กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
คุณศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายที่จะปรับภารกิจและบทบาทของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศให้สอดคล้องกับสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศและเศรษฐกิจโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงทุกขณะ จึงได้ปรับยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนการค้าและการส่งออกโดยให้ความสำคัญกับการกระจายตลาดการส่งออกไปยังตลาดใหม่เป็นอันดับต้นๆ มีการประสานความร่วมมือกับเอกชนอย่างบูรณาการ เพราะกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเล็งเห็นว่าผู้ประกอบการSMEsจะมีบทบาทสำคัญยิ่งในการกระจายโอกาสทางการค้าการส่งออก จึงเตรียมแผนและการดำเนินงานตลอดจนส่งเสริมช่องทางการค้าที่มีประสิทธิภาพให้กับผู้ประกอบการSMEsของไทย ทั้งนี้ตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลาง จัดว่าเป็นตลาดส่งออกที่มีศักยภาพสูงแห่งหนึ่งซึ่งหากมีการศึกษาและเตรียมพร้อม สินค้าและบริการของไทยจะสามารถเจาะตลาดอาหรับสร้างรายได้อย่างมหาศาลทดแทนตลาดประเทศคู่ค้าของไทยในภูมิภาคต่างๆที่อยู่ในภาวะชะลอตัว เพื่อผลักดันรายได้โดยรวมของการส่งออกให้ได้ตามเป้าที่วางไว้ในปี56เป็นต้นไปคือการขยายตัวขึ้นเป็นร้อยละ8-9
การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้เริ่มดำเนินการสนับสนุนSMEsไทยอย่างเป็นรูปธรรมเมื่อเร็วๆนี้ ณ ห้อง Al Wasl Ballroom C โรงแรมดุสิตธานี ถนนSheikh Zaed ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองดูไบ ได้จัดพิธีแถลงข่าว “SMEsไทยจับมือยูเออี ร่วมเติบโตไปด้วยกัน” เผยแผนการสนับสนุนผู้ประกอบการSMEsไทยที่เข้าร่วมในหมู่บ้านไทย (Thai Pavilion) ณ งานแสดงสินค้านานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง “โกลบอลวิลเลจ ดูไบ ครั้งล่าสุด ” (Global Village Dubai 2012-2013) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางการค้าให้กับSMEsที่จะเข้าไปทำตลาดในประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ พร้อมกับสร้างโอกาสในการทำงานร่วมกับผู้ประกอบการSMEsของยูเออีในภูมิภาคตะวันออกกลาง” โดยมี คุณทศพร มูลศาสตร์สาทร กงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ กระทรวงการต่างประเทศ คุณณัฐพงศ์ บุญจริง ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองดูไบ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และ คุณอัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ ประธานสภานักธุรกิจไทยในสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ เป็นผู้ร่วมแถลงข่าว
คุณทศพร มูลศาสตร์สาทร กงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ กล่าวว่า “SMEs มีความสำคัญยิ่งต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยเพราะทำให้เกิดการสร้างงานขึ้นในประเทศถึง 78% อันประกอบด้วยธุรกิจที่นอกเหนือจากภาคเกษตรกรรม คิดเป็น 43% ของเศรษฐกิจมวลรวมในประเทศ(GDP) และอีก 30% เป็นภาคการส่งออก รัฐบาลไทยจึงมีการประกาศนโยบายพัฒนาและส่งเสริม SMEs โดยแต่ละธุรกิจได้มีการวางกลยุทธ์ที่แตกต่างกันไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุดต่อธุรกิจนั้นๆ ทั้งนี้รัฐบาลไทยเชื่อว่าหากภาครัฐและเอกชนให้ความร่วมมือกับนโยบายโดยมองไปในทิศทางเดียวกันว่าธุรกิจสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศชาติทำให้ประเทศไทยเติบโตในทุกด้าน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว รัฐบาลจึงตั้งใจที่จะช่วยเหลือภาคเอกชนในแห่งให้ร่วมมีส่วนในการช่วยกันพัฒนาอนาคตของประเทศไทย”
