเหตุผลด้านการสนับสนุนเชิงธุรกิจ และการใช้ทรัพยากรร่วมกัน เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าพันธมิตรของเราจะให้ความร่วมมือในการพัฒนาธุรกิจระหว่างประเทศทางด้านรถเชิงพาณิชย์สู่ตลาดโลก สำหรับการร่วมทุนครั้งนี้ บริษัทตงฟง ในจีน จะเริ่มต้นด้วยการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีทางการผลิตที่ทันสมัยของวอลโว่ และยังร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มระดับโลกเพื่อให้เข้ากับมาตรฐานที่กำหนดของทางยุโรปด้วย”

โอลอฟ เพอร์สัน ซีอีโอของวอลโว่ ได้กล่าวว่า ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าของวอลโว่ และเครือข่ายพันธมิตรที่ดีทั่วโลก จะช่วยทำให้รถยนต์เชิงพาณิชย์แบรนด์ตงฟงก้าวเข้าสู่ตลาดโลกได้ และ ยังเป็นการขยายตลาดของวอลโว่ในประเทศจีนอีกด้วย”

ข้อมูลจาก People's Daily Online และ chinadaily

-กผ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net