คุณณัฐพงศ์ บุญจริง ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองดูไบ กล่าวว่า “ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกำลังดำเนินการจัดทำแผนสนับสนุนผู้ประกอบการSMEsไทย ผ่านงานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศ เราได้มีนโยบายร่วมมือกับรัฐบาลประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ในการช่วยเหลือ SMEs ทั้ง 2 ประเทศให้เติบโตไปด้วยกันในภูมิภาคตะวันออกกลาง ขณะเดียวกัน SMEs ต้องพัฒนาศักยภาพเพื่อสร้างโอกาสทางการแข่งขัน โดยเฉพาะการสร้างมูลค่าของสินค้า และการสร้างตราสินค้า ดังนั้นเราจึงได้เชิญ SMEs จากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และทุกท่านเยี่ยมชมหมู่บ้านไทย ท่านจะได้พบกับโอกาสในการร่วมธุรกิจกับ SMEs จากประเทศไทย ซึ่งหมู่บ้านไทยได้นำเสนอสินค้าหลากหลายประเภทที่มีคุณภาพสูงในราคาที่เหมาะสม”
คุณอัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ ประธานสภานักธุรกิจไทยในสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ ได้กล่าวถึงบทบาทของสภานักธุรกิจไทยในสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์คือช่วยประชาสัมพันธ์ธุรกิจSMEsไทย เพื่อสร้างโอกาสให้กับนักธุรกิจ SMEsไทยที่ดำเนินธุรกิจในประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ การสนับสนุนต่างๆที่ได้รับจากภาครัฐนี้เชื่อว่าจะอำนวยประโยชน์และโอกาสทางธุรกิจไม่เพียงแต่สำหรับSMEs แต่ยังช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่าง 2 ประเทศอีกด้วย พร้อมกล่าวว่าการเข้าร่วมของทางภาครัฐในหมู่บ้านไทยที่จัดในงานแสดงสินค้าโกลบอลวิลเลจดูไบครั้งนี้ ถือเป็นช่องทางทางการค้าที่สามารถนำเสนอและประชาสัมพันธ์สินค้าตลอดจนการบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ”ตัวอย่างSMEsไทยที่ประสบความสำเร็จในการเข้าร่วมกับหมู่บ้านไทยครั้งนี้ อาทิเช่น Dr. Boon น้ำหอมจากไม้ Oud , Papa Junior ร้านอาหารไทย, Thai Snack อาหารฟาสต์ฟู้ด และร้านขายของชำเบ็ดเตล็ด, Molly Spa ร้านสปาและนวดไทยแผนโบราณ, Tumnan Wellness ผลิตภัณฑ์สปาและบำรุงความงามจากธรรมชาติ, Madam Benze แฟชั่นเครื่องแต่งกายสตรี, Thai fruit ผลไม้ไทย
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศภายใต้การบริหารของอธิบดีหญิง ศรีรัตน์ รัษฐปานะ ยังได้เตรียมจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อสนับสนุนSMEsไทยให้เติบโตขึ้นเป็นSMEsส่งออกที่มีศักยภาพด้วยกลยุทธ์การค้าที่สอดคล้องกับสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนไปส่งเสริมให้ภาครัฐและเอกชนทุกภาคส่วนจับมือทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน สำหรับการเจาะตลาดตะวันออกกลาง โดยเริ่มที่ประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ซึ่งเป็นคู่ค้าอันดับ1ในภูมิภาคอาหรับ เป็นหนึ่งในภารกิจส่งเสริมตลาดใหม่ตามนโยบายสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของภาครัฐอันเป็นความท้าทายของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศที่ดำเนินงานมาครบ61ปีก้าวขึ้นสู่ปีที่62 ในปีนี้
-กภ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